10 พ.ค. 2022 เวลา 02:50 • ธุรกิจ
เวียดนาม ประเทศแห่ง คราฟต์เบียร์ ของอาเซียน
เวียดนาม เรียกได้ว่าเป็นเมืองคราฟต์เบียร์ แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งจากความนิยมในการดื่มและการก่อตั้งเป็นธุรกิจในประเทศ
ไปจนถึงผู้ผลิตจากต่างประเทศ ที่ได้เริ่มหันมาผลิตคราฟต์เบียร์ในเวียดนามกันมากขึ้น
1
แล้วทำไมคราฟต์เบียร์ถึงเป็นที่นิยมในเวียดนาม ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
สำหรับการจะเป็นคราฟต์เบียร์ได้นั้น จำเป็นต้องประกอบด้วยคุณสมบัติ 3 อย่างนี้
1. เป็นผู้ผลิตรายเล็ก
มีกำลังการผลิตไม่เกิน 6 ล้านบาร์เรล หรือราว 700 ล้านลิตรต่อปี
2. เป็นผู้ผลิตอิสระ
ไม่ผูกมัดกับนายทุนรายใหญ่ โดยเจ้าของต้องถือหุ้นของบริษัทมากกว่า 75%
3. ใช้วัตถุดิบดั้งเดิม ได้แก่ มอลต์ ฮอปส์ ยีสต์ และน้ำ
แต่ก็สามารถใช้วัตถุดิบอื่นได้ หากช่วยสร้างรสชาติที่ดี ไม่ใช่เพื่อลดต้นทุน
1
แม้ว่าคราฟต์เบียร์จะดูมีราคาที่สูงกว่าเบียร์ทั่วไป แต่ด้วยความพิถีพิถันและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้คราฟต์เบียร์เป็นที่นิยมมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
เรื่องดังกล่าวส่งผลให้กระแสของคราฟต์เบียร์ ที่แม้จะมีจุดเริ่มต้นจากประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศแถบยุโรป ได้กระจายมาสู่ประเทศแถบเอเชียด้วย
โดยหนึ่งในประเทศที่โดดเด่นในเรื่องนี้ ก็คือ เวียดนาม
ปัจจุบัน เวียดนามเป็นแหล่งผลิตคราฟต์เบียร์ขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยมีการผลิตคราฟต์เบียร์กว่า 3 ล้านลิตรต่อปี และมีโรงเบียร์กว่า 90 แห่ง
จริง ๆ แล้ว ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์ชาวไทยหลายราย ก็มีฐานการผลิตอยู่ในเวียดนามเช่นกัน
2
แล้วอะไรกัน ที่ทำให้เวียดนามโดดเด่น เรื่องคราฟต์เบียร์ ?
1
อย่างแรกเลยคือ “เรื่องข้อบังคับและกฎหมายที่เอื้ออำนวย”
โดยเวียดนามไม่มีการกำหนดปริมาณการผลิตขั้นต่ำ
ทั้งผู้ประกอบการชาวเวียดนาม รวมถึงชาวต่างชาติ
ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายสามารถทดลองตลาดได้ก่อน ด้วยการเปิดร้านขนาดเล็ก
ซึ่งหากคนติดใจในรสชาติแล้ว ก็ค่อย ๆ ขยับขยายกำลังการผลิตในภายหลัง
ต้นทุนในการเริ่มต้นธุรกิจจึงค่อนข้างต่ำ
จากเรื่องนี้เอง ที่ได้ส่งผลให้ชาวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาทำธุรกิจคราฟต์เบียร์กันในเวียดนาม
จนเกิดเป็นการถ่ายทอดความรู้ให้แก่คนท้องถิ่น นำไปสู่การก่อตั้งธุรกิจคราฟต์เบียร์ในแต่ละชุมชน
3
ส่วนอย่างที่สองคือ “พฤติกรรมการดื่มของชาวเวียดนาม”
รู้หรือไม่ว่า ชาวเวียดนามดื่มต่อหัวมากสุดเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย เป็นรองเพียงชาวเกาหลีใต้ เท่านั้น
1
นอกจากนี้ ชาวเวียดนามยังไม่ยึดติดกับแบรนด์อีกด้วย ทั้งยังมีนิสัยเปิดใจลองผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ
นั่นจึงทำให้ตลาดคราฟต์เบียร์ในเวียดนามครึกครื้นอยู่เสมอ เพราะผู้ผลิตมีแรงจูงใจเข้ามาแข่งขันกันตลอดเวลา
2
ที่สำคัญ ประชากรของประเทศเวียดนาม กลุ่มคนในวัยหนุ่มสาวที่มีฐานะระดับชนชั้นกลาง
ซึ่งเป็นฐานผู้บริโภคคราฟต์เบียร์ขนาดใหญ่ กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
สองส่วนนี้ ก็ได้ทำให้ธุรกิจคราฟต์เบียร์ในเวียดนามเป็นที่น่าจับตามอง
คำถามสำคัญที่ตามมาเลยก็คือ อุตสาหกรรมนี้ น่าสนใจอย่างไร ?
ที่น่าสนใจก็เพราะว่า คราฟต์เบียร์มีความพิเศษตรงที่ผลิตในปริมาณที่น้อย และมักมีการใช้วัตถุดิบในแต่ละชุมชนมาเป็นส่วนประกอบในการผลิต เช่น ผลไม้ หรือวัตถุดิบประจำท้องถิ่น
1
ดังนั้น ผู้ที่ได้รับประโยชน์จะไม่ได้มีเพียงแค่ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์เท่านั้น แต่เกษตรกรผู้ปลูกผลไม้และพืชผลต่าง ๆ ก็จะได้ประโยชน์จากการนำมาแปรรูป รวมถึงสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมแหล่งผลิตคราฟต์เบียร์ได้อีกด้วย
2
โดยภาพรวมแล้ว คราฟต์เบียร์ เป็นหนึ่งในธุรกิจที่จะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจในแต่ละท้องถิ่นได้ค่อนข้างดี นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคราฟต์เบียร์ถึงน่าสนใจ
1
คำถามต่อมาคือ แล้วทำไมคราฟต์เบียร์ ถึงไม่เป็นที่นิยมในไทย
1
ทั้งที่จริง ๆ แล้ว หากดูจากผู้ผลิตชาวไทยที่สามารถนำเบียร์ไปสร้างชื่อเสียงในระดับโลก
โดยได้รางวัลเหรียญเงินจากงาน World Beer Awards 2020 เลยทีเดียว
อีกอย่างคนไทยเองก็มีนิสัยรักการดื่มไม่แพ้ชาติใด ซึ่งถูกจัดเป็นอันดับ 3 รองจากเวียดนามและเกาหลีใต้เท่านั้น
4
แต่ส่วนแบ่งการตลาดของคราฟต์เบียร์ในประเทศไทยกลับไม่ถึง 1% เลยด้วยซ้ำ
ทั้ง ๆ ที่ตลาดเบียร์ในประเทศไทย มีมูลค่าหลักแสนล้านบาท
ในขณะที่ ประเทศอื่น ๆ มีสัดส่วนคราฟต์เบียร์มากกว่า 10% โดยสหรัฐอเมริกามีสัดส่วนถึง 20%
1
ซึ่งสาเหตุสำคัญที่เป็นแบบนี้ เพราะว่ากฎหมายผลิตสุราชนิดเบียร์ โดยมีข้อกำหนดดังนี้
3
1. ต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
2. มีผู้ถือหุ้นสัญชาติไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 ของจํานวนหุ้นทั้งหมด
3. ต้องผลิตอย่างน้อย 10 ล้านลิตรต่อปี และมีกำลังการผลิตไม่ต่ำกว่า 1 แสนลิตรต่อปี
5
ด้วยกฎข้อบังคับที่ต้องมีเงินทุนสูง
ผู้ประกอบการรายเล็ก จึงแทบจะไม่สามารถผลิตเบียร์ในไทยได้เลย
เราจึงเห็นหลายคนหันไปผลิตเบียร์ในประเทศเพื่อนบ้านแทน แล้วค่อยนำเข้ามาขายในไทยอีกครั้ง
1
ทำให้คราฟต์เบียร์จากแต่เดิมที่มีต้นทุนสูงอยู่แล้ว จึงยิ่งสูงเพิ่มขึ้นอีก
นี่จึงเป็นสาเหตุว่า ทำไมเราจึงเห็นคราฟต์เบียร์ส่วนใหญ่มีราคาสูง
นอกจากนี้ ยังมีกฎหมายเรื่องการห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งทางตรงและทางอ้อม อีกด้วย
3
สำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่อาจไม่ได้รับผลกระทบนัก เพราะแบรนด์เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว และมีช่องทางการวางจำหน่ายอยู่ทั่วประเทศ
1
รวมถึงสามารถออกสินค้าอื่น ๆ เช่น น้ำเปล่า โซดา เพื่อช่วยโปรโมตแบรนด์ทางอ้อมก็ยังได้
แต่ไม่ใช่สำหรับผู้ประกอบการรายเล็ก ที่ไม่มีเงินทุนเพียงพอในการทำสิ่งเหล่านี้ และต้องการพึ่งการโปรโมตให้เป็นที่รู้จักด้วย
เราจึงพอสรุปได้ว่า กฎหมายนี้เป็นการปิดตายเบียร์รายเล็กหรือคราฟต์เบียร์อย่างสมบูรณ์
4
เมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร
ที่ธุรกิจคราฟต์เบียร์ในประเทศเรา จะมีข้อจำกัดให้เติบโตได้ยาก
และกลายเป็นประเทศเวียดนาม ที่ประสบความสำเร็จในเรื่องคราฟต์เบียร์ จนกลายเป็นอันดับ 1 ของอาเซียนได้ นั่นเอง..
2
โฆษณา