Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Timeless History (ประวัติศาสตร์ไร้กาลเวลา)
•
ติดตาม
8 พ.ค. 2022 เวลา 06:10 • ประวัติศาสตร์
“คามิคาเซ่ (Kamikaze)” ตำนานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องผืนแผ่นดินอาทิตย์อุทัย
1
ค.ศ.1281 (พ.ศ.1824) “ไรจิน (Raijin)” เทพเจ้าแห่งสายฟ้าและสายฝนของลัทธิชินโต ได้ทำหน้าที่ปกป้องผืนแผ่นดินญี่ปุ่น
ไรจินได้ขว้างสายฟ้า ดลบันดาลให้เกิดพายุ พัดทำลายกองทัพศัตรูจนแหลกลาน ทำให้กองทัพศัตรูกว่า 140,000 นายเสียชีวิตและถูกจับเป็นเชลย
นี่คือ “คามิคาเซ่ (Kamikaze)” พายุแห่งพระเจ้า
ไรจิน (Raijin)
ตำนานเรื่องราวของเทพเจ้าผู้ปกป้องญี่ปุ่นนี้ โด่งดังมากในศตวรรษที่ 13 และเป็นที่พูดถึงมานานจนถึงปัจจุบัน
พายุและคลื่นลมที่ทำลายกองทัพศัตรู อาจจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญสำหรับใครหลายๆ คน แต่สำหรับชาวญี่ปุ่น นี่คือความช่วยเหลือจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องดูแลผืนแผ่นดินอาทิตย์อุทัย
1
ในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 13 อาจจะเรียกได้ว่าเป็นช่วงขาลงของมองโกล
ที่ผ่านมา กองทัพมองโกลนั้นประสบชัยชนะมาโดยตลอด หากแต่ในช่วงหลัง ก็เริ่มจะพบกับความพ่ายแพ้
แต่ถึงอย่างนั้น “กุบไลข่าน (Kublai Khan)” ผู้นำชาวมองโกล ก็ยังวางแผนจะรุกรานดินแดนต่างๆ และทำให้มองโกลเป็นชนชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
กุบไลข่าน (Kublai Khan)
ในเวลานี้ ดินแดนที่กุบไลข่านสนใจ ก็คือ “ญี่ปุ่น”
ในปีค.ศ.1274 (พ.ศ.1817) กองทัพมองโกลได้รวบรวมและเตรียมทัพเรือครั้งใหญ่ จากบันทึกนั้น กองทัพมองโกลได้เตรียมเรือกว่า 900 ลำ กำลังทหารอีกกว่า 40,000 นาย
จากนั้น กองทัพเรือมองโกลก็ได้ทำการรุกรานและปล้นเกาะที่อยู่ระหว่างเกาหลีและญี่ปุ่น ก่อนจะมุ่งหน้าไปยัง “อ่าวฮาคาตะ (Hakata Bay)” ในญี่ปุ่น โดยอ่าวฮาคาตะ นับว่าเป็นพื้นที่ๆ เหมาะสมที่จะขึ้นฝั่งและทำการรุกราน
แต่ทางด้านญี่ปุ่น ซึ่งก็ทราบถึงชัยภูมิของตนเองเป็นอย่างดี ก็ได้วางกำลังป้องกันกองทัพมองโกลไว้แล้วอย่างพร้อมสรรพ
2
กองทัพมองโกลได้ขึ้นบกบนแผ่นดินญี่ปุ่นในวันที่ 19 พฤศจิกายน ค.ศ.1274 (พ.ศ.1817) และได้ปะทะกับกองทหารญี่ปุ่นและกองทัพซามูไรที่รออยู่แล้ว
แต่ถึงจะพยายามต้านซักแค่ไหน แต่สุดท้าย ญี่ปุ่นก็ต้องเป็นฝ่ายถอยทัพ ทำให้กองทัพมองโกลสามารถยึดหัวหาดไว้ได้
แต่ในวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ.1274 (พ.ศ.1817) ลมพายุลูกแรกก็ได้พัดเข้าหากองทัพมองโกล ได้เกิดพายุไต้ฝุ่นพัดเข้าทำลายบริเวณรอบๆ ทำให้กองทัพเรือมองโกลเสียหาย ทหารก็เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
2
พายุที่พัดมาได้อย่างถูกที่ถูกเวลา ได้ช่วยแผ่นดินญี่ปุ่นไว้ได้ และทำให้กองทัพมองโกลต้องถอยทัพ แต่ถึงอย่างนั้น กุบไลข่านก็ไม่ได้คิดจะยอมแพ้ หากแต่เตรียมการที่จะบุกญี่ปุ่นอีกครั้ง
การเตรียมการบุกครั้งที่สองนี้ใช้เวลานานถึงหกปี และในปีค.ศ.1281 (พ.ศ.1824) มองโกลก็พร้อมจะบุกญี่ปุ่น และมั่นใจว่าจะต้องได้รับชัยชนะ
คราวนี้ กุบไลข่านจัดเตรียมกองเรือขนาดใหญ่ที่สุดซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในสมัยนั้น โดยมีการประเมินว่าฝ่ายมองโกลเตรียมเรือกว่า 4,400 ลำ กำลังทหารอีกกว่า 140,000 นาย
ตัวเลขที่สูงนี้ทำให้นักประวัติศาสตร์เกิดข้อสงสัย แต่ถึงแม้ว่าจะประมาณขั้นต่ำ เรือของฝ่ายมองโกลก็มีไม่ต่ำกว่า 2,000 ลำ กำลังทหารไม่ต่ำกว่า 70,000 นาย ซึ่งก็ถือว่าสูงอยู่ดี
ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นก็ได้ทำการป้องกันอ่าวฮาคาตะให้รัดกุมยิ่งกว่าเดิม มีการสร้างกำแพงและสนามเพลาะ พร้อมรับมือกับผู้รุกราน
ทางฝ่ายมองโกล เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจากภูมิอากาศ การบุกครั้งที่สองนี้จะดำเนินการในฤดูหนาว ก่อนที่จะถึงหน้าของพายุไต้ฝุ่น
1
แต่การป้องกันอย่างหนาแน่นของญี่ปุ่นก็นับว่าได้ผล มีการวางกำลังป้องกันอย่างดี ทำให้กองทัพมองโกลไม่พบที่ว่างที่จะขึ้นฝั่งได้
เมื่อเป็นอย่างนี้ กองทัพมองโกลจึงทำการแบ่งทัพ แยกกันไปขึ้นฝั่งทางด้านอื่น หากแต่ก็ต้องพบกับกองทัพญี่ปุ่นในทุกๆ ที่
ผลที่ออกมา ก็คือการต่อสู้อย่างยาวนานเป็นเวลาหลายเดือน ซึ่งฝ่ายมองโกลก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้
สงครามนี้ยืดเยื้อออกไปนานหลายเดือน จนเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน จนถึงหน้าพายุไต้ฝุ่นอีกครั้ง
สิงหาคม ค.ศ.1281 (พ.ศ.1824) กองทัพมองโกลได้รวมทัพ และวางแผนจะเข้าโจมตีครั้งใหญ่ เพื่อที่จะเข้าไปตั้งฐานทัพของตนในญี่ปุ่น
แต่แล้วในวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ.1281 (พ.ศ.1824) สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็ได้เกิดขึ้น นั่นคือได้เกิดพายุไต้ฝุ่นพัดเข้าสู่ชายฝั่งทะเลแถบตะวันตกของญี่ปุ่น ทำให้กองทัพมองโกลต้องย่อยยับอีกครั้ง ทหารมองโกลล้มตายเป็นจำนวนมาก
1
ดูเหมือนว่าพายุไต้ฝุ่นหรือคามิคาเซ่ จะช่วยเหลือญี่ปุ่นไว้ได้อีกครั้ง
เรื่องราวของพายุไต้ฝุ่นที่ปกป้องญี่ปุ่นจากการรุกรานของมองโกลถึงสองครั้ง เป็นที่เล่าขานกันมาอย่างยาวนาน
หลายคนมองว่านี่คือปาฏิหาริย์ เนื่องจากมองโกลก็คือกองทัพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเวลานั้น อีกทั้งการเกิดพายุไต้ฝุ่นได้ถูกที่ถูกเวลาถึงสองครั้ง และเกิดในบริเวณเดิม ก็นับเป็นเรื่องที่แปลก
จึงไม่แปลกที่ชาวญี่ปุ่นหลายคนจะมองว่านี่เกิดจากการดลบันดาลของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่เล่าขานจนถึงปัจจุบัน
References:
https://historyofyesterday.com/the-origins-of-kamikaze-2344148484e8
https://www.smithsonianmag.com/smart-news/typhoons-saved-13th-century-japan-mongol-invasion-180953573/
https://www.nationalgeographic.com/science/article/141104-kamikaze-kublai-khan-winds-typhoon-japan-invasion
https://www.nippon.com/en/japan-topics/g01214/
16 บันทึก
27
9
16
27
9
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย