4 พ.ค. 2022 เวลา 08:42 • ไลฟ์สไตล์
ทำไมทุกวันนี้ต้องดื่ม "กาแฟดริป" ?
วันนี้ โรลลิ่งโรสเตอร์ จะพาทุกท่านมาไขข้อสงสัยกันครับ
กาแฟดริป เป็นการสกัดกาแฟผ่านตัวกรอง (Filter) ซึ่งโดดเด่นเรื่องดึงกลิ่นหอมฟุ้งให้ออกมาได้ชัดเจน มากกว่าการชงด้วยเครื่อง Espresso Machine
รสชาตินั้นก็กลมกล่อม ดื่มง่าย และยังสามารถควบคุมรสชาติและความเข้มข้น(Body)ของกาแฟให้ออกมาดั่งใจได้อีกด้วย
นอกจากนี้ การดื่มกาแฟดริปยังไม่ทำลายสุขภาพของผู้ดื่ม เพราะการดื่มกาแฟดริปนั้นนิยมดื่มแบบไม่เติมสิ่งอื่นลงไป จึงไม่มีส่วนผสมของ น้ำตาลหรือนม ซึ่งทำให้สามารถดื่มได้ทุกวัน ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงาน และเพิ่มเมตาบอลิซึ่มให้กับร่างกาย โดยหากดื่มในปริมาณที่เหมาะสมก็จะไม่ทำให้ใจสั่นอีกด้วยครับ
การดริปกาแฟนั้นก็ง่ายนิดเดียว เพียงเตรียมอุปกรณ์ดังนี้
1. ดริปเปอร์ (Dripper)
2. กระดาษกรอง (Filter)
3. เครื่องบดกาแฟ (Coffee Grinder)
4. กาดริปกาแฟ (Drip Kettle)
5. เครื่องชั่ง (Scale)
6. ตัวจับเวลา (Timer)
7. ก้านวัดอุณหภูมิ (Thermometer)
สำหรับวิธีการดริปนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความชอบและเทคนิคของแต่ละบุคคล โดยวันนี้โรลลิ่งโรสเตอร์จะแชร์เทคนิคที่ทางร้านใช้เป็นประจำ นั่นก็คือ
- สูตรอัตราส่วน 1:15 (กาแฟ1ส่วน น้ำ15ส่วน)
- บดเมล็ดให้มีความละเอียดเท่ากับน้ำตาลทรายขาว
- อุณหภูมิน้ำอยู่ที่ 91-93 องศาเซลเซียส และใช้เวลาจบอยู่ที่ 3-3.30 นาที
โดยการเทน้ำรอบแรกเริ่มเทจากตรงกลางแล้ววนออกด้านนอก และรอบต่อๆไปคอยรักษาไม่ให้น้ำแห้ง เมื่อได้ปริมาณน้ำตามสูตรก็พักให้น้ำไหลจนครบเวลาแล้วยกดริปเปอร์ออกได้เลย คนกาแฟให้เข้ากัน แค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้วครับ
การชงกาแฟแบบดริปนั้นมีหลายปัจจัยที่มีผลต่อรสชาติกาแฟ ซึ่งในครั้งหน้าเราจะมาแชร์เทคนิคและรายละเอียดต่างๆ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่าน ฝากกดติดตามเป็นกำลังใจให้โรลลิ่งโรสเตอร์ด้วยนะครับ
โฆษณา