นักเศรษฐศาสตร์ตะวันตกกำลังให้ความสนใจที่ Ruble ยังคงแข็งค่าไประหว่าง 73-74/ US แม้ขณะในช่วงที่ US Dollar index ทำNew High และกำลังแข็งค่า เรื่องนี้กำลังสร้างความหงุดหงิดให้กับกลุ่มประเทศที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาแซงชั่นรัสเซียเป็นอย่างมาก เพราะมันคือการโฆษณาผลลัพทธ์ทางอ้อมให้รัสเซีย
มีการตั้งข้อสังเกตว่ารัสเซียใช้ต้นทุนดอกเบี้ยสูงในการค้ำจุนค่าเงินรูเบิลเพราะแม้จะลดดอกเบี้ยจาก 20% เหลือ 18% แล้วก็ตาม สิ่งที่ทางตะวันตก ส่วนใหญ่มองไปทางเดียวกันคิดว่าค่าเงินรูเบิลที่แข็งค่าขึ้นมาเรื่อยๆในช่วงเวลาเดียวกับ US Dollar ก็แข็งค่า ควรจะเกิดมาจาก ข้อจำกัดทางด้านการนำเข้าของทางรัสเซียเอง ที่อาจไม่จำเป็นต้องใช้ US Dollar ในการซื้อของจากทางตะวันตกเพราะเนื่องจากการโดนแซงชั่น สื่อตะวันตกวิเคราะห์ด้วยความมั่นใจว่าถึงรูเบิลถึงจะแข็งค่าขึ้นแต่เศรษฐกิจภายในของรัสเซียต้องแย่ลงแน่ๆเพราะว่าขาด สินค้านำเข้าจากทางตะวันตกเพื่อสร้างการหมุนเวียนของเศรษฐกิจ การส่งออกของรัสเซียในเรื่องของพลังงานยังเสริมสร้างให้รูเบิลแข็งค่าได้ขึ้นไปอีก
ในขณะนี้มีนักวิจารณ์ตะวันตกบางท่านเริ่มคิดไปไกลว่าอาจมีกองทุนหลายกองทุนที่มักไม่สนเรื่องการเมืองแต่แสวงหาแต่ผลประโยชน์แอบทรยศ แอบกลับเข้าซื้อรูเบิลผ่านช่องทางด้านเอเชียหรือตะวันออกเนื่องจากผลตอบแทนดีกว่าตลาด และแนวโน้มของการที่รัสเซียอาจจะเลิกใช้ US Dollar จริงๆ ซึ่งนั่นจะทำให้ Ruble เทียบค่า US$ จะแข็งค่าไปเรื่อยๆ จนเช้านี้มีข่าวว่า รัสเซียหยุดการส่งก๊าซเข้าโปแลนด์และบัลแกเรียมีผลให้ รูเบิลแตะต่ำกว่า 72.5/US หากการเอาจริงของรัสเซียแล้วส่งผลร้ายแรงต่อตะวันตกไปเรื่อยๆ มีการคาดการณ์ว่าค่าเงินรูเบิลแข็งค่าต่ำกว่า 70 รูเบิลต่อ US Dollar อาจจะมีการปรับดอกเบี้ยลงมาอีก 1 รอบไปที่ 15%
1
มีนักวิจารณ์บางคนดูแล้วโจทย์ในการ วิเคราะห์ ของทางตะวันตกส่วนใหญ่ อาจจะผิดเพราะว่านำเงิน รูเบิลของรัสเซียไปเทียบกับ US Dollar เพื่อหาค่ากลางอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องนักในช่วงนี้ เพราะว่าเป็นการนำเงินสกุลของรัสเซียไปเทียบกับเงินของ US Dollar ที่รัสเซียพยายามจะกำจัดออกจากระบบตัวเอง นอกจากจะเก็บไว้นิดหน่อยเพื่อสำรองแค่เอาไปชำระหนี้ต่างประเทศเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติว่าหากคุณนำค่าเงินใดค่าเงินหนึ่งไปเทียบกับอีกค่าเงินหนึ่งที่ไม่ค่อยได้ใช้หรือกำลังลดการใช้ค่าเงินนั้นก็จะต้องแข็งค่าขึ้นอยู่แล้วเมื่อเทียบกับค่าเงินที่จะไม่ใช้อีกในอนาคต