27 เม.ย. 2022 เวลา 03:21 • การศึกษา
วิ่งตามไปตีชายชู้ที่ขี่มอเตอร์ไซค์หนีเพราะจับได้ว่ามีอะไรกับภรรยาตัวเอง จะอ้างว่าทำไปเพื่อป้องกันตัวได้หรือไม่
เหตุการณ์มันจะดูวุ่นวายหน่อยนะครับ
เรื่องมีอยู่ว่า สามีจับได้ว่าภรรยาของตนมีชู้.. คือ เห็นคาตาในขณะที่ภรรยากับชายชู้กำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันชัดเจนแบบ 4K เลยทีเดียว
ภาพมันบาดตา สามีจึงเลือดขึ้นหน้า จึงเดินเข้าไปชกต่อยกับชายชู้..
ชายชู้เริ่มเพลี่ยงพล้ำ ภรรยาเห็นท่าไม่ดี ตนเองและชายชู้จึงรีบใส่กางเกง โดยภรรยาไปสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์และเรียกชายชู้ให้ขึ้นมาซ้อนท้ายแล้วขับหนีไป.. (สุดยอดไปเลยยยย)
สามีวิ่งไล่ตามไปทันที และใช้ไม้และเสียมตีชายชู้จนถึงแก่ความตาย
จากเหตุการณ์ดังกล่าวจึงเกิดคำถามขึ้นว่า สามีจะอ้างว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการป้องกันตัวเพื่อที่จะไม่ต้องรับผิดได้หรือไม่
(การที่ผู้กระทำความผิดจะอ้างป้องกันได้นั้น จะต้องมีองค์ประกอบหลัก 4 ข้อด้วยกัน
2
1. ทำไปเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือผู้อื่น
2. เพื่อให้พ้นจากภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย
3. เป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง
4. ได้ทำไปพอสมควรแก่เหตุ)
เนื่องจากคนที่เรียนกฎหมายส่วนใหญ่คงคุ้นเคยกับคำพิพากษาฎีกา (ฎ.378/2479) ที่มีข้อเท็จจริงว่า สามีเห็นภรรยา (โดยชอบด้วยกฎหมาย) ของตนกำลังมีอะไรกับชายชู้ จึงยิงชายชู้จนถึงแก่ความตาย
ซึ่งศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาในคดีดังกล่าวว่า การกระทำของสามีเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ เนื่องจากเป็นการกระทำในขณะที่ภรรยากับชายชู้กำลังมีอะไรกัน
โดยถือว่าเป็นการป้องกันเกียรติของตน เป็นกรณีสมควรแก่เหตุ สามีจึงไม่มีความผิด..
ลองกลับมาดูเหตุการณ์นี้บ้าง...
เหตุการณ์นี้ แม้สามีจะเห็นภรรยาของตนกำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะกับชายชู้
แต่เมื่อชายชู้ได้ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์และขับออกไปแล้ว จึงต้องถือว่าภยันตรายอันเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายได้ผ่านพ้นไปแล้ว
การที่สามีวิ่งตามไปใช้ไม้และเสียมตีชายชู้จนถึงแก่ความตาย จึงไม่อาจอ้างว่าเป็นการป้องกันสิทธิของตนได้
อย่างไรก็ตาม กฎหมายถือว่าเป็นการกระทำที่ “กระชั้นชิด” จากเหตุการณ์ที่สามีเห็นกิจกรรมเข้าจังหวะระหว่างภรรยากับชายชู้ จึงถือได้ว่าสามีถูกชายชู้ข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม
การที่สามีใช้ไม้และเสียมตีชายชู้จนถึงแก่ความตายในขณะนั้น จึงเป็นการกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยบันดาลโทสะ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 72
เกร็ดความรู้: หากเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ ศาลจะลงโทษผู้กระทำน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้
- อ้างอิงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5486/2560
โฆษณา