▪️ “ยอมใจ” ให้มาดริด และคู่ควรนัดไฟนอลทั้ง 2 ทีม
-
• เกมของ 2 ทีมมีธรรมชาติเกมรุก และอุดมไปด้วยขุนพลผู้เล่น “ทักษะ” และเทคนิคล้นเหลือล้นทีม ดังนั้นในเชิง physical หรือความแข็งแกร่งจึงไม่ต้องพูดถึงมาก เพราะทั้งเรอัล มาดริด และแมนฯซิตี้ มี “คุณภาพ” ผู้เล่นที่จะใช้จุดแข็งเรื่องเทคนิค และทักษะ เอาชนะได้ทุกทีม
• แต่ทว่าเมื่อมาเจอกันเอง อะไรจะเกิดขึ้น?
• สกอร์สูงเหมือน 4-3 ซึ่งซิตี้ชนะนัดก่อนดูไม่มีแนวโน้มเลยในครึ่งแรกที่เสมอกัน 0-0 แบบมาดริดก็ไม่อยากเสียก่อน ขณะที่ซิตี้ก็ไม่เป็นไร เล่นเหมือนแมตช์มาเยือนตราหมี แอตเลติโก มาดริด นั่นแหละ
• ภาพรวมแม้ “โอกาส” ของแมนฯซิตี้จะดูดีกว่าซึ่งก็ไม่ได้ผิดคาดนัก เพราะคุณภาพผู้เล่นน่าจะเหนือกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับตัวต่อตัว
• แต่ทว่าต้องไม่ลืม มาดริด คือ ทีมที่มี conversion rate หรือใช้โอกาสเปลืองน้อยที่สุดแล้วในแชมเปี้ยนส์ ลีก ปีนี้
• แต่จาก จังหวะได้โหม่งเหน่ง ๆ ข้ามคานไปไกลของ เบนเซมา ในครึ่งแรก และโอกาส แต่ทำบอลลั่นกระดอนไปมาของวินิซิอุส ในครึ่งหลังหลายครั้งไม่นับที่เปิดฉาก 45 นาทีหลังมาก็ยิงหลุดเป้าไปอย่างน่าเสียดาย
• หรือทั้งครึ่งแรก ครึ่งหลังที่ เบนซ์ “หลุดเดี่ยว” ไปยิงแต่ก็ไม่เข้า (แล้วล้ำหน้า)
• ทั้งหมดเหล่านี้นำมาซึ่งข้อสรุปว่า นัดนี้ เรอัล มาดริด เล่นได้ไม่ดีพอจะเก็บผลการแข่งขันแบบที่ต้องการได้
• ขณะที่ซิตี้นั้น “มาตรฐาน” โดยเฉพาะได้ ไคล วอล์คเกอร์ กลับมา (ที่แม้จะทำท่าโดน วินิซิอุส เผาเครื่องหลายหน และสุ่มเสี่ยงจะฟาล์วเป็นตัวสุดท้าย 2 หน) หรือการเปลี่ยน กุนโดกัน ลงมามีส่วนในประตู 1-0 นาทีที่ 73 หรือการส่งเฟอร์นันดินโญ่ วัย 37 ปีวันนี้มาแทน มาห์เรซ 5 นาทีท้ายเพื่อปิดเกม หรือกรีลิช แทนเฆซุส เน้นโต้กลับ และครองบอล ฯลฯ
• กล่าวว่า เป๊ป กวาร์ดิโอลา รัดกุม ระมัดระวัง และวางแผนอย่างชาญฉลาดมีกลยุทธ์สำหรับเกม UCL กับโคตรทีมจากสเปน
• (ดังนั้น รวมความ 2 เลก ซิตี้ชนะใส สะอาด และเดินหน้าไปสู่นัดไฟนอลที่กรุงปารีส เป็น English Finals กับลิเวอร์พูลได้สำเร็จ
• “ยอมใจ” ครับ เข้าชิงชนะเลิศ 2 ปีติด และ “เรียนรู้” เยอะเพื่อลุ้นแชมป์ยุโรปสมัยแรกของตนเองให้ได้เสียที แต่ลิเวอร์พูล ยังไงก็คงไม่ยอมแน่ครับ)
• 555 ในวงเล็กข้างต้น ผมไม่อยากลบออกนะครับ แต่มันคือ ประโยคก่อนนาทีที่ 89 ตามด้วยทดเจ็บ 90+1 ที่ตัวสำรอง โรดริโก ลงมายิง 2 ประตูแซงชนะในเกมนี้ 2-1
• ก็แน่นอนครับ “ตอกย้ำ” ความเป็น เรอัล มาดริด ที่อีกครั้งหลังจากที่ เปแอสเช และเชลซี โดนมา ครั้งนี้ แมนฯซิตี้ มาเจอเองกับตัวเอง
• เอาเป็นว่า เกมนี้ผมขอให้สรุปว่า มันชัดเจนในตัวเองจากทั้ง 2 ทีมตามที่ได้เรียนไว้ข้างต้น และคู่ควรขนาดต้องต่อเวลาพิเศษในเลก 2 ที่ไม่ว่าใครชนะก็ “คู่ควร” เหมาะสมเท่า ๆ กันครับ
☕: ณัฐวุฒิ ประเทืองศิลป์
📷: B/R Football
#ไข่มุกดำ
#KMDCoffeeBreak
#RMAMCI
#UCLFinal
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
