วันนี้ puffin boy จะเล่าประสบการณ์เดินป่า ในจังหวัดท่องเที่ยวยอดฮิต
นั่นคือ กาญนะจ๊ะบุรี แฮ่!! ไม่ใช่... "กาญจนบุรี" นั่นเอง
📌 มีสรุปค่าใช้จ่าย และการเดินทางด้วยนะ
เขาสันหนอกวัว | อุทยานแห่งชาติเขาแหลม จังหวัดกาญจนบุรี
บทความนี้เราจะพูดถึง เขาสันหนอกวัว | อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ณ กาญจนบุรี
ชายขอบป่าทุ่งใหญ่นเรศวรยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี อยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง(1,767 เมตร) หากใครกำลังมองหาเส้นทางเดินป่าเพื่อชื่นชมธรรมชาติอันสวยงาม เขาลูกนี้คงเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นสันเขาที่สูงใหญ่เด่นเป็นตระหง่านคล้ายโหนกวัวซึ่งเป็นที่มาของชื่อ มีแสงพระอาทิตย์ลอดเขาผ่านทั้งยามเช้าและยามเย็นรวมถึงทะเลหมอกสุดอลังการ มีจุดชมวิวหลักๆ 2 จุดนั่นก็คือ สันหนอกเล็กและสันหนอกใหญ่ซึ่งอยู่ห่างกันพอสมควร ต้องใช้เวลาในการเดินทางนิดหนึ่ง แต่สำหรับรีวิวนี้เราจะมาแนะนำเส้นทางที่ไกลออกไปจากจุดชมวิวที่ต้องข้ามเขาไปอีก 4-5 ลูก ไกลแค่ไหนเอาเป็นว่ามาชมภาพกัน จะได้รู้ว่าเส้นทางที่ว่านั้นมันเป็นยังไงยินดีต้อนรับสู่ดอยตลาดกับมุมไม่มหาชนกัน...
เริ่มต้นการเดินทางการที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม(ป้อมปี่) จุดเช็กอินแรกที่เราต้องลงทะเบียนเช็ครายชื่อเตรียมความพร้อมต่างๆ ที่จะเริ่มต้นเดินป่ากัน
ที่นี่เป็นศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ใหญ่มาก มีบ้านพักรับรอง มีจุดกางเต็นท์ ร้านค้าสวัสดิการ รวมไปจึงจุดชมวิวแสนสวยที่ติดกับอ่างเก็บน้ำจากป้อมปี่ เราต้องนั่งรถของทางอุทยานออกจากป้อมปี่ เพื่อไปยังจุดเริ่มเดินใช้เวลาเพียง 15 นาทีก็ถึง เป็นถนนลาดยางหมดไม่มีทางลูกรังให้หวั่นไหว ตรงทางเข้าป่าก็จะมีป้ายสถานที่ยินดีต้อนรับเราเข้าสู่เส้นทางเดินป่าไปกลับ 18 กิโลเมตร ตาแทบเหลือกแต่ก็เดินไปกันเถอะ!!! 55 แต่โชคดีที่ระหว่างทางก็จะมีจุดพักเหนื่อยเรื่อยๆ มีป้ายบอกทางและขอนไม้ให้นั่งเป็นระยะ
เซลฟี่หมู่ ตอนเข้าอุทยาน
เราเริ่มเดินกันตั้งแต่ 10 โมงเช้า แวะกินข้าวเที่ยงตามทาง พอตกบ่าย 2 เราก็เดินทางมาถึงจุดกางเต็นท์กันใช้เวลาทั้งสิ้น 4 ชั่วโมง ซึ่งกว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ก็ต้องลิ้นห้อยกันบ้างเพราะต้องเดินผ่านเส้นทางหมาหอบปอบลงกับทางชันเป็นระยะๆ บางจุดต้องใช้เชือกช่วย บางแห่งก็ต้องเดินริมไหล่ทางต้องใช้ความระมัดระวังบางจุดที่เป็นหญ้าลวงตา สำหรับจุดกางเต็นท์นั้นมีให้กางได้เยอะมากกกกกกกกกก สามารถเลือกได้ตามพละกำลังและความสะดวกเลย ที่นี่สะดวกสบายอย่างหนึ่งคือ มีแหล่งน้ำใช้ซึ่งถ้าใครจ้างลูกหาบเขาก็จะไปบริการตักน้ำมาให้เรา แต่ถ้าเราเดินไปกันเองมันก็จะเปลี่ยวๆ หน่อย (ลองเดินไปแล้ว ไม่หน่อยอะ 555)
เดินทาง
หลังจากที่กางเต็นท์เคลียร์พื้นที่กองกลางสำหรับการดำรงชีวิตเพื่อวันพรุ่งนี้ (เว่อร์อีกละ 55) เราก็ปลดสัมภาระกันและเตรียมตัวใส่เกือบเปล่า แบกกล้องและเป้เล็กนิดหน่อยเดินขึ้นสันหนอกใหญ่เพื่อไปต่อในเส้นทางที่ไกลออกไปใช้เวลา 2 ชั่วโมงไปกลับแบบรีบๆ ซึ่งต้องทำเวลาหน่อยเพื่อให้กลับมาทันพระอาทิตย์ตกดินเพราะถ้ามืดแล้วจะลำบากมากทีเดียวเนื่องจากทางค่อนข้างยาก
จุดกางเต็นท์
เขาหนอกใหญ่
ระหว่างทางขึ้นสันหนอกใหญ่ก็จะเห็นเขาเรดาห์อยู่ไกลๆ เส้นทางที่ไม่อาจเอื้อม (ทำไมเหรอ?) เขาไม่อนุญาติให้ขึ้นจ้า 555 เราแวะถ่ายรูปที่จุดชมวิวบนสันหนอกใหญ่กันแปบนึงก่อนจะไปต่อ ซึ่งวิวตรงนี้จะสามารถมองเห็นสันหนอกเล็กและอ่างเก็บน้ำเป็นมุมกว้าง 180 องศา รวมทั้งภูเขาน้อยใหญ่ที่อยู่รายล้อม ทางลงไปตรงนี้ค่อนข้างชันจะเห็นได้ว่ามีเชือกกั้นอยู่ ซึ่งถ้าใครจะตกลงไปก็ควรสะดุดเชือกก่อน มันเหมือนเป็นการเตือนกลายๆว่าอันตรายนะอย่าเข้าใกล้หรือไปเกินรัศมีเชือก ไม่เช่นนั้นคนๆ นั้นจะได้รู้ว่าวิวข้างล่างเป็นเช่นไร บรึ๊ยยยย
...
ที่แคมป์ของพวกเราตั้งกันอยู่ที่ทางระหว่างสันหนอกเล็กและสันหนอกใหญ่ เนื่องจากว่าตอนเช้าขี้เกียจเดินไกล 555 ที่นี่ลมแรงมาก ไม่ว่าคุณจะกางเต็นท์ที่ไหน ก็ไม่อาจจะรอดสายลมแห่งนี้ได้
จุดชมวิวบนสันหนอกใหญ่
จุดกางเต็นท์ของเรา
หลังจากถ่ายรูปที่จุดชมวิวสันหนอกใหญ่พอสมควรแล้ว เราก็ออกเดินทางต่อไปยังทางด้านซ้ายที่จะเห็นแผงเขาหยักๆ แบบนี้ ต้องเดินไต่ริมผาไหล่ทางเขาไปเรื่อยๆทางค่อนข้างรกต้องแหวกๆ หญ้าไป เดินเหนื่อยมาเรื่อยๆ เราก็จะเจอลานกว้างที่มีหญ้าเกรียนขึ้นเต็มไปหมด เลยไม่ค่อยมีหนามละ ยืนอยู่ตรงนี้ก็จะเห็นทั้งสันหนอกใหญ่และสันหนอกเล็กอยู่ด้านหลัง
จุดพักชมวิวที่เห็นทั้งสันหนอกใหญ่และสันหนอกเล็ก
จุดพักชมวิวที่เห็นทั้งสันหนอกใหญ่และสันหนอกเล็ก
เป็นไง ไกลไหมล่ะ!!! 55 ถ้าใครที่เคยมาสันหนอกวัวแล้วจะรู้ว่า สันหนอกเล็กนี่ลานมันกว้างแค่ไหน แล้วกว่าจะหอบสังขารขึ้นสันหนอกใหญ่มันก็จะเหนื่อยนิดนึง
แล้วคิดดูว่าจากตรงนี้มองไปตรงนุ้นจุดชมวิวที่เราเพิ่งผ่านมากันนั้นเล็กนิดเดียวเอง เราเดินกันมาได้ครึ่งทางละยังคงเหลืองึกๆ งักๆ ของสันเขาอีกนิดหน่อย 1 2 3 ยึกก็จะถึงจุดหมายของเรา วิวระหว่างทางที่ผ่านมาก็สวยดีนะแปลกตาดีไปกันต่อเถอะเพราะเราต้องไปตรงนุ้นนนนนนน!! ระหว่างทางมันก็เป็นทางชันขึ้นๆ ลงๆ เรื่อยๆตามหยักสันเขาซึ่งเราพบจุดชมวิวเป็นแง่งผา ยื่นออกไปมองเห็นวิวอีกมุมหนึ่งที่ไม่มหาชนแต่สวยไม่แพ้กัน ซึ่งขามันก็จะสั่นๆ หน่อยเพราะว่ายิ่งสูงยิ่งเสียว สวยอาบยาพิษจริงๆ
ภาพประกอบบทความข้างบน 1
ภาพประกอบบทความข้างบน 2
อีกอึดใจเดียวเราก็จะไปถึงปลายทาง แต่ก่อนจะถึงตรงนั้นเราต้องผ่านด่านหินนั่นก่อน นั่ก็คือต้องเดินเลาะหน้าผาที่ทำได้แค่เดินสลับขาไปมา ต้องเกาะหญ้าหน่อยๆต้องทรงตัวให้ดีไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบเดินสะดุดบ่อยๆ เนื่องจากเป็นเส้นทางอันตรายต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควร เพราะเบื้องล่างนี่สูงและเสียวมากแต่สวยอะเต็มไปด้วยหญ้าสีทองกุหลาบพันปี เมื่อเดินใกล้ถึงแล้วมันก็จะมีหญ้าขึ้นปุกปุยแบบนี้ และมีคนที่ถึงก่อนเราแล้ว นางอยู่ตรงนุ้นนนนนนนนน!!
(มัวถ่ายรูปเล่น 55) มาๆ เราจะพาไปชมวิวอีกด้านของสันเขากัน
ภาพเส้นทางที่ต้องเดิน งืออออ
และนี่ก็คือภาพวิวที่ปรากฏเบื้องหน้าสู่สายตา
วิวจากสันหนอกวัว
มันเป็นอะไรที่แบบว่าสวยและคุ้มค่าแก่การมาจริงๆ ทรงสันเขาเหลี่ยมแปลกตาสลับซับซ้อนกันไป เรียงยาวเป็นแนวสามเหลี่ยม มองย้อนกลับไปอีกด้านจะเห็นสันหนอกเล็กอยู่ไกลๆ นุ้นนนนน เล็กนิดเดียวไหมล่ะ ผาที่เดินผ่านมาก็มีลวดลายสวยงามใช่เล่นนะยามที่แสงอาทิตย์ทอส่อง ก่อนพระอาทิตย์จะลาลับไปหลังจากที่ชมวิวกันสักพัก เราก็เดินทางกลับกันซึ่งปรากฏว่ามีหมอกตอนเย็นลอยมาปิดท้าย
ทางกลับที่มีหมอกตอนเย็นลอยมาปิดท้าย
เราเดินเร็วๆกันกลับมาทันแสงเย็นที่จุดชมวิวของสันหนอกใหญ่พอดีแสงอาทิตย์กำลังสาดส่องสันหนอกเล็กจะทองๆเหลืองๆเขียวๆ แสงเย็นสีส้มทองอร่ามสาดซัดพวกเราหนักมาก เหลืองไปทั้งแผ่นดิน 5555 พระอาทิตย์ตกตรงเขาเรดาห์พอดี
ริมไลท์ตกลงอ่างเก็บน้ำด้วยแหนะ
แสงสุดท้ายของวันและชาวแก๊ง
แด่แสงสุดท้ายของวันแรก ก่อนพระอาทิตย์จะตกดินไป เราก็วางกล้องไว้ข้างกาย
ไม่ถ่ายมันละขอนอนทำท่าดีๆ ลงนอนบนพื้นหญ้าแล้วดื่มด่ำกับธรรมชาติด้วยตาเปล่าที่ไม่ผ่านเลนส์มันเป็นอะไรที่ฟินสุดแล้ว :)
วิวสันเขาและแสงสุดท้ายของวัน
เช้าวันใหม่กับแสงอาทิตย์รำไรและหมอกหนาปุกปุย เราก็ได้ตื่นกันมารับพลังธรรมชาติ(อย่างสะลืมสะลือ) ดือ ดื่อ ดือ ดือออออ แต่พอเจอหมอกที่กำลังไหลเข้ามาและลมหนาวที่เย็นยะเยือก ตาก็สว่างทันใด มาแล้วเว้ย มาแล้วๆๆ สิ่งที่รอคอย เจ้าหมอกที่ไหลแทรกแซงระหว่างสันเขานุ่มมุมสวย เราชอบนะหมอกที่ไม่เยอะเกินไปพอให้มันเห็นลวดลายของสันเขามันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง ถ้าหมอกมาอลังการเต็มไม่เห็นสันเขาเลยอะมันก็จะให้อีกความรู้สึกหนึ่ง สำหรับสภาพอากาศที่สันหนอกวัวนั้นลมแรงตลอดฟ้าปิดฟ้าเปิดแสงลงแสงหาย ทุกๆนาทีต้องปรับอารมณ์ตามให้ทันกับพี่เขา 555 เอาแต่ใจเป็นที่สุดอะ
วิวหมอกปุกปุย
วิวที่ค่ายยามสาย
เริ่มสายแล้วแสงก็เข้ามาไล่หมอก ให้ไหลไปไกลแต่วิวอีกด้านแสงกับหายยังคงมีหมอกปกคลุมเป็นระยะผลัดเปลี่ยนกันไป ด้านบนจุดชมวิวก็จะมีเจ้าหน้าที่
ที่คอยระวังความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวอยู่เป็นเนืองๆ เวลามีอะไรจะได้ช่วยเหลือทัน เช่น ต้องการนายแบบ เช่นนี้แล แฮ่!! แต่พี่เขาเท่ห์จริงๆ หน่าว่าไม่ได้เชียว
คุณพี่เจ้าหน้าที่
หลังจากอิ่มแล้วเราก็เดินมาชมวิวที่สันหนอกเล็กกันบ้าง มองย้อนกลับไปก็จะเห็นแคมป์ของเราใกล้ทางขึ้นสันหนอกใหญ่ประมาณนี้ เรียกได้ว่าถ้าใครผ่านมาต้องจ่ายค่าผ่านทางก่อน ทางขึ้นสันหนอกเล็กมันก็จะชันๆ หน่อยแต่หญ้าก็สั้นเกรียนไม่มีขวากหนามให้กวนใจเดินง่ายแต่เหนื่อยเท่านั้นเอง วิวตรงนี้จะสามารถชมทะเลหมอกได้อย่างใกล้ชิดมากกว่าสันหนอกใหญ่ สำหรับใครที่อยากจะมาเดินสันหนอกวัวรับรองว่าทุกคนจะได้ชมวิว 360 องศาทั้งเช้าและเย็นกันอย่างทั่วถึงเพราะว่ามีที่ให้เดินเล่นชมวิวเยอะมากจริง ๆ
แคมป์ของเรา
สรุปค่าใช้จ่าย 💰💰
- ค่าเจ้าหน้าที่นำทาง 1 คน ต่อ 1 กลุ่ม(7คน) 1500 บาท
- ค่ารถ 4wd 1000 บาท
- ค่าลูกหาบวันละ 1500 บาท
- ค่าเข้าอุทยานราคา 20 บาท
การเดินทาง
🚗 รถส่วนตัว: ขับมาที่ป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม
🚎 รถประจำทาง: (กรณีเดินทางจากกรุงเทพ) นั่งรถตู้ที่หมอชิต (ราคาขึ้นอยู่กับบริษัท ไม่เกิน 200 บาท) มาลงที่ บขส. กาญจนบุรี เสร็จแล้วก็นั่งรถเส้นสายสังขละบุรีต่อ แล้วบอกเขาว่าลงที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ค่ารถตู้ 175 บาท
📨 หมายเหตุเพิ่มเติม
ทริปเดินป่ายอดเขาที่สูงที่สุดในกาญจนบุรีเดินประมาณ 4-5 ชั่วโมงก็ถึงแล้วจองขึ้นได้วันละ 70 คน 1 กลุ่มละไม่เกิน 7 คน
ปล.1 ก่อไฟได้
ปล.2 ไม่มีร้านค้า ให้นำเครื่องสาธารนูปโภคขึ้นไปเอง
ปล.3 มีต้นน้ำข้างบน ไม่ต้องแบกน้ำไปเยอะก็ได้
หากชอบบทความเหล่านี้ก็คอมเมนต์คุยกันได้น๊า
ช่วยกดไลก์กดแชร์ให้กำลังใจ puffin boy
ได้ทำโปรเจกต์หาบทความดีๆ มาลงใน Blockdit เรื่อยๆ ด้วยน๊า 🥺🙏
จริงๆ แล้วร้านเราเป็นร้านขายอุปกรณ์เดินป่า เดินทางน๊า
หากจะไปเดินป่าแล้วต้องการอุปกรณ์สิ่งใด หรืออยากได้คำแนะนำในการเลือกอุปกรณ์ก็ตรงมาที่ร้านเราได้เลย หรือจะทักเรามาที่ line id : @thepuffinhouse
หรือ Facebook: The Puffin House ได้เลยจ้า มีพนักงานให้ความรู้และแนะนำอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับคุณได้แน่นอน 🤓📸
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
