รู้จัก “โด ควอน” หนุ่มเกาหลีวัย 31 ปี ผู้โด่งดังสุด ในวงการคริปโทตอนนี้
ข่าวใหญ่วันนี้ ในวงการคริปโท นั่นก็คือ มูลค่าเหรียญของ Terra Blockchain ร่วงลงอย่างรุนแรง
LUNA -50% และ UST -40%
ทุกคนที่อยู่ในวงการคริปโท น่าจะรู้จักเหรียญ LUNA และ UST
โดยเรื่องที่เป็นข่าววันนี้ก็คือ UST ที่เป็นเหรียญ Stablecoin หรือเหรียญที่ตั้งใจให้มีค่าคงที่ตามสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่วันนี้เป็นครั้งที่ 2 ตั้งแต่มีเหรียญนี้ที่ UST กลับมีค่าไม่คงที่ และช่วงหนึ่งกลับมีมูลค่าต่ำกว่าดอลลาร์สหรัฐเกือบครึ่ง..
ที่น่าสนใจก็คือ UST เป็น Stablecoin ที่นิยมใช้มากเป็นอันดับ 3 ของโลก
โดยมีเหรียญที่หมุนเวียนอยู่ในระบบ คิดเป็นมูลค่าราว 1.7 แสนล้านบาท
แล้วใครกันที่เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทแห่งนี้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ผู้ก่อตั้ง Terra นั้น มีชื่อว่า Do Kwon หรือ “โด ควอน”
โดยเขาเป็นชาวเกาหลีใต้ และถือเป็นหนึ่งในอัจฉริยะด้านเทคโนโลยี
ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย ปัจจุบันเขามีอายุเพียงแค่ 31 ปี
สำหรับเส้นทางก่อนที่จะมาเป็น Terra เกิดขึ้นภายหลังจาก โด ควอน จบการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ในปี 2015
เขาได้เข้าไปทำงานเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ให้กับทั้ง Apple และ Microsoft ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ควบคู่ไปกับการทำสตาร์ตอัปของตัวเอง ที่ชื่อว่า Anyfi ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการสื่อสารระหว่างบุคคลแบบไร้ศูนย์กลาง
ในปี 2018 โด ควอน ได้พบกับ ดาเนียล ชิน ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง Ticket Monster แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชื่อดังในประเทศเกาหลีใต้
ทั้งคู่ได้มองเห็นอนาคตของเทคโนโลยีบล็อกเชน และต้องการที่จะสร้างแรงผลักดันให้เทคโนโลยีดังกล่าวเกิดการยอมรับในวงกว้างมากขึ้น
พวกเขาจึงได้ร่วมกันก่อตั้ง “Terraform Labs” ขึ้นมา เพื่อที่จะสร้างเครือข่ายการชำระเงินที่ใครก็สามารถใช้งานได้ และปราศจากการควบคุมจากส่วนกลาง
โดยมีกลไกในการควบคุมเสถียรภาพด้านราคา ด้วยการใช้อัลกอริทึมที่คอยช่วยทำให้มูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลเท่ากับเงินจริงในโลกที่ถูกตรึงเอาไว้
ในปี 2021 บริษัท Terraform Labs ได้รับเงินลงทุน 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากบริษัท Galaxy Digital ของ Michael Novogratz เศรษฐีคริปโทเคอร์เรนซีชาวอเมริกัน และเริ่มเปิดตัวระบบนิเวศของแพลตฟอร์มขึ้นมา
จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่มาถึง เมื่อบริษัทได้มีการเปิดตัว Anchor Protocol ที่ให้ผู้ใช้สามารถฝากหรือถอนเหรียญ UST ซึ่งเป็น Stablecoin หลักของแพลตฟอร์ม ด้วยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูงถึง 20% ทำให้มีผู้สนใจเข้ามาใช้งานเป็นจำนวนมาก
พอมีผู้ใช้งานมากขึ้น ก็ทำให้ โด ควอน สามารถระดมทุนเพิ่มหลังจากนั้นได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
ควบคู่ไปกับการขยายการใช้งานบนโลก DeFi และการใช้งานจริงให้เกิดขึ้นในประเทศต่าง ๆ เช่น ในประเทศเกาหลีใต้และมองโกเลีย
ทำให้การใช้งานและปริมาณเงินที่ไหลเข้ามาในระบบของ Terra Blockchain นั้นก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
ถึงตรงนี้ ทุกอย่างก็ดูเหมือนกำลังเป็นไปได้ด้วยดี..
แต่ในช่วงปลายปีที่แล้ว โด ควอน ก็ได้มีข้อพิพาทกับทาง ก.ล.ต. สหรัฐอเมริกา
เกี่ยวกับ Mirror Protocol ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มบน Terra Blockchain
ที่สามารถนำทรัพย์สินในโลกจริง อย่างหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ประเทศสหรัฐอเมริกา
นำมาอ้างอิงเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าไปเก็งกำไร หรือเข้าไปสร้างผลตอบแทนได้
ซึ่งทาง โด ควอน นั้นมองว่ามันเป็นนวัตกรรมทางการเงินแบบใหม่ แต่ทาง ก.ล.ต. มองว่าสิ่งที่เขาทำมันเข้าข่ายการเป็นหลักทรัพย์ ซึ่งจำเป็นต้องควบคุม เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดและคุ้มครองในฝั่งของนักลงทุน
ถึงตรงนี้ Terraform Labs ได้ทำการฟ้องกลับว่า ก.ล.ต. สหรัฐอเมริกา ทำนอกเหนือเขตอำนาจของตนเอง เนื่องจากบริษัทก็ไม่ได้จดทะเบียนอยู่ในสหรัฐอเมริกาด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ โด ควอน ยังได้มีการจัดตั้ง Luna Foundation Guard หรือ LFG ซึ่งเป็นกองทุนที่จะช่วยดูแลเสถียรภาพของระบบนิเวศของ Terra ขึ้นมา
ด้วยการเข้าไปซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับความนิยมอย่าง บิตคอยน์ เข้ามาเป็นทุนสำรองจำนวนมาก สวนทางกับตลาดที่ถูกเทขายมาตลอดทางในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งก็สามารถเรียกเสียงฮือฮาจากชาวคริปโทได้เป็นจำนวนมาก
แต่ว่าล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ในช่วงที่ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีกำลังมีความผันผวนอย่างหนัก
ราคาของเหรียญ UST ที่ควรจะมีค่าเท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐนั้น
ได้ร่วงหลุดลงมา อยู่ที่ราว 0.980 ดอลลาร์สหรัฐ ภายหลังจากเกิดการเทขายเหรียญ UST เป็นจำนวนมาก
แม้กองทุน LFG จะพยายามซื้อเหรียญ UST กลับเมื่อราคาลงต่ำกว่า 0.995 ดอลลาร์สหรัฐแล้ว แต่ก็ทำได้แค่ตรึงให้ราคากลับมาค้างอยู่แถว 0.990 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งไม่สามารถกลับไปที่ราคา 1 ดอลลาร์สหรัฐได้
และเมื่อแรงซื้อหมด ซึ่งคาดว่าเป็นเพราะ โด ควอน หยุดซื้อ ก็ทำให้ราคาของเหรียญ UST ร่วงลง และส่งผลให้ผู้ใช้งานจำนวนมากเกิดความกังวล และเริ่มเทขายเหรียญของตนเองออกมา
จนเกิดเป็นเหตุการณ์ที่ราคาของเหรียญ UST ลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 0.6 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
โดยล่าสุดมีข่าวว่าทางบริษัทเตรียมจะใช้ทุนสำรองเพิ่มเติม เพื่อนำมาพยุงราคาของเหรียญ UST ให้กลับมาที่มูลค่า 1 ดอลลาร์สหรัฐอีกครั้ง
ซึ่งเรื่องนี้ไม่ต่างอะไรจากการที่ FED หรือธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาเข้ามาแทรกแซงตลาดการเงิน
เราก็คงต้องตามดูกันว่า การกระทำที่เรียกกันเล่น ๆ ว่า “KE” หรือ Kwontitative Easing
หรือการอัดฉีดเงินเข้าระบบของ โด ควอน รอบนี้ จะเป็นอย่างไรต่อไป
และเหตุการณ์ในช่วงนี้ น่าจะเป็นตัวตัดสินอนาคต ของหนุ่มเกาหลีใต้ วัย 31 ปี ที่ชื่อ โด ควอน เลยทีเดียว ว่าจะมีฉากจบเป็นอย่างไร..
References
- 120
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
