19 พ.ค. 2022 เวลา 12:47 • ไลฟ์สไตล์
จุดบอดของคนสีแดง หยิ่งยโส ก้าวร้าว เหยียบคนอื่น ไม่ฟังใคร รีบเร่งเกินไป สั่งคนไปทั่ว ชอบควบคุม ไม่อดทนอดกลั้น และคิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น...
เราสามารถหาตัวอย่างได้ตามสนามในโรงเรียน เด็กชาย ก ตัวเล็กแต่เจ้าเล่ห์มาก ซึ่งถูกเด็กชาย ข ชกต่อยอยู่บ่อย ๆ ตัดสินใจไปหาเด็กชาย ค ซึ่งเป็นตัวป่วนที่สุดของโรงเรียนและเป็นที่รู้กันดีว่าขี้ใจน้อยและอารมณ์เสียง่าย เด็กชาย ก บอกเด็กชาย ค ว่า เด็กชาย ข พูดอะไรแย่ ๆ เกี่ยวกับเด็กชาย ค เด็กชาย ค ของขึ้นแล้วไปต่อยเด็กชาย ข ทันที
ตอนนี้เด็กชาย ก ได้แก้แค้นเด็กชาย ข โดยไม่ต้องลงมือเองสักนิด เขาใช้ประโยชน์จากความก้าวร้าวของเด็กชาย ค ได้อย่างแนบเนียน แน่นอน หลังจากนั้นเด็กชาย ก สามารถเดินไปหาเด็กชาย ข ได้เสมอ แล้วบอกว่าสงสารที่เขาโดนต่อย และตำหนิว่าเด็กชาย ค นิสัยไม่ดี
นี่อาจจะเป็นตัวอย่างที่พื้น ๆ เอามาก ๆ แต่จิตวิทยาเดียวกันนี้ใช้ได้กับสถานการณ์ที่ซับซ้อนกว่านี้ ถ้าคุณมีเพื่อนร่วมงานที่ตำแหน่งสูงกว่าอยู่กลุ่มหนึ่ง โดยหนึ่งในนั้นขึ้นชื่อมากเรื่องความเจ้าคิดเจ้าแค้น ก็เข้าทางคุณแล้ว เช่น หากคุณสามารถชักจูงพฤติกรรมก้าวร้าวนี้ให้หันไปเล่นงานคู่แข่งตัวฉกาจของคุณ คุณก็ถือว่ามีทรัพยากรชั้นดีอยู่ในมือ สิ่งสำคัญคือ ต้องมั่นใจว่า ตัวคุณเองไม่หลงเข้าไปอยู่ตรงกลางระหว่างสองฝ่าย
พูดถึงการหลงเข้าไปติดอยู่ตรงกลางของการปะทะกัน ลองจินตนาการดูแล้วกันว่า ถ้าเด็กชาย ก ข และ ค ต่างปกครองประเทศที่มีแสนยานุภาพทางทหารที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกร
อีกมุมหนึ่งที่ไซโคพาธสามารถใช้ประโยชน์จากคนสีแดงคือ #เล่นกับมโนสำนึกความรู้สึกผิดของคนสีแดง (คนสีแดงก็มีสิ่งนี้แม้ว่าคุณไม่อยากจะเชื่อ) หรือพวกเขาอาจจะเผชิญหน้ากับคนสีแดงในรูปแบบใหม่ บ่อยครั้งที่คนสีแดงถูกรายล้อมด้วยคนที่หลบเลี่ยงสายตาของตน และรีบหนีเมื่อเห็นตน แต่ลองคิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากคนสีแดงพบกับใครสักคนที่ไม่ทำแบบนั้น คนที่กล้ามองตากัน จะเกิดอะไรขึ้น
1
วิธีรอดพ้นจาก "คนเป็นพิษ"
โธมัส เอริคสัน เขียน
ประเวศ หงส์จรรยา แปล
สำนักพิมพ์ Amarin HOW-TO
โฆษณา