25 เม.ย. 2022 เวลา 07:07 • ข่าวรอบโลก
5 คดีปริศนาที่ยังคงหาคำตอบไม่ได้ของญี่ปุ่น
คดีปริศนาที่ยังคงไขไม่กระจ่าง นับว่าเป็นเรื่องที่หายากนักในประเทศญี่ปุ่นมีรายงานว่าการก่ออาชญากรรมรุนแรงเกิดขึ้นน้อยมาก อัตราการฆาตกรรมต่ำกว่า 1 ต่อ 100,000 คนเลยก็ว่าได้ การฆาตกรรม การหายตัวไป และความลึกลับอื่น ๆ ที่ยังคงไขปริศนาไม่ได้ ถือเป็นเรื่องแปลกประหลาดจากดินแดนอาทิตย์อุทัยที่น่าสนใจที่สุด คดีลึกลับเหล่านี้ยังคงไม่ได้รับคำตอบกว่าหลายทศวรรษ และบางทีเราอาจจะไม่สามารถหาคำตอบได้
1.การฆาตกรรมยกครอบครัวในเซตะงายะโตเกียว
เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ปี 2000 ได้เกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมที่น่าสยดสยองขึ้นในเขตเซตะกายะของโตเกียว คืนนั้นมิคิโอะ มิยาซาวะ วัย 44 ปี, ยาสุโกะ มิยาซาวะ วัย 41ปี และลูกๆของพวกเขา ลูกสาว นีน่า อายุ 10 ขวบ และ ลูกชาย เรย์ อายุ 6 ขวบ ถูกฆาตกรรมอย่างสลดสยองโดยลูกชายเสียชีวิตจากการรัดคอ ส่วนที่เหลืออีก 3 คนถูกของมีคมแทงจนเสียชีวิต ผลจากการตรวจสอบลายนิ้วมือและหลักฐานอื่นๆ พบว่าหลังจากก่อฆาตกรรม คนร้ายยังใช้คอมพิวเตอร์ และทานไอศกรีมอยู่ภายในบ้านหลังนี้เป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนจากไปในเช้าวันรุ่งขึ้น แม้จะพบหลักฐานมากมายรวมถึงดีเอ็นเอของฆาตกร แต่ตำรวจก็ยังไม่สามารถจับกุมฆาตกรได้
2.หญิงตั้งครรภ์ถูกฆาตกรรมโดยผ่าเอาเด็กออกจากท้องในนาโกย่า
คดีของเว็บไซต์ท่องเที่ยวผีสิงเล่าว่า ในช่วงปี 1988 มีชายคนหนึ่งได้กลับมาที่อพาร์ทเมนต์ที่นาโกย่าและพบว่าประตูไม่ได้ล็อค ไฟก็ปิดมืดสนิท หลังจากเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ เขาจึงรีบวิ่งไปดูก็พบกับร่างภรรยาที่ตั้งครรภ์มีแผลถูดกรีดที่ท้อง ส่วนลูกถูกนำออกมาจากตัวภรรยาโดยตัดสายสะดือและถูกวางไว้อยู่ตรงปลายเท้าของภรรยา ร่างของภรรยาของเขาถูกจับมัดและรัดคอจนเสียชีวิตก่อนที่ฆาตกรจะลงมือผ่าท้องนำลูกออกมา แม้กระทั่งตัดสายสะดือ ลูกของเขารอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ แต่ไม่พบฆาตกร โดยทางตำรวจได้ปกปิดรายชื่อของเหยื่อเป็นความลับ
3.การหายตัวไปของ ยูกิ โอนิชิ เด็กหญิงที่จางหายไปตามสายลม
เมื่อวันที่ 29 เมษายน ในปี 2005 ยูกิ โอนิชิ เด็กสาววัย 5 ขวบ กำลังขุดหน่อไม้เพื่อนำไปเฉลิมฉลอง Greenery Day (วันสีเขียว) หรือวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระจักรพรรดิโชวะ หลังจากที่เจอหน่อไม้หน่อแรก เธอก็เอามาอวดแม่ของเธอ และวิ่งกลับไปขุดหาอีก ผ่านไปประมาณ 20 นาที แม่ของเธอจึงรู้ว่าเธอไม่ได้อยู่กับคนขุดหน่อไม้คนอื่น ๆ จึงได้เริ่มออกค้นหาตัวเธอ โดยใช้สุนัขตำรวจในการดมกลิ่น จนมาถึงจุดหนึ่งในป่าใกล้ ๆ สุนัขทั้ง 4 ตัววิ่งมาจบอยู่ตรงที่จุดเดียวกันแต่กลับไม่พบร่องรอยของยูกิอีกเลย ราวกับว่าเธอจางหายไปพร้อมกับสายลม
4.การฆ่าตัวตายหมู่ที่คุมาโตริ ผู้เสียชีวิต 7 รายอยู่ห่างกันแค่ 0.7 ไมล์
ในปี 1992 ระหว่างเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม พบวัยรุ่น 5 คน ได้ฆ่าตัวภายใต้สถานการณ์ที่น่าสงสัยในเมืองคุมาโตริ จังหวัดโอซาก้า โดย 3 คนเป็นเพื่อนกันและรู้จักกับอีก 2 คนที่เสียชีวิตเมื่อหลายเดือนก่อน ก่อนที่จะได้รับอุบัติเหตุผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เกี่ยวข้องกับการใช้สารเสพติดทินเนอร์
โดยมีข้อเท็จจริงแปลก ๆ มากมายเกี่ยวข้องกับการฆ่าตัวตาย ผู้เสียชีวิตทั้ง 7 รายเสียชีวิตอยู่ห่างกันไม่เกิน 0.7 ไมล์และวัยรุ่นทั้ง 5 คนอยู่แก๊งมอเตอร์ไซค์เดียวกัน หนึ่งในคนที่ฆ่าตัวตายนั้นแขวนคอตัวเอง รอยเชือกเหมือนถูกรัดคอมากกว่าการฆ่าตัวตาย นอกจากนี้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งเสียชีวิตจากบาดแผลถูกแทงที่คอและหน้าอกซึ่งเป็นวิธีการฆ่าตัวตายที่แปลกและถูกพูดถึงน้อยที่สุด มีรายงานว่าวัยรุ่นหลายคนถูกสะกดรอยตามก่อนเสียชีวิต
5.ไร้เงาฆาตกรฆ่าเหยื่อ 2 ราย ขณะไปเก็บเฟิร์น
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 1979 ผู้หญิง 2 คนที่มีชื่อว่า เคโกะ มิซุโนะ วัย 32 ปี และ ฮิเดะโกะ อาคะชิ วัย 43 ปี ได้เดินทางไปที่ภูเขาโนะฮาระเพื่อไปเก็บเฟิร์น 2 วันให้หลังก็พบร่างไร้วิญญาณพร้อมร่องรอยการถูกทุบตีอย่างโหดเหี้ยม ศพของมิซุโนะถูกกระหน่ำแทงกว่า 50 ครั้ง และศพของอาคะชิถูกแทงกว่า 30 ครั้ง ทั้งคู่ถูกตัดที่เอ็นร้อยหวาย ในขณะที่มิซุโนะถูกบีบคอจนตายพร้อมกับถูกถอดกางเกงออก และถูกกระทำชำเราด้วยใช้กิ่งไม้
ตำรวพบมีดถูกทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ และระหว่างการสืบสวนก็มีการพบคราบอสุจิบนกางเกงของอาคะชิ ในกระเป๋ากางเกงอาคะชิ ก็พบกระดาษใบเสร็จที่มีข้อความเขียนไว้ว่า “เราถูกสะกดรอยตาม ช่วยฉันด้วย ผู้ชายคนนี้เป็นคนไม่ดี” แม้จะมีเบาะแสและหลักฐาน แต่ก็ไม่ยังไม่สามารถระบุตัวตนของฆาตกรได้
โฆษณา