22 พ.ค. 2022 เวลา 12:00 • ไลฟ์สไตล์
ฟีดแบ็กต้องไม่ใช่การตัดสินเกี่ยวกับความสามารถหรือบุคลิกภาพของผู้อื่น ฟีดแบ็กต้องเป็นการส่งข้อความจากมุมมองของบุคคลอื่นเกี่ยวกับพฤติกรรมและผลลัพธ์ เพื่อแสดงการยอมรับในผลงานที่ยอดเยี่ยม หรือแนะนำวิธีการปรับปรุงการทำงาน และเป้าหมายของฟีดแบ็กคือ การทำให้ผู้ที่ได้รับฟีดแบ็กเข้าใกล้เป้าหมายที่ตั้งไว้ ผ่านการเรียนรู้ การเติบโต และการเปลี่ยนแปลง ซึ่งวิธีให้ฟีดแบ็กที่ประสบความสำเร็จและไม่ล้มเหลว มีดังนี้
1. ให้ฟีดแบ็กในเวลาที่เหมาะสม
อย่าให้ฟีดแบ็กโดยการขัดจังหวะขณะพนักงานพูด แต่ควรตั้งใจฟังพนักงานอย่างเต็มที่ก่อน แล้วจึงค่อยให้ฟีดแบ็กเมื่อพวกเขาพูดจบ การขัดจังหวะขณะที่พนักงานพูดแล้วพูดสิ่งที่ตัวเองต้องการ ไม่นับว่าเป็นฟีดแบ็ก แต่เป็นเพียงคำเทศนาที่คุณพูดแต่เพียงฝ่ายเดียว
2. ให้ฟีดแบ็กพร้อมกับกำลังใจ
อย่าลืมกล่าวชมเชยเมื่อพวกเขาทำได้ดี หรือกล่าวแสดงความยินดีเมื่องานเป็นไปด้วยดี และให้กำลังใจหรือปลอบใจเมื่องานไม่ราบรื่นนักในช่วงเวลาเช่นนี้ หัวหน้าต้องพยายามทำความเข้าใจสภาพจิตใจของพนักงาน หากพนักงานรู้สึกเสียใจหรือรู้สึกผิดกับสิ่งที่พวกเขาทำผิดพลาด แล้วคุณให้กำลังใจแก่พวกเขาอย่างอบอุ่นแทนที่จะถามถึงความรับผิดชอบ พนักงานก็จะพยายามไม่ทำผิดพลาดซ้ำ ทั้งยังเชื่อใจและเคารพคุณ
3. แบ่งปันประสบการณ์ของตัวเองและแสดงความเห็นใจ
หากหัวหน้านึกถึงประสบการณ์ที่คล้ายกันของตัวเองขณะสนทนากับพนักงานจะเข้าใจความรู้สึกของพนักงานได้ดีขึ้น ไม่ควรเล่าประสบการณ์ของตัวเองมากเกินไป เพราะจะทำให้กลายเป็นบทสนทนาที่มีผู้บริหารเป็นศูนย์กลาง แต่หากผู้บริหารแสดงให้พวกเขาเห็นว่าตัวเองก็เคยมีประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกันอย่างคร่าว ๆ ก็อาจทำให้พวกเขารู้สึกว่าคุณเป็นพวกเดียวกัน และเปิดใจยอมฟังคำพูดของคุณ
4. ขอความยินยอม
เวลาจะให้ฟีดแบ็ก หัวหน้าควรขอความยินยอมจากพนักงานเกี่ยวกับ เวลา เนื้อหา และทิศทางการให้ฟีดแบ็ก จริง ๆ แล้วควรใช้คำว่าขออนุญาตมากกว่าขอความยินยอม เมื่อพนักงานอนุญาต นั่นหมายความว่าพวกเขาเปิดใจให้หัวหน้าแล้ว
เคล็ดลับจากหนังสือ "คนเก่งให้ FEEDBACK ที่แตกต่าง"
คิมซังบอม โชยุนโฮ และฮาจูยอง เขียน
ชนามาศ เพ็งสมบูรณ์ แปล
สำนักพิมพ์ Amarin HOW-TO
โฆษณา