7 พ.ค. 2022 เวลา 18:54 • ไลฟ์สไตล์
มี Questions จากเพจหนึ่งถามว่า “เราเกิดมาทำไม” ทำให้นึกถึงสุนัขที่เลี้ยงไว้ชื่อ น้องเบ้นซ์
น้องเบ้นซ์เป็นสุนัขพันธุ์ชิสุ ที่เก็บมาเลี้ยงจากเจ้าของเดิมที่ค่อยข้างทิ้งขว้าง ถูกจำกัดบริเวณให้อาศัยแค่พื้นที่เท่าโต๊ะกินข้าวตั้งแต่เล็กจนโต
สภาพที่เจอแรกๆ คือขนที่ยาวมากและสังกะตัง มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวจากโรคขี้เรื้อนเปียกที่เราต้องพยายามรักษาเกือบทั้งชีวิตของน้อง อีกอย่างคือฝ่าเท้าที่นุ่มมาก น่าจะเกิดจากน้องไม่เคยลงจากโต๊ะเลย
เรารับน้องเบ้นซ์มาเลี้ยงหลังจากเจ้าของเดิมอ้างว่า เลี้ยงมาแล้ว 4-6ปี
น้องเบ้นซ์เป็นหมาน้อยค่อยข้างเจ้าอารมณ์ และเกลียดการโดนตัดขนมาก คือถ้าถือกรรไกรไปตัดขนให้จะกัดทันที วีรกรรมสุดๆ กับการตัดขนคือ เอาน้องไปฝากร้านตัดขนร้านไหน ร้านนั้นก็จะโทรมาให้รับน้องคืน เพราะไม่สามารถตัดขนให้ได้ มีอยู่ครั้งนึงที่เราล็อกตัวพยายามตัดขนให้ ปรากฎว่าน้องตาเหลือกเลย สุดท้ายอาศัยช่วงหลับตัดวันละนิดหน่อยแต่ทำบ่อยๆ ถึงพอดูได้บ้าง
น้องเป็นโรคเรื้อนเปียกที่รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายขาด จึงต้องอาบน้ำทุกอาทิตย์ และเป่าขนให้แห้งสนิทเท่านั้น ถ้าอาทิตย์ไหนไม่อาบน้ำผิวจะแดงมากและตามมาด้วยกลิ่นเหม็นเปรี้ยว
เราเลี้ยงน้องราวๆ 10-11 ปี มาเจอแชมพูของหมอที่คลีนิคนึงปรากฎว่าโรคเหม็นเปรี้ยวของน้องเริ่มดีขึ้นจนเหมือนหายไป
แต่ปรากฏว่าหมอคลินิกนั้นบอกว่า น้องมีอาการโรคหัวใจ และความดันสูง ต้องกินยาต่อเนื่องแบบสุนัขสูงอายุ
หลังจากนั้นในช่วงปีก็เริ่มเห็นอาการเลือดออกจากต่อมน้ำตา 2-3 ครั้ง ออกมาเป็นลิ่มใหญ่ๆ พาไปหาคุณหมอ เอกซเรย์ นู่นนี่นั้น เพราะคิดว่าอาจมีแผล ก็ไม่เจออะไร จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากความดันที่สูงมาก
น้องรักษาโรคหัวใจและความดันอยู่ปีนึงสุดท้ายก็จากไป
คำถามว่า “เกิดมาทำไม”
คำตอบของน้องเบ้นซ์ คือ เกิดมาเพื่อใช้กรรม
วันที่โรคขี้เรื้อนหายเราคิดว่าน้องน่าจะหมดเวรหมดกรรมซะที ไม่คิดว่าหลังจากนั้นแค่ปีเดียวน้องก็ไปจริงๆ
โฆษณา