30 เม.ย. 2022 เวลา 05:44 • นิยาย เรื่องสั้น
จิ๊กโฉว่
ผมเป็นผู้จัดการโรงงานทำซอสเปรี้ยว หรือที่คนจีนเรียกว่า “จิ๊กโฉว่” เวลาเรากินขนมจีบเอาซอสนี้ไว้จิ้ม หรือเอาใส่ในกระเพาะปลาตุ๋นเพิ่มรสชาติ และใช้ปรุงรสอาหารได้จิปาถะ
วันหนึ่งอรุณ นักวิจัยอาหารประจำโรงงาน เข้ามาหาผมที่ห้องยื่นจดหมายฉบับหนึ่งให้ผม ผมเปิดออกดู เหลือบตาขึ้นมองเขา
“คุณจะลาออกหรือ?” ผมถาม
“ใช่ครับ พี่โชติ” อรุณตอบ “ผมจะไปช่วยแม่ทำสวนเงาะ ที่จันทบุรี”
“คุณมีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า บอกตรงๆ โรงงานไม่อยากเสียคุณไป” ผมทักท้วง เพราะอรุณทำงานมาร่วม 10 ปี ฝีมือดีไว้ใจได้
“ไม่มีครับ” อรุณยืนยัน “แม่ผมไม่มีคนช่วยทำสวน เพราะพ่อไม่ค่อยสบาย ผมเป็นลูกคนเดียวต้องกลับไปช่วยแกครับ”
“พี่เข้าใจ พี่คงรั้งเธอไม่ได้ อย่างไรก่อนไปพี่ขอเลี้ยงส่งสักมื้อ ไม่ต้องปฏิเสธหล่ะ”
“ครับพี่ ขอบคุณครับ” อรุณตอบ ก้มหัวยกมือไหว้ผม ก่อนออกจากห้องไป”
วันสุดท้ายที่อรุณมาทำงานเป็นวันศุกร์ ผมพาอรุณและน้องในทีมห้าคนไปเลี้ยงที่ร้านอาหารอีสานแถวๆ โรงงาน พอเหล้าเข้าปากบรรยากาศการพูดคุยก็ออกรส เสียงหัวเราะครื้นเครงดังออกมาเป็นระยะ ผมสังเกตดูแต่ละคนพูดคุยเสียงอ้อแอ้ไปตามๆกัน
1
พอสามทุ่มครึ่ง ทุกคนลากลับไปพักผ่อน อรุณเดินมาหาผมหน้าร้าน
“ผมลาพี่นะครับ” อรุณยกมือไหว้
“เออ..” ผมพูดแบบเบลอๆ “โรงงานคงขาดมือดีที่คอยปรุงรสจิ๊กโฉว่”
 
“ไม่หรอกครับ ผมไม่มีความสามารถขนาดนั้น พี่ก็รู้ เถ้าแก่มีสูตรพิเศษ แกรู้คนเดียวไม่บอกใคร ตอนสี่ทุ่มแกจะเอาส่วนผสมพิเศษใส่ในถังหมักที่หมักได้ที่แล้ว พออีกเจ็ดวันก็บรรจุขวดขายได้” อรุณพูดอ้อแอ้ “ผมอยากรู้จริงๆไอ้ส่วนผสมพิเศษนี่มันอะไร”
 
“เออใช่ เถ้าแก่ไม่บอกใคร ส่วนผสมอื่นเธอคงรู้หมด เว้นแต่ส่วนผสมพิเศษที่ว่า” ผมตอบ “ถ้าเธอรู้ พี่ว่าเธอคงเอามาทำเองได้สบาย ว่าแต่พี่ก็ยังเสียดายเธอไม่หาย ไม่อยากให้ไปจริงๆ แต่ทำยังไงได้ โชคดีนะไอ้น้อง” ผมยกมือตบไหล่อรุณ
 
“ลาก่อนครับพี่” อรุณยกมือไหว้ผม ผมเรียกแท็กซี่ พอรถออก ผมหันกลับมามองเห็นอรุณมองตามมาและโบกมือให้ผม
7 วันถัดมา เถ้าแก่มาที่โรงงาน แกเดินไปที่ถังหมักสแตนเลสขนาด 10,000 ลิตรที่หมักได้ที่แล้ว คนงานเปิดสวิตซ์ไฟฟ้า วาวล์ที่ถังเปิดให้ซอสจิ๊กโฉ่วออกมายังถ้วยรองสองร้อยมิลลิลิตร คนงานเทแบ่งซอสลงในแก้วเล็กน้อย นำมาให้เถ้าแก่ แกยกขึ้นดมแล้วจิบ สักพักตาแกโต
“อุบ๊ะ กลิ่นดี รสชาติดี กว่าเดิม” เถ้าแก่พูดกับผม
“เหรอครับ เถ้าแก่ ยังงั้นก็ดีนะซิครับ”
“เออ ดี เอาโชติลองชิมดู”
ผมรับแก้วจากเถ้าแก่มาดม นึกในใจ ‘เอ๊ะ หอมนี่นา’ จากนั้นจิบดู ถึงลิ้นผมจะไม่สามารถรับรสได้ลึกซึ้งเท่ากับเถ้าแก่ ผมก็คุ้นเคยรสชาติของซอสที่เราผลิตดี แต่ครั้งนี้ รสชาติมันเปลี่ยนไป มีรสเปรี้ยวอมหวาน กลมกล่อมพอเหมาะอร่อยยิ่งกว่าเดิม
“จริงครับ เป็นอย่างที่เถ้าแก่ว่า” ผมบอกเถ้าแก่ มองไปข้างหลังเห็นหัวหน้าแผนกวิจัยอาหารหน้าบานยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“คุณโชติ เอาออกบรรจุขายได้เลย” เถ้าแก่สั่ง หัวเราะร่า
“ครับเถ้าแก่” ผมตอบแข็งขัน
เถ้าแก่กลับไปได้ไม่นาน เครื่องจักรกำลังบรรจุซอสในถังลงขวด จู่ๆ มีไฟแดงวาบ ผมได้ยินเสียงเตือน ตี๊ด...ตี๊ด...ยาวๆ ติดกันแสดงว่าเครื่องบรรจุขัดข้อง สักพักหัวหน้าช่างวิ่งมาหาผมที่ห้องชั้นบนโรงงาน แล้วกระซิบที่ข้างหูผม
“ฉิบหาย ...ตายห่า” ผมอุทานเสียงดัง รู้สึกขยักขย้อนในท้อง วิงเวียนเหมือนจะเป็นลม ผมรีบวิ่งเข้าห้องน้ำ สำรอกสิ่งที่อยู่ในกระเพาะออกมากระจายไปทั่วห้อง ผมรู้สึกแสบร้อนตั้งแต่ลิ้นปี่จนถึงคอหอย น้ำตาผมไหล นั่งลงอย่างหมดแรงที่พื้นห้องน้ำ
 
นึกถึงคำที่หัวหน้าช่างบอกผม
‘พี่โชติทำใจดีๆ นะครับ ตะกี้เครื่องบรรจุติดขัด ผมให้ลูกน้องปีนไปเปิดฝาถังหมัก ผมมองตามมัน มันบอกว่าฝาถังแง้มอยู่ พอยกฝาถังขึ้นมันตกใจร้องเสียงหลงเกือบตกลงมา มันร้องว่า ไอ้อรุณเน่าเฟะอยู่ในถังครับนาย’
1
โฆษณา