3 พ.ค. 2022 เวลา 07:52 • ไลฟ์สไตล์
อยากเป็นคนกล้าแสดงออก แต่ตัวเองเป็นคนเก็บตัว?
คนที่เป็นคนเก็บตัว (Introvert) จะเป็นคนที่ชอบชาร์จพลังเมื่ออยู่คนเดียว ทำอะไรคนเดียว รักอิสระ และการเป็นตัวเอง กำแพงสูง คนอื่นเข้ามาได้ยาก ซึ่งนั่นส่งผลให้การแสดงออกต่าง ๆ ดูนิ่งเฉย และเข้าถึงได้ยาก
ถ้าสังเกตดี ๆ คนรอบตัวเราจะมีคน ๆ นึงเสมอที่เก็บตัวเงียบ ชวนไปไหนก็ไม่ไป มักจะปฏิเสธการพูดหน้าเวทีเสมอ (คนที่กล้าแสดงออก ใช่ว่าทุกคนจะไม่กลัวเวที)
แต่ด้วยแต้มต่อของคนเข้าสังคมมักจะเป็นคนที่กล้าพูด กล้าแสดงเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว ซึ่งสังคมส่วนใหญ่ ค่านิยมต่าง ๆ จะโอนมาทางนี้ ซึ่งทำให้โอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า ร่ำรวยกว่า และมีความสัมพันธ์เยอะกว่า
(ไม่ได้หมายความว่า จะดีกว่าชาวเก็บตัวนะ)
ุถึงอย่างนั้น ถ้าเกิดมาเป็นคนเก็บตัวจริง ๆ แล้วอยากแสดงออกบ้าง เพราะด้วยหน้าที่การงาน หรือสร้างความสัมพันธ์อันดีกับคนอื่น แต่ถึงอย่างนั้น เป็นการยากที่จะทำอย่างเป็นตัวของตัวเองจริง ๆ
ถ้าเป็นไปได้ การใช้วิธีเหล่านี้ ซึ่งทำได้ง่ายมาก
อาจช่วยให้คนเก็บตัว สามารถยกระดับตัวเองให้เก่งกล้ามากขึ้นได้
1. เตรียมตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพรีเซ้นงาน หรือนัดคุยงาน แม้กระทั่งการคุยเล่น ๆ กัน การรู้จักเตรียมตัว เตรียมอุปกรณ์ เอกสารต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ ให้สามารถพร้อมสำหรับวันเวลาที่จะมาถึง
คนเก็บตัวมีข้อดีตรงนี้ที่ว่า สามารถนั่งคิดเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ได้นาน คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในอนาคต
ผมเป็นคนนึงที่จะไปไหนก็แล้วแต่ จะคิดว่า จะเริ่มตั้งแต่ตรงไหน แล้วไปถึงจุดไหน ผ่านอะไรบ้าง พูดง่าย ๆ คือ จินตนาการเส้นทางทั้งหมด ตั้งแต่ต้นจนจบได้ ถึงจะเริ่มออกเดินทางได้ ข้อเสียคือใช้เวลานาน ข้อดีคือ ถึงที่หมายไวมาก เพราะไม่ต้องคอยนึกเส้นทางเรื่อย ๆ ขับตรงยาว ๆ เลย
2. เตรียมใจ สภาพจิตใจต้องพร้อม เพราะมีความสำคัญ
ถ้าตอนนั้นอารมณ์ยังมัว ๆ อยู่ ไม่สดใส การเผชิญหน้ากับคน จะใช้พลังงานขึ้นเยอะมาก ๆ ทำให้เหนื่อย และไม่อยากพบเจอผู้คนเลย ยิ่งถ้าต้องมีการแสดง หรือพรีเซ้นงานต่าง ๆ จะทำให้ลืม สับสน แล้วอ่อนไหว ต่อสถาการณ์ต่าง ๆ ได้
วิธีหนึ่งที่ทำให้เตรียมใจได้เป็นอย่างดีคือ นั่งสมาธิ
หรือทำกิจกรรมที่ใช้การจดจ่อ จะทำให้เราลดความคิดที่ฟุ้งซ่าน รวมถึงอารมณ์ต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดแง่ลบต่อการพบเจอผู้คน
การนั่งสมาธิ จะช่วยให้เราผ่อนคลาย มีสติ รู้เท่าทันตัวเอง ไม่หวอกแหวก พร้อมรับมือกับเรื่องรางต่าง ๆ ได้อย่างรอบคอบ สุขุมและเป็นตัวของตัวเอง
3. คิดถึงสิ่งที่เลวร้ายที่สุด (หาวิธีแก้ไข)
สิ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ จะเกิดขึ้นอย่างแนนอน ถึงแม้จะมีโอกาสน้อยแค่ไหนก็ตาม การคิดวิธีรับมือว่า จะทำยังไงต่อไป ถ้าเจอแบบนี้ ไล่เรียงรายการต่าง ๆ ทั้งหมด
ที่อาจเกิดขึ้นได้มา แล้วเขียนการแก้ไขสถานการณ์นั้น
ให้เชื่อว่า ตัวเองจะสามารถรับมือกับปัญหาทั้งหมดนั้นได้ เรามีความสามารถมากพอ เพราะเราฝึกมาดี ฝนมาดี
ไม่พลาดอะไรง่าย ๆ อย่างแน่นอน
4. ทุกคนล้วนเป็นเพื่อนร่วมกัน
คนเก็บตัวจะมีความกลัวคนอยู่นิดหน่อย หรือมาก
จะรู้สึกประหม่าและกังวลว่าคนอื่นจะคิดยังไง ทำยังไง
เรียกได้ว่า แทบจะตลอดเวลา
ซึ่งเราสามารถคิดได้ว่า ทุกคนคือเพื่อนร่วมกัน ทุกคนพร้อมจะฟังเรา เข้าใจเรา ให้อภัยเรา คิดแง่บวกไว้
จะทำให้เราลดการประหม่า และผ่อนคลายมากขึ้นได้
5. ไมว่ายังไง อย่าลืมความเป็นตัวเอง
ทั้งหมด 4 ข้อจะทำได้ไม่ดีเลย ถ้าเราลืมความเป็นตัวเองไป ฝืนทำ ทั้ง ๆ ที่ไม่อยากทำแม้แต่นิดเดียว รู้สึกต่อต้านตลอดเวลา แบบนี้ เราจะทำได้ไม่สุด ทำ ๆ เลิก ๆ ทำแล้วถึงสำเร็จจริง แต่จะไม่น่าภาคภูมิเท่าทำเพราะเป็นตัวเอง
อย่าลืมสำรวจความรู้สึกของตัวเองกันนะครับ ตัวเองล้วนเป็นคนสำคัญ ให้เกียรติตัวเอง คนอื่น เพื่อที่ได้อยู่ร่วมกันได้อย่างจริงใจ
ทั้ง 5 ข้อนี้ ผมนำมาใช้กับตัวเองแล้วได้ผลดีมาก เพราะตัวเองเป็นคนเก็บตัวเหมือนกัน ทำให้ผมได้เป็นตัวเอง และทำได้ดีในการพรีเซ้นเยอะมาก ซึ่งนั่นถือเป็นข้อได้เปรียบที่เราคิดหน้าคิดหลังเยอะ
หวังว่าทุกคนที่เป็นคนเก็บตัว จะสามารถฝึกฝนจนสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดของตัวเอง แล้วรักตัวเอง ภูมิใจในตัวเองได้นะครับ 😄
โฆษณา