27 เม.ย. 2022 เวลา 04:23 • ธุรกิจ
กลุ่มธนาคารพาณิชย์ จำนวน 10 แห่ง ล่าสุดประกาศกำไรสุทธิ ไตรมาส 1 ปี 2565 รวมกันอยู่ที่ อยู่ที่ 53,339 ล้านบาท เติบโตขึ้น 14.40% จากช่วงไตรมาส 1 ปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 46,631 ล้านบาท
ธนาคารพาณิชย์ที่มีกำไรสุทธิ 10 อันดับสูงสุดได้ดังนี้
1. ธนาคารกสิกรไทย มีกำไรสุทธิ 11,211 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.50%
2. ธนาคารไทยพาณิชย์ มีกำไรสุทธิ 10,193 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1%
3. ธนาคารกรุงไทย มีกำไรสุทธิ 8,780 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.40%
4. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา มีกำไรสุทธิ 7,418 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14%
5. ธนาคารกรุงเทพ มีกำไรสุทธิ 7,118 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.80%
6. ธนาคารทหารไทยธนชาต มีกำไรสุทธิ 3,195 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15%
7. ธนาคารเกียรตินาคินภัทร มีกำไรสุทธิ 2,055 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.52%
8. บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป มีกำไรสุทธิ 1,795 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.81%
9. ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย มีกำไรสุทธิ 1,061 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 211%
10.บมจ. แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป มีกำไรสุทธิ 512 ล้านบาท ลดลง 8.70%
นักวิเคราะห์ ปรับกำไรกลุ่มแบงก์ปีนี้ขึ้นเป็น 1.96 แสนล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์(บล.) บัวหลวง ระบุว่า ได้ปรับเพิ่มกำไรสุทธิของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ปี 2565 รวมทั้ง 8 ธนาคารที่ให้คำแนะนำขึ้น 1.8% เป็น 1.96 แสนล้านบาท เติบโต 9% จากปีก่อน โดยปรับสมมติฐานการเติบโตของสินเชื่อเพิ่มเติมจากเดิม 3.6% เป็น 4.4% เพื่อสะท้อนการเติบโตของจีดีพีปีนี้ของไทยตะเติบระดับ3% โดยมีมุมมองยังอนุรักษ์นิยมกว่าที่สภาพัฒน์ฯ จะคาดช่วง 3.5-4.5%
โดยการเติบโตปีนี้จะอิงจากปัจจัยบวกในประเทศมากกว่าปัจจัยกดดันสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ในขณะที่ส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) แม้จะหดตัว แต่จะชดเชยด้วยผลตอบแทนเฉลี่ย (yields) ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉลี่ยช่วงเงินเฟ้อขาขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งจาการศึกษาความสัมพันธ์พบว่า yields และเงินเฟ้อมีทิศทางเดียวกันกว่า 50% ระหว่างปี 2545-2564
ทั้งนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ จะเป็นผู้นำกำไรเติบโตในปี 2565 คือ ธนาคารกรุงเทพ(BBL) จะมีกำไรเติบโตที่ 23% , ธนาคารทหารไทยธนชาต(TTB) จะมีกำไรเติบโตที่ 19 และ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCBB) จะมีกำไรเติบโตที่ 15%ขณะที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY) จะมีกำไรลดลง 12% จากปีก่อน เนื่องจากฐานสูงในปีที่แล้วที่มีการขายเงินลงทุนใน Tบมจ.เงินติดล้อ(TIDLOR) เข้า IPO
1
โดยฝ่ายวิจัยฯ ได้มีการปรับราคาเป้าหมายขึ้นสำหรับ BAY, BBL และ KBANK และคงน้ำหนักการลงทุนกลุ่มฯ ที่ “มากกว่าตลาด” และหุ้น Top Picks เลือก BBL ให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 163 บาท และ KKP ราคาเป้าหมาย 78 บาท
กำไรแบงก์ Q1/65 ออกมาดี
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ภาพรวมกำไรของกลุ่มธนาคารที่ประกาศผลประกอบไตรมาส 1 ปี 2565 ออกมาแล้วถือว่าได้ค่อนข้างดี เนื่องจากการตั้งสำรองหนี้ทีมูลลดลงแบบที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แม้ในช่วงที่ผ่านมาจะมีปัจจัยกังวลเรื่องหนี้ครัวเรือนที่เร่งตัวขึ้นมา ทำให้กลัวว่าการตั้งสำรองจะปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม แต่ปรากฏว่าผลออกมาอยู่ในมุมมองที่ตลาดคาดการณ์ไว้
รวมถึงมีปัจจัยบวกจากการขยายพอร์ตสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดรับกับภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัว และผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่สร้างบรรยากาศเชิงบวกให้กับการลงทุน และการบริโภคของภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น ทำให้คาดหวังว่าหุ้นกลุ่มอื่นๆ จะเปิดงบการเงินออกมาได้ดีตามด้วย
โดยก่อนหน้านี้ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินกำไรหุ้นกลุ่มแบงก์ในภาพรวม ไตรมาส 1 ปี 2565 อยู่ที่ 41,765 ล้านบาท เติบโต 6.5% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 โดยทิศทางในไตรมาส 2 ปี 2565 ประเมินว่างบจะออกมาไม่ดี หากเทียบกับไตรมาส 1 ปีนี้ที่ผ่านมา เพราะเป็นช่วงที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนพลังงานและต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับราคาขึ้นมาแบบเต็มที่แล้ว
#SPOTLIGHT #FINANCE #แบงก์ #SCB #KBANK #ธนาคาร
ติดตามข้อมูล ด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจการเงิน ของ #Spotlight เพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ https://www.amarintv.com/spotlight
ยูทูป https://bit.ly/31rtDUM
โฆษณา