4 พ.ค. 2022 เวลา 13:56 • ประวัติศาสตร์
ธงปลาคาร์พ สัญลักษณ์วันเด็กญี่ปุ่น
เครดิตภาพ : https://www.tougyoku.com/gogatsu-ningyou-option/koi-nobori/koi-nobori-column/koinobori-yurai-2/
ช่วงสัปดาห์นี้เรียกได้ว่าเป็นสัปดาห์แห่งการพักผ่อนของเหล่าบรรดาชาวญี่ปุ่น หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า “Golden Week” สัปดาห์ทองซึ่งรวมเอาวันหยุดนักขัตฤกษ์มาไว้รวมกัน โดยในปีนี้เริ่มหยุดกันตั้งแต่
1
วันศุกร์ที่ 29 เมษายน เนื่องในวันโชวะ เพื่อระลึกถึงวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโระฮิโตะ จักรพรรดิแห่งยุคโชวะ
วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ
วันพุธที่ 4 พฤษภาคม เนื่องในวันสีเขียวหรือวันพฤกษชาติ
วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ
1
ปฏิทินแสดงวันหยุดช่วงโกลเด้นวีคปีนี้ เครดิตภาพ : https://www.jumbotours.co.jp/goldenweek/
ดังนั้นหากเหล่าบรรดาพนักงานบริษัททั้งหลายใช้วันลาพักร้อนในวันจันทร์ที่ 2 และวันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคมด้วยแล้วล่ะก็ จะสามารถหยุดพักผ่อนได้ถึง 10 วันเลยทีเดียว
1
และเมื่อพูดถึงวันหยุดนักขัตฤกษ์แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจและแตกต่างจากบ้านเราก็คงจะเป็น “วันเด็ก” เพราะวันเด็กของประเทศไทยถูกกำหนดให้ตรงกับเสาร์ที่สองของเดือนมกราคม ซึ่งเป็นวันหยุดอยู่แล้ว ทว่าวันเด็กของประเทศญี่ปุ่นถูกกำหนดให้เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ และหากตรงกับวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก็จะได้หยุดชดเชยในวันจันทร์ของสัปดาห์ถัดไปอีกด้วย
1
แม้ว่าในอดีตจะกล่าวกันว่า วันที่ 3 เดือน 3 ( 3 มีนาคม ) ซึ่งเป็นเทศกาลตุ๊กตาฮินะ เป็นตัวแทนวันสำคัญของเด็กผู้หญิง และวันที่ 5 เดือน 5 ( 5 พฤษภาคม ) เป็นตัวแทนวันสำคัญของเด็กผู้ชาย
1
บรรดาปลาคาร์พปลิวไสวตามแรงลมที่โตเกียวทาวเวอร์ เครดิตภาพ : https://livejapan.com/ja/in-tokyo/in-pref-tokyo/in-ryogoku_skytree-tokyo/article-a0004919/
ทว่าปัจจุบันได้กำหนดให้วันที่ 5 พฤษภาคมของทุกปีเป็นวันเด็กแห่งชาติ เพื่อให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญต่อการดูแลเด็ก และอวยพรให้เด็ก ๆ เติบโตอย่างสมบูรณ์แข็งแรงและมีความสุข เพราะแม้จะเป็นเด็กแต่ก็ถือเป็นประชาชนคนหนึ่งที่มีสิทธิ์ในความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน
3
แต่สิ่งที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาตั้งแต่ในอดีตนั้นเป็นสิ่งที่จางหายได้ยาก แม้จะกล่าวว่าวันเด็กแห่งชาติเป็นการอวยพรให้ทั้งเด็กชายและเด็กหญิง แต่หลายบ้านที่มีสมาชิกในครอบครัวเป็นเด็กผู้ชายก็ยังนิยมประดับธงปลาคาร์พในช่วงสัปดาห์วันเด็ก หากมีโอกาสท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นช่วงโกลเด้นวีคแล้วเห็นธงปลาคาร์พในสวน หน้าบ้าน หรือบนหลังคาที่บ้านหลังไหน ก็เดาได้ไม่ยากเลยว่าบ้านนั้นต้องมีเด็กผู้ชายอยู่แน่นอน
1
เครดิตภาพ : https://www.higashiyama.city.nagoya.jp/blog/2010/04/post-3222.html
ไม่เพียงแค่ตามบ้านเรือนคนทั่วไปเท่านั้นที่ประดับตกแต่งธงปลาคาร์พ ตามสถานที่สาธารณะอย่างห้างสรรพสินค้าเอย ประตูระบายน้ำที่กั้นแม่น้ำสายต่าง ๆ เอย หรือแม้แต่ตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญก็ประดับธงปลาคาร์พหลากสีหลายขนาดด้วย เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ปลาคาร์พแหวกว่ายกันเต็มท้องฟ้าดินแดนซากุระเลยทีเดียว
1
เครดิตภาพ : https://oggi.jp/6186327
“ปลาคาร์พ” นอกจากจะเป็นหนึ่งในสัตว์เศรษฐกิจส่งออกสำคัญของประเทศญี่ปุ่นแล้ว คนญี่ปุ่นยังมีความผูกพันกับปลาคาร์พมาเนิ่นนาน หากลงรายละเอียดเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับวันเด็กแล้ว อาจต้องย้อนกลับไปก่อนที่จะมีการกำหนดให้วันที่ 5 พฤษภาคมของทุกปีเป็นวันเด็กแห่งชาติ ตามกฎหมายวันหยุดในรัฐธรรมนูญเมื่อปี ค.ศ. 1948
ก่อนหน้านั้นวันเด็กแห่งชาติ ที่เรียกกันในภาษาญี่ปุ่นว่า โคโดโมะ โนะ ฮิ (こどもの日) สมัยนาระ ญี่ปุ่นได้รับเอาวัฒนธรรมการเฉลิมฉลองเดือนห้ามาจากจีน โดยมีความเชื่อตามปฏิทินจันทรคติว่า เดือนพฤษภาคมเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากฤดูใบไม้ผลิสู่ฤดูร้อน การเปลี่ยนผันของฤดูกาลเช่นนี้ทำให้สุขภาพร่างกายอ่อนแอได้
นิยมนำใบโชบุ (菖蒲) มาประดับบ้านเพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย รวมทั้งดื่มสุราและแช่น้ำร้อนที่ใส่ใบโชบุเพราะเชื่อว่าช่วยรักษาสุขภาพร่างกาย จึงเรียกเป็นการเฉลิมฉลองว่า “ทังโงะ โนะ เซกขุ – 端午の節句”
เด็ก ๆ ที่แช่บ่อน้ำร้อนใส่ใบโชบุในวันเด็ก เครดิตภาพ : http://blog.livedoor.jp/yamanoyu_info/archives/1963046.html
ไม่เพียงแค่ความเชื่อในการปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายเท่านั้น ใบโชบุยังเป็นคำพ้องเสียงกับคำว่า โชบุ (尚武) ซึ่งมีความหมายถึง จิตวิญญาณแห่งนักรบ ทังโงะ โนะ เซกขุ จึงกลายเป็นพิธีสำคัญในการอวยพรให้เด็กผู้ชายเติบโตอย่างแข็งแรงและกล้าหาญ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคของรัฐบาลโชกุนโทกุงาวะที่ให้ความสำคัญกับเทศกาลทังโงะ โนะ เซกขุ ได้กำหนดวันจัดงานอย่างชัดเจน โดยเอาตัวอักษรคันจิตัวที่ 2 “午” ซึ่งพ้องเสียงกับเลข 5 เป็นหลักในการเลือกวัน ดังนั้นตั้งแต่ยุคเอโดะเป็นต้นมา วันที่ 5 พฤษภาคม จึงกลายเป็นเทศกาลทังโงะ โนะ เซกขุ หรือวันเด็กผู้ชายเรื่อยมา
แล้วปลาคาร์พมาจากไหน ?
ยุคเอโดะซึ่งเรียกได้ว่าเป็นยุคทองของเหล่าบรรดานักรบ มีธรรมเนียมขึ้นธงประจำบ้านเรียกว่า โนะโบริ (幟) เมื่อมีการให้กำเนิดเด็กผู้ชาย เป็นการแจ้งให้ผู้คนโดยรอบรวมทั้งเทพเจ้าได้รับรู้ถึงการมาถึงของสมาชิกตัวน้อย ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นริ้วผ้า 5 สีที่เรียกว่า ฟุขินางาชิ (吹き流し) ปัจจุบันคือริ้วผ้าที่อยู่ส่วนบนสุดของธงปลาคาร์พ
โนะโบริที่ใช้ประดับในช่วงเทศกาลทังโงะ โนะ เซกขุ ยุคเอโดะ เครดิตภาพ : https://musyae.com/originmusyanobori.html
นอกจากการประดับธงหรือริ้วผ้า 5 สีแล้ว ภายในบ้านยังประดับด้วยตุ๊กตาชุดนักรบที่เรียกว่า โกะงัทสึนินเงียว (五月人形) อีกด้วย ธรรมเนียมปฏิบัติเช่นนี้เผยแพร่ไปยังสามัญชนคนธรรมดา นับเป็นหนึ่งสัญลักษณ์ที่แจ้งให้ผู้ที่อยู่อาศัยโดยรอบได้รับทราบและร่วมแสดงความยินดีกับบ้านที่ให้กำเนิดเด็กผู้ชาย
โกะงัทสึนินเงียว (五月人形) เครดิตภาพ : https://magazine.hitosara.com/article/702/#:~:text=%E5%AD%90%E4%BE%9B%E3%81%AE%E6%97%A5%E3%81%AB%E9%A3%9F%E3%81%B9%E3%82%8B,%E3%82%88%E3%81%86%E3%81%AB%E3%81%AA%E3%82%8A%E3%81%BE%E3%81%97%E3%81%9F%E3%80%82
ทว่าเมื่อเข้าสู่ยุคเอโดะตอนกลาง ความเชื่อเรื่อง “ประตูมังกร” จากประเทศจีนได้เผยแพร่เข้ามาในญี่ปุ่น เหล่าปลาคาร์พที่ว่ายทวนกระแสน้ำในแม่น้ำเหลืองขึ้นไปยังต้นน้ำจนถึงประตูมังกร จะกลายร่างเป็นมังกรบินสู่สวรรค์ คนจีนและคนญี่ปุ่นจึงมีความเชื่อคล้ายคลึงกันว่า ปลาคาร์พเป็นปลาที่มีความทรหดอดทน เป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ
ตำนานปลาคาร์พข้ามประตูมังกร เรื่องเล่าจากจีนสู่ญี่ปุ่น เครดิตภาพ : http://www.j-campus.com/kotowaza/view.php?id=1285
ถึงกับมีสำนวนว่า โทริวมง (登竜門) หมายถึงปราการด่านสำคัญในชีวิต เช่น การสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำ หรือการสอบเข้าทำงานในบริษัทที่มีชื่อเสียง เป็นต้น ประชาชนทั่วไปจึงเริ่มนำธงรูปปลาคาร์พมาประดับร่วมกับริ้วธง 5 สีในช่วงเทศกาลทังโงะ โนะ เซกขุ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ความนิยมในปลาคาร์พไม่ได้หยุดอยู่ที่ธงประดับเพียงเท่านั้น แต่ในยุคโชวะปีที่ 6 (ค.ศ. 1931) ยังได้มีเพลงพื้นบ้านที่เกี่ยวข้องกับธงปลาคาร์พในเทศกาลทังโงะ โนะ เซกขุ เผยแพร่ออกมาและกลายเป็นที่นิยมไปทั่วประเทศ
เครดิตภาพ : https://spice.eplus.jp/articles/268809/images/839124
เพลง “โคอิ โนะโบริ” บอกเล่าถึงการประดับธงปลาคาร์พบนหลังคา โดยมีปลาคาร์พตัวใหญ่สีดำอยู่ด้านบนสุดเป็น พ่อปลา และด้านล่างมีลูกปลาสองตัว แหวกว่ายกันอย่างสนุกสนาน ทำให้ธงปลาคาร์พแบบ 3 ตัว ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาตามบ้านเรือนส่วนใหญ่จึงประดับธงปลาคาร์พ 3 ตัวในช่วงเทศกาลวันเด็กนั่นเอง
นอกจากการประดับตกแต่งบ้านด้วยธงปลาคาร์พและตุ๊กตาชุดนักรบแล้ว อาหารที่นิยมรับประทานในวันเด็กก็แตกต่างกันไปตามภูมิภาคอีกด้วย อย่างภูมิภาคคันโตแถบโตเกียวนิยมรับประทานคะชิวะโมจิ (柏餅) แป้งโมจิสอดไส้ถั่วแดงหรือมิโสะห่อด้วยใบของต้นโอ๊ค ด้วยความเชื่อที่ว่าต้นโอ๊คจะไม่ผลัดใบทิ้งในฤดูแล้ง แต่จะรอจนใบอ่อนผลิบานในฤดูใบไม้ผลิถัดไปจึงจะผลัดใบ เปรียบเสมือนครอบครัวที่มีผู้ใหญ่คอยดูแลเด็ก ๆ พ่อแม่จะอยู่ทันดูความรุ่งเรืองของลูกหลาน
จิมากิ ซาสะมากิ และคะชิวะโมจิ เครดิตภาพ : https://magazine.hitosara.com/article/702/#:~:text=%E5%AD%90%E4%BE%9B%E3%81%AE%E6%97%A5%E3%81%AB%E9%A3%9F%E3%81%B9%E3%82%8B,%E3%82%88%E3%81%86%E3%81%AB%E3%81%AA%E3%82%8A%E3%81%BE%E3%81%97%E3%81%9F%E3%80%82
ภูมิภาคคันไซแถบโอซาก้านิยมรับประทานจิมากิ ลักษณะคล้ายบ๊ะจ่างทำจากแป้งข้าวเหนียวไม่มีไส้ ในอดีตใช้ใบหญ้าคาเรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า จิกายะ (チガヤ) เมื่อนำมาห่อแป้งข้าวเหนียวเรียก จิกายะมากิ และกร่อนเสียงมาเป็น “จิมากิ – ちまき” ไปในที่สุด โดยมีความเชื่อว่า ใบหญ้าคาช่วยป้องกันภยันตรายทั้งหลายไม่ให้กร้ำกราย
ไม่เฉพาะแค่คะชิวะโมจิและจิมากิเท่านั้น ตามท้องถิ่นต่าง ๆ ในญี่ปุ่นยังมีขนมประจำถิ่นอีกด้วย อาทิเช่น ฮอกไกโดรับประทานขนมเบะโกะโมจิ ซึ่งทำจากแป้งข้าวเหนียวสองสีอัดพิมพ์รูปใบไม้ หรือจะเป็นขนมซาสะมากิ (笹巻き) ของจังหวัดยามะกาตะและคาโงชิม่าที่มีลักษณะคล้ายขนมจิมากิของคันไซทว่าห่อด้วยใบไผ่ซาสะ เป็นต้น
เบะโกะโมจิสองสี เครดิตภาพ : https://hokkaidolikers.com/archives/37685
เด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า ประเทศญี่ปุ่นเองก็ให้ความสำคัญกับเด็กมาเนิ่นนานตั้งแต่ยุคเอโดะ แม้ว่าในอดีตอาจแบ่งแยกความสำคัญระหว่างชาย-หญิงตามบริบทสังคม ทว่าปัจจุบันวันเด็กแห่งชาติก็คือวันสำคัญของเด็ก ๆ ทุกคน ธงปลาคาร์พก็เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่ทำหน้าที่ปลูกฝังความอดทนให้แก่เด็ก ๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ
1
โฆษณา