Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Gulike
•
ติดตาม
5 พ.ค. 2022 เวลา 13:01 • กีฬา
หลายๆคนอาจจะแปลกใจ ว่าทีมที่แข็งแกร่งและอุดมไปด้วยผู้เล่นทึ่มีคุณภาพคับทีม อย่างแมนเชสเตอร์ซิตี้ ถึงยังไม่สามารถ ไปเถลิงบัลลังก์แชมป์ถ้วยใหญ่ที่สุดของยุโรปอย่างUCLสักที ทั้งๆที่ถูกยกให้เป็นเต็ง1ของรายการแทบจะทุกปี
จริงๆแล้ว ที่ที่แมนเชสเตอร์ซิตี้ยังไม่มี คือพลังปาฏิหารย์ครับ
เอ้า.. เขียนแบบนี้หลายๆคนอาจมองว่ากูมาสายมูเตลูอีกแล้ว แต่เชื่อเถอะ ว่าทีมที่จะเป็นแชมป์ของรายการนี้ นอกจากจะต้องเป็นทีมที่เก่งแล้ว ยังต้องมีสิ่งที่เรียกว่า "พลังปาฏิหารย์" ที่ว่านั่นด้วย
ลองย้อนกลับไปดูสิ หลายๆทีมที่เป็นเจ้าของฟุตบอลรายการนี้ มีพลังที่ว่านี้ยังไง
-รีลมาดริด เจ้าของแชมป์ที่มากที่สุดในรายการชิงถ้วยเจ้ายุโรป หลายๆปีที่คว้าแชมป์ ฟอร์มในลีกก็ย่ำแย่นะ แต่พอมาเล่นถ้วยยุโรปปุ้บ รีลมาดริดจะกลายเป็นบอลตัวใหญ่ทันที สวนทางกับฟอร์มในลีกแบบสุดๆ
-ลิเวอร์พูล เจ้าของสมญานามว่าคิงส์ออฟอิงแลนด์ในรายการนี้ เพราะคว้าถ้วยไปถึง6สมัย และเชื่อเถอะ ว่าจะไม่มีแฟนลิเวอร์พูลคนไหน ลืมปาฏิหารย์ที่อิสตัลบูล ในเกมที่ครึ่งแรกตามเอซีมิลานอยู่ถึงสามลูก แต่พอครึ่งหลังกลับมาตีเสมอได้สำเร็จ ก่อนจะพลิกนรกคว้าแชมป์ด้วยการชนะจุดโทษไปได้ในที่สุด หรือปาฏิหารย์ดับเจ้าบุญทุ่ม จากการที่แพ้มาในเกมแรกด้วยสกอร์ถูกนำห่างถึง3ลูก แต่กลับพลิกนรกกลับมาเอาชนะได้ในเกมที่สองด้วนการยิง4ลูก เมื่อเร็วๆนี้อย่างแน่นอน
-แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เชื่อว่าแฟนๆทีมหมาแดง ก็คงจะไม่ลืมปาฏิหารย์ดับบาเยิร์นในปี1999แน่ๆ
... ที่ว่ามานั่น เป็นแค่ตัวอย่างให้ดูเฉยๆครับ ว่าทีมที่จะคว้าเจ้าถ้วยบิ๊กเอียร์ ถ้วยใบใหญ่สุดของฟุตบอลสโมสรยุโรปได้ นอกจากจะเป็นทีมที่ต้องเก่งแล้ว ยังจะต้องมีสิ่งที่เรียกว่า... พลังปาฏิหารย์อีกด้วย..
ก่อนเกมเมื่อคืนจะเริ่มต้นขึ้น แน่นอนว่าพลพรรคเรือใบสีฟ้า เป็นต่อราชันย์ชุดขาวอยู่นิดหน่อย จากผลการที่เอาชนะมาได้ในเกมแรก4-3นั่นเอง แถมในเกมนั้น แมนเชสเตอร์ซิตร้ก็เล่นดีกว่า และยังยิงประตูขึ้นนำไปก่อน1ลูกด้วย ทำให้ผลต่างประตูสองนัดกลายเป็น5-3 ในเวลานั้น รีลมาดริดต้องการอีกสองลูกเพื่อที่จะต่อเวลา และอีกสามลูกเพื่อแซงชนะ ด้วยเวลาที่งวดเข้ามาเรื่อยๆ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
จนกระทั่งนาทีที่89 จุดพลิกผันของเกมก็เกิดขึ้น เมื่อคาริมเบนเซม่า สตาร์ของราชันย์ชุดขาว ครอสบอลมาให้โรดริโก้ ชาร์ตจ่อๆเข้าประตูไป กลายเป็นประตึตีเสมอในเกมนี้ของรีลมาดริดในที่สุด แต่ถึงกระนั่น มันก็ยังเป็นงานยากอยู่ดี เพราะรีลมาดริดนั้นต้องการอย่างน้อยๆอีก1ประตูในช่วงทดเจ็บ6นาทีที่เหลือ
แต่ถึงจะอย่างนั้น มาดริดก็ทำได้ เมื่อคาบาร์ฆาล โยนบอลเข้ามา และเป็นโรดริโก้เจ้าเดิม โหม่งทำประตูแซงนำให้รีลมาดริดขึ้นนำ2-1และรวมผลสองนัดเสมอกันที่5-5ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก30นาที
ในช่วงต่อเวลาครึ่งแรกนาทีที่95 รูเบน ดิอาซกองหลังของเรือใบ ก็ไปเสียเบนเซม่าในเขตโทษ ทำให้รีลมาดริดได้จุดโทษ และเป็นเบนเซม่านี่แหล่ะ ที่ยิงจุดโทษเข้าไป ส่งผลให้มาดริดนำ3-1และสกอร์รวมแซงนำขึ้นไปเป็น6-5 ก่อนจะรักษาสกอร์นี้เอาไว้ได้ และผ่านเข้ารอบไปชิงชนะเลิศกับลิเวอร์พูลที่ปารีส ในวันที่28พฤษภาคมได้อย่างเหลือเชื่อ
สิ่งที่แมนเชสเตอร์ขาดไป นั่นคือ ไม่มีใครเถียงหรอกครับ ว่าแมนเชสเตอร์ซิตี้ทีมนี้ คือทีมที่แทบจะเรียกได้ว่า เป็นทีมเบอร์1ของเกาะอังกฤษในเวลานี้ ด้วยทรัพยากร ด้วยความเก่งของผู้จัดการทีม ด้วยศักยภาพของผู้เล่น ด้วยเพอร์ฟอร์มานช์ของทีม นี่คือทีมที่มีคุณภาพคับแก้ว หากแต่ว่า... สิ่งที่แมนเชสเตอร์ซิตี้ทีมนี้ยังขาดไป นั่นคือพลังปาฏิหารย์ที่จะเรียกแรงฮึดสู้ในนาทีคับขันนั่นเอง
หลายๆครั้ง ที่เราเห็นพวกเค้าเล่นในลีก พวกเค้ายิงถล่มชนะคู่แข่งได้สบายๆ ด้วยคุณภาพนักเตะ คุณภาพทีมที่เหนือกว่า แต่หลายๆครั้ง เราก็จะเห็นได้เลย ว่าถ้าแมนเชสเตอร์ซิตี้จะสะดุด วันไหนเล่นไม่ดี เรือใบจะไม่สามารถพลิกสถานการณ์ประเภท จากจะเสมอเป็นชนะ หรือจากที่จะแพ้เป็นเสมอ แบบที่ลิเวอร์พูลสามารถทำได้
ซึ่งนั่น ทำให้ แต้มระหว่างแมนเชสเตอร์ซิตี้ ถูกร่นลงมา จากที่เดือนธันวาคมปี2021มีแต้มห่างจากอันดับสองอย่างลิเวอร์พูลถึง14แต้ม พอมาถึงปัจุบัน กลับมีแต้มห่างกันเพียงแค่แต้มเดียวอย่างที่เราเห็นกัน
ดังนั้น การตกรอบUCLของแมนเชสเตอร์ซิตี้ จึงสรุปได้ว่า
-เกมแรก แมนเชสเตอร์ซิตี้ เอาชนะไปได้ด้วยคุณภาพทีมที่ดีกว่า
-แต่เกมที่สอง รีลมาดริด กลับมาเอาชนะได้ ด้วยพลังปาฏิหารย์ที่ฮึดสู้จนวินาทีสุดท้าย นั่นเอง
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย