เงินที่ดีต้องมีศักยภาพในการแลกเปลี่ยนที่สูงโดยมีการสูญเสียมูลค่าทางราคาน้อยที่สุด ลองเปรียบเทียบ ทองกับBTC
1. ศักยภาพแลกเปลี่ยนเชิงปริมาตร: ที่ดีต้องแบ่งเป็นหน่วยเล็กๆและรวมเป็นหน่วยใหญ่ได้ เพื่อขายในปริมาณใดก็ได้ตามต้องการ
BTC: มีหน่วยย่อยที่ได้ถึง 1BTC=0.00000001SAT
ทองคำ: การแบ่งเป็นหน่วยย่อยหรือรวมทำได้ยากกว่าต้องมีต้นทุนในการทำ พกพาลำบาก จึงมีการทดแทนด้วยเงินFiat
2.เชิงระยะทาง: คือความสะดวกในการขนส่งหรือพกพาไปสถานที่ต่างๆ ต้องมีอัตราส่วนของมูลค่าต่อน้ำหนักที่สูง
BTC: เครือค่าย node ของมันทำให้คุณพกพาไปที่ใดก็ได้บนโลก ไม่มีinternet ก็สามารถโอนผ่าน SMS ได้!!
ทอง: ขนส่งและพกพาลำบาก คุณไม่สามารถนำทองออกนอกประเทศได้โดยอิสระ(ควบคุมโดยรัฐฯ)
ปล.ในสงคราม ยูเครน-รัซเสีย ผู้อพยพชาวยูเครนหนีตายโดยไม่มีทรัพย์สินหรือเงินสดติดตัวเลยออกนอกประเทศได้เพราะใช้ crypto currency
3.เชิงกาลเวลา: เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นคือการรักษามูลค่าให้คงอยู่ในอนาคต(store of value) ปัจจัยที่สำคัญคือระดับปริมาณ(supply)ต้องไม่เพิ่มเร็วเกินไป นั่นคือเงินต้องสร้างยาก(Hard money)
BTC: ถูกจำกัดปริมานไว้ที่ 21ล้านเหรียญ และทุกๆ4ปีปริมานที่ขุดได้จะถูกลดลงครึ่งนึงมันจะสร้างยากขึ้นเรื่อยๆและใช้เวลาอีก100++ปีจึงจะหมด ส่วนการรักษามูลค่าตอนนี้ทำได้ไม่ดีเพราะมีคนเข้ามาเก็งกำไร(speculator) กันมากกว่าคนส่วนมากจึงยังมองว่าเป็นสินทรัพย์มีความเสี่ยงส่วนน้อยที่จะเข้าใจมัน เพราะมันพึ่งเกิดขึ้นมาสิบกว่าปีส่วน…
ทองคำ: เวลา5000ปีได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามันคือ store of heaven มูลค่าของมันขึ้นตามเงินเฟ้อ
จากที่กล่าวมาลองหาคำตอบแล้วบอกด้วยนะครับว่าคิดว่ามันจะแทนที่ได้หรือไม่ แต่ส่วนตัวผมคิดว่า BTC ควรจะมาเป็นมาตรฐานการเงินโลกมากกว่า แทนที่ US$ ที่เป็นทุนสำรองเกือบทุกประเทศโดยมีFED พิมพ์supplyเข้าระบบอย่างบ้าคลั่งทำให้เงินเฟ้อมาถึงวันนี้
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
