6 พ.ค. 2022 เวลา 05:57 • ท่องเที่ยว
Road Trip อีสาน
Day 1
โพสน์นี้จะมาเล่าเรื่องการการเดินทางไปยังจังหวัดภาคอีสานครั้งแรกให้อ่านกันครับ มาเริ่มกันเลย
ขอเน้นย้ำอีกครั้ง ทริปนี้ไม่ได้มีการวางแผนใดๆ มาเลยครับ แต่ก็มีเป้าหมายอยู่ก็คือจะไปเที่ยวที่หินสามวาฬ และวัดภูทอกที่จังหวัดบึงกาฬให้ได้ และอีกอย่างวันแรกรูปจะน้อยหน่อยนะครับ
วันแรกเราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เวลาประมาณตี 2 ของวันเสาร์ จังหวัดแรกที่เราจะไปเที่ยวนั้นคือจังหวัดขอนแก่น ที่คิดว่าออกเวลานี้อย่างแรกเลยคือรถไม่เยอะ อีกทั้งใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมงนิดๆ ถึงเช้าพอดี จะได้หาอะไรทานแถวนั้นเลย
แต่การเดินทางตอนตี 2 ในครั้งนี้ก็พบว่า รถสิบล้อเยอะมากครับ โดยเฉพาะเส้นทางสระบุรี มีสามเลนก็ขับกันทั้งสามเลนเลย จึงทำให้การขับรถครั้งนี้เสียจังหวะอยู่บ่อยครั้ง พอเริ่มออกจากโคราช ก็เริ่มง่วงละครับ
เราจอดแวะที่ปั้มและพักสายตากันสักหน่อย ตอนนั้นน่าจะเป็นเวลา ตี 5 น่ะครับ ที่พักเพราะรู้ตัวเองดีว่าถ้าง่วงให้นอนเลยครับ การหลับในเป็นสิ่งที่อันตรายมากๆ (ไว้จะมาเล่าให้ฟังว่ามันอันตรายยังไง)
เราตื่นขึันมาตอน ประมาณ 6 โมงเช้าได้ครับ งีบไป 1 ชั่วโมง แล้วก็เดินทางกันต่อครับ พอเราออกจากโคราชเข้าสู่ขอนแก่น จะพบว่ารถสิบล้อก็เยอะเหมือนเดิม แถมมีการปรับปรุงถนนใหม่ด้วย ทำให้เราเดินทางช้าไปอีกครับ
เราเดินทางเข้าจังหวัดขอนแก่นประมาณ 10 โมงครับ (จากที่วางแผนไว้ให้ถึงราวๆ 8 โมงเช้า) ก่อนที่เราจะเข้าตัวเมืองขอนแก่น เราได้แวะพักล้างหน้าล้างตา และหาร้านอาหารเช้ากัน
และสถานที่แรกที่เราจะไปนั้นคือร้านอิ่มโอช เป็นร้านอาหารเช้าที่ได้รับความนิยม เราจึงแวะไปลองชิมกันครับ
โดยอาหารในเช้าที่เราสั่งจะประกอบไปด้วยเกาเหลา ขนมปังเวียดนาม ไข่กระทะ ขนมปังเนย และน้ำส้มครับ อาหารมากครับ
หลังจากเดินออกจากร้านอิมโอชแล้ว เราเลือบไปเห็นร้านกาแฟร้านหนึ่งใกล้ๆ จึงเดินเข้าไปสั่งกาแฟสักหน่อย โดยร้านมีชื่อว่า Red and Brew Coffee กาแฟอร่อยมากครับ ใครไปขอนแก่น แนะนำเลยครับ
จากนั้นเราก็ได้เดินทางกันต่อ โดยไปที่ไหว้พระที่วัดหนองแวงครับ เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมสวยมากครับ
สถานที่ต่อไปคือ Columbo Craft Village เป็นสถานที่จำหน่ายงาน Craft ครับ เข้าไปทางมหาวิทยาลัยขอนแก่น แต่ช่วงที่เราไปหลายร้านยังไม่เปิด จึงไม่ได้มีโอากาสได้ดูงาน Craft เท่าไหร่
พอเที่ยงแล้ว เริ่มหิว จึงมองหาร้านอาหาร เป้าหมายอีกอย่างของการมาเที่ยวภาคอีสานในครั้งนี้คืออยากจะมาชิมส้มตำต้นตำหรับของที่นี่ด้วยครับ
เที่ยงนี้เรามาฝากท้องกันที่ร้านต้นม่วงลาบเป็ด เขาว่ากันว่าที่นี่ลาบเป็ดอร่อย (แต่ผมไม่ชอบกินเป็ด) และก็เป็นไปตามที่เขาว่ากัน ลาบเป็ดอร่อย ไม่เหม็นคาวเลยครับ แต่ก็มาถึงเมนูส้มตำ จากบอกว่าส้มตำที่นี่แตกต่างจากกรุงเทพฯ อย่างมากครับ เพราะไม่ได้มีรถชาติ 3 รส มันรสชาติที่มีความเผ็ด และเค็มนิดหน่อยจากปูดอง แต่ก็อร่อยครับ
หลังจากอิ่มแล้ว ถึงเวลาหาที่พักกันครับ เราเล็งว่าจะพักโรงแรมราคาไม่แพงมากครับ เพราะเราใช้แค่นอนอย่างเดียว จึงไปพบกับโรงแรมหนึ่ง มีโปรโมชั่นด้วยคืนละ 390 บาท แถมยังอยู่กลาเมือง ใกล้ร้านอาหาร และถนนคนเดินอีกด้วย เราก็พุ่งตรงไปเลยครับ
สภาพภายนอกโรงแรมก็ดูดีครับ มีที่จอดรถด้วย เรา Check-In พร้อมกับจ่ายเงินเรียบร้อย และขึ้นไปยังห้องพัก สภาพห้องพักจะดูเก่านิดนึง แต่ก็ยังพอรับได้ครับ และเราก็ไปเจอที่สิ่งที่ไม่คาดคิด
เจอขนที่อ่างล้างหน้าครับ แต่คิดว่าน่าจะเป็นเส้นขนจากหนวดครับ เราจึงลงไปแจ้งที่เคาส์เตอร์ และพนักงานก็เปลี่ยนห้องพักให้ เราจึงไปเช็คห้องอีกครั้ง ห้องนี้ดูดีกว่าห้องก่อนครับ แต่..
เราเจอเส้นผมที่อ่างล้างหน้าอีกแล้ว แต่ไม่เยอะมากครับ เราจึงให้แมบ้านเข้ามาทำความสะอาดให้ จากนั้นก็อาบน้ำ และขอนอนพักสักหน่อย
เราตื่นขึ้นมาประมาณ 5 โมงเย็น แะเดินทางเท้าไปยังตลาดถนนคนเดินขอนแก่นครับ เพราะอยู่ใกล้กัน และอยู่ติดกับสวนสาธารณะ ถนนคนเดินที่นี้น่าเดินมากครับ ไม่แออัด ขายของหลากหลาย มีที่นั่งให้รับประทานอาหาร และเราก็ไปเจอของกินอย่างนึง เพราะตั้งแต่ขับรถเข้าขอนแก่นมา เราเจอของกินนี้ขายเยอะมาก นั้นก็คือหม่ำนั้นเอง
เราลองสั่งหม่ำเนื้อมาลองชิม ชิ้นละ 50 บาท พอกัดไปคำแรกก็รู้เลยว่า มันไม่ใช่ 555
จากนั้นเราเดินทางกลับที่พัก เพื่อจะไปเอารถไปเที่ยวตลาดต้นตาลกันครับ ตลาดที่นี้มีของขายเยอะมาก คล้ายๆ กับตลาดหัวมุมนะ เดินไปเที่ยวเล่นสักพักก็กลับครับ
แต่ระหว่างทางเราก็ไปเจอกับตลาดโต้รุ่งที่ชื่อว่าตลาดโต้รุ่งรื่นรมณ์ จะบอกว่าตลาดที่นี้โต้รุ่งกันจริงๆ ตอนที่เราไปก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้ว คนยังเต็มตลาดเลยครับ และก็ได้ของกินติดไม้ติดมือกลับมา
สำหรับคืนนี้ขอนอนพักก่อนนะครับ เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังว่า Day 2 ของการท่องเที่ยวในครั้งผิดแผนเอามากๆ เจอทั้งพายุ และอีกมากมายครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา