Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
รักษ์...อักษรา
•
ติดตาม
10 พ.ค. 2022 เวลา 05:12 • นิยาย เรื่องสั้น
เผ่าพันธุ์ที่มองไม่เห็น…
เคยสงสัยกันบ้างไหมว่า มนุษย์บนโลกใบนี้ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ หากว่านับถือศาสนาแตกต่างกัน เราสามารถล่วงรู้ความต่างเหล่านั้นได้จากการสังเกตบุคลิกลักษณะ การแต่งกาย ภาษา การประพฤติปฏิบัติตามหลักของศาสนานั้นๆ ซึ่งสามารถบ่งบอกความเป็นตัวตนและสิ่งที่นับถือศรัทธาได้
แต่ครั้นเมื่อเสียชีวิต หรือที่เรียกกันจนติดปากว่าตายเป็น “ผี” ไปแล้ว เราสามารถแยกแยะได้หรือไม่ว่านั่นเป็น ผีพุทธ ผีคริสต์ ผีแขก ผีพราหมณ์ หรือผีของศาสนาไหน หากวันดีคืนร้ายมาปรากฏกายให้เห็น?
ผีไทยนั้นหลายคนคงรู้เพราะมีชื่อเสียงโด่งดัง นำมาสร้างเป็นหนังเป็นละครกันมากต่อมาก แต่พี่แขกนี่สิหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามีตัวตนและลักษณะเช่นใด ซึ่งในที่นี้จะขอกล่าวถึงสิ่งลี้ลับตามหลักของศาสนาอิสลาม ซึ่งเรียกกันว่า "ญิน"
ในศาสนาอิสลาม จะไม่เรียกสิ่งลี้ลับเหล่านั้นว่า "ผี" หรือว่า "วิญญาณ" ที่คอยหลอกหลอนผู้คนจนจับไข้หัวโกร๋น แต่จะเรียกสิ่งเหล่านั้นว่า "ญิน" ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกสร้างมาจากไฟ ส่วนมนุษย์นั้นถูกสร้างมาจาก "ดิน" โดย "ญิน" นั้น มีความสามารถมากกว่ามนุษย์ แต่ที่เหมือนกับมนุษย์คือมีทั้งฝ่ายที่เกเรและฝ่ายที่มีคุณธรรม
"ญิน" ที่เกเรจะคอยหลอกลวงมนุษย์ แต่การหลอกให้มนุษย์กลัวนั่นไม่ใช่เรื่องหลักเหมือนอย่างกับผีทั่วๆไป โดยมันจะใช้วิธีการการล่อลวงให้มนุษย์หันเหออกจากแนวทางของพระเจ้ามากกว่า ซึ่งนั่นแหละคือวัตถุประสงค์อันแท้จริงของมัน โดย "ญิน" มีความสามารถในการแปลงร่างหรือแปลงกายได้ เป็นทั้งคนและเป็นได้ทั้งสัตว์
ส่วนเรื่องคนตายในศาสนาอิสลาม พวกเขาไม่ได้กลับมาพบกับคนเป็น แต่พวกเขาเดินทางไปสู่โลกใหม่ซึ่งเกินญานสัมผัสของมนุษย์ที่จะล่วงรู้ได้ มีเพียงพระผู้เป็นเจ้าเพียงองค์เดียวเท่านั้นที่ทรงล่วงรู้ในทุกสรรพสิ่ง แต่สถานที่แห่งใหม่นั้นเรียกว่า "อะลัมบัรซัก"
ดังนั้นสิ่งที่เราเห็นว่าคนตายมาทำแบบนู้นแบบนี้ ที่จริงแล้วพวกมันคือ "ญิน" ที่คอยทำให้มนุษย์หลงทางและทำให้มนุษย์หวาดกลัวนั่นเอง
เมื่อมนุษย์ตาย วิญญาณจะเคลื่อนที่ออกจากร่างอย่างถาวรและเดินทางสู่โลกใหม่ซึ่งเป็นที่พักของวิญญาณทั้งหมดของมนุษย์ ก่อนที่มนุษย์จะถูกทำให้ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง โดยวิญญาณจะกลับไปในร่าง และร่างที่เน่าเปื่อยจะถูกทำให้กลับเป็นเหมือนเดิมจากอำนาจของพระผู้เป็นเจ้า
วิญญาณจึงมีการเคลื่อนที่ แต่การเคลื่อนนี้ไม่ใช่ไปอย่างเลื่อนลอย เพราะมีการควบคุม โดยเฉพาะเมื่อตายแล้วจะมีที่ไปอย่างชัดเจนไม่มีลักษณะไร้ญาติ หรือรอคอยอะไรที่ไหนหรือมาหลอกหลอนใคร
แต่สิ่งที่แน่ๆ ไม่ว่าจะมนุษย์หรือว่า "ญิน" ล้วนแล้วแต่ถูกสร้างขึ้นเพื่อการกราบไหว้ต่อพระผู้เป็นเจ้าเพียงองค์เดียวเท่านั้น
และเนื่องจาก "ญิน" ถูกสร้างมาจากไฟ ลักษณะของมันจึงแตกต่างจากมนุษย์ อีกทั้งความรู้ที่มนุษย์มีนั้นยังจำกัด ความรู้เหล่านั้นคือความรู้ที่พระผู้เป็นเจ้าได้เปิดไว้ให้มนุษย์รู้ ส่วนความรู้ที่ไม่อนุญาตต่อให้มนุษย์อยู่อีกล้านปีก็ไม่มีทางรู้ได้ เช่นบ้านของ "ญิน" เป็นยังไง หรือคนตายแล้ววิญญาณนั้นไปไหน แต่เราสามารถสัมผัสการมีอยู่ได้เช่นคนที่โดน "ญิน" เข้าสิงจะมีอาการตัวสั่น หรือคนตายซึ่งวิญญาณออกจากร่างแล้วถึงแม้จะเปลี่ยนอวัยวะที่เป็นสาเหตุของการตาย มนุษย์ก็จะไม่ฟื้นอยู่ดี
"ญิน" ที่เกเรนี่แหละที่อยู่เบื้องหลังความวุ่นวายของมนุษย์ อีกทั้งการใช้ไสยศาสตร์ที่แก่กล้าก็ยิ่งต้องใช้ของเลวๆที่ "ญิน" ยอมรับเป็นเครื่องเซ่นไหว้เช่นการใช้อวัยวะมนุษย์ อาทิ นิ้วคนตายเพื่อสกัดน้ำมันมาทำน้ำมันพรายหรือเด็กตายมาย่างเป็นลูกกรอก ฯลฯ
เหล่านี้คือ "ญิน" ที่ต้องการทำให้มนุษย์หลงออกจากสัจธรรมโดยอาศัยการที่มนุษย์มองไม่เห็นพวกมันมาเป็นประโยชน์และเพื่อให้นำอาหารเครื่องเซ่นไหว้ไปให้มันกิน
ขอเสริมอีกนิด "ญิน" พวกที่เกเรจะเรียกอีกอย่างว่า "ชัยฏอน" ภาษาอังกฤษเรียกว่า "ซาตาน" และคำว่าซาตานอย่าคิดว่ามันคือปีศาจที่ต่อกรกับพระเจ้าเหมือนในหนังหรือในนิยายเพราะมนุษย์ที่เกเร รวมทั้งพวกที่ชอบชักชวนคนอื่นให้ทำเรื่องเลวๆก็เป็นซาตานได้เหมือนกัน โดยในอัลกุรอานนั้นพระเจ้าได้กล่าวว่าซาตานคือพวกที่มาจากมนุษย์และญิน
ส่วน "ญิน" ที่ดีทั่วไปที่เหมือนกับมนุษย์ที่ดี "ญิน" พวกนี้จะอาศัยในที่ๆมนุษย์ไม่อาศัย เช่นในป่า ภูเขา ในแม่น้ำ ทะเล บนอากาศ "ญิน" จะผ่านมาในหมู่มนุษย์บ้างแต่ก็จะผ่านไปโดยไม่สร้างความเดือดร้อนหรือทำให้มนุษย์สะพรึงกลัว
แตกต่างจาก "ญิน" ที่เกเร พวกนี้แหละคือที่มาที่ทำให้คนที่ไม่รู้ต้องไปตั้งศาล เอาอาหารไปให้กินซึ่ง "ญิน" นั้นพวกมันหากินเหมือนมนุษย์ แต่พวกมันทำให้มนุษย์กลัว เช่นมาปรากฏกายให้เห็นโดยเฉพาะการกระทำบางอย่างของมนุษย์ที่เป็นเหตุให้ "ญิน" ใช้สร้างสถานการณ์ เช่นมีอุบัติเหตุบริเวณทางโค้งก็ไปตั้งศาล พอวันดีคืนดีมันก็จะปรากฏตัวให้มนุษย์เห็นเพื่อสร้างความเฮี้ยน แล้วเราก็เอาอาหารไปให้มัน จุดธูปไหว้มัน
อีกอย่าง "ญิน" ที่เกเรมักเข้าไปอาศัยในที่ๆพวกมันชอบเช่น รูปปั้น เสาบ้านที่ผูกผ้ากราบไหว้ ศาลที่มนุษย์สร้างขึ้นแล้วคิดว่ามีคนตายอาศัย หรือผีบ้านผีเรือน ทั้งหมดที่กล่าวมาและอื่นๆอีก แท้จริงแล้วผู้ที่อาศัยก็คือ "ญิน" นั่นเอง
และเชื่อว่าอาจมีคำถามเกิดขึ้นในใจ…ทำไมบางครั้ง "ญิน" ปรากฏกายแล้วเหมือนมนุษย์ที่ตายบริเวณนั้น?
เกี่ยวกับเรื่องนี้ท่านนบีมูฮัมหมัด(ศาสดาของชาวอิสลาม)ได้กล่าวว่ามนุษย์ทุกคนจะมี "ญิน" ที่อยู่ร่วมกับเขาซึ่งเรียก "ญิน" พวกนี้ว่า "อามิร" ญินพวกนี้รู้จักเราดีกว่าพ่อแม่เราซะอีก เมื่อเรารับประทานอาหาร ดื่มน้ำ พวกมันก็ร่วมวงกับเราเช่นกัน และเมื่อความตายได้มาถึงยังมนุษย์ พวก "ญิน" ยังมีชีวิตอยู่เพราะญินนั้นมีอายุขัยมากกว่ามนุษย์ เมื่อเราตายพวกญินยังไม่รู้ว่าจะไปที่ใด พวกมันจึงยังคงวนเวียนบริเวณนั้น บริเวณที่มนุษย์ที่มันได้เคยอยู่ร่วมกันด้วยนั้นเสียชีวิต ถ้าท่านตั้งศาลหรือกราบไหว้เมื่อไหร่ มันจะอาศัยอยู่ตรงนั้นอย่างถาวร
สรุป ตามความเชื่อและศรัทธาตามหลักของศาสนาอิสลามนั้น วิญญาณของเรามันคือศาสตร์ที่พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้เปิดโอกาสให้เราไปรับรู้ว่ามันเป็นอย่างไร ลักษณะเช่นใด ตายแล้วจะไปอยู่โลกใหม่ โลกใหม่อยู่ที่ไหนไม่มีใครรู้?
แต่ที่แน่ๆคือวิญญาณนั้นไม่มีร่างอีกแล้ว เมื่อไม่มีร่างและวิญญาณจะมาแสดงตัวให้มนุษย์เห็นได้อย่างไร แท้ที่จริงแล้วสิ่งที่เราเห็นนั้นก็คือ "ญิน" นั่นเอง!!!
ศาสตรา สุมาลยศักดิ์/เรื่อง-เรียบเรียง
Halalthailand/เครดิตภาพ
1 บันทึก
2
1
1
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย