เปิดใจกับคุณพ่อชาวญี่ปุ่น
ทำยังไงในวันที่รู้ว่าลูกสาวเป็นนักแสดงหนังผู้ใหญ่ .. .
ถึงแม้ว่าอุตสาหกรรมหนังผู้ใหญ่ในญี่ปุ่นจะเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายแต่ก็เห็นได้ชัดว่ายังมีชาวญี่ปุ่นอีกมากที่ต่อต้านอุตสาหกรรมนี้โดยเฉพาะหากพวกเขาอยู่ในสถานะพ่อ-แม่
ทำให้นึกถึงคำกล่าวที่ว่า
"เรามักยินดีกับเส้นทางเดินของลูกคนอื่น
แต่หากเป็นลูกเราเราจะเข้มงวดและตั้งเงื่อนไขมากมายทันที"
และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาช่อง ยูทูปของญี่ปุ่นอย่าง Nobita from Japan ได้ทำคอนเทนต์โดยการไปสัมภาษณ์ชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ยูทูปเบอร์ท่านนี้บอกว่าเขาเป็น คุณพ่อที่มารู้ทีหลังว่าลูกสาวของเขาเป็นนางเอกหนังผู้ใหญ่
คุณพ่อท่านนี้จะคิดเห็นยังไงไปอ่านใจความสำคัญกันครับ
: คุณพ่อชาวญี่ปุ่นท่านนี้บอกว่าเมื่อสามปีก่อนเขาได้รับข้อความจากน้องชายตัวเองว่า"ไปเจอดาราหนังผู้ใหญ่คนหนึ่งมาหน้าเหมือนลูกสาวแกเลย" หลังจากที่คุณพ่อได้ยินแบบนั้นเขาก็รีบนำชื่อที่น้องชายบอกว่าไปค้นหาใน google
: ปรากฏว่าหน้าดาราคนนั้นเหมือนลูกสาวเขามาก คุณพ่อเล่าต่อว่าจากนั้นเขาก็ไปถามลูกสาวของเขาตรงๆ จนลูกสาวยอมรับว่านางเอกคนนั้นคือลูกสาวของเขาจริงๆและยังได้รู้อีกว่านอกจากแสดงหนังแล้วเธอยังขายบริการอีกด้วย
//ลูกสาวอายุ 21 ปี
เหตุผลของลูกสาว
: ลูกสาวได้ให้เหตุผลกับคุณพ่อว่าที่เลือกทางเดินนี้เพราะต้องการหาเงินในการจ่ายค่าเล่าเรียนในมหาวิทยาลัย ค่าใช้จ่ายในการเรียนมหาวิทยาลัยนั้นสูงมากและเธอไม่อยากให้เป็นภาระของพ่อ
: เธอจึงโกหกพ่อว่าได้ทุนจากมหาวิทยาลัย แต่จริงๆแล้วเธอได้หาเงินจากงานแสดงและขายบริการ และความฝันในอนาคตของเธอคือการไปเรียนต่อที่อเมริกาดังนั้นจึงขอทำงานแบบนี้เพื่อเก็บเงินส่งเสียตัวเอง
ด้านความรู้สึก
: คุณพ่อบอกว่าแน่นอนว่าต้องช็อกมากๆอยู่แล้ว ในความเป็นจริงคือคุณพ่อก็ไม่ได้มีอคติหรือต่อต้านวงการนี้ แต่พอมาเป็นลูกของตัวเองก็รู้สึกไปไม่เป็นและถ้าให้พูดตรงๆคือ ถ้าเป็นคนแปลกหน้าเขาก็คงไม่ได้สนใจอะไรแต่พอมาเป็นลูกสาวเลยจุกอยู่หน่อยๆ
: นอกจากความรู้สึกช็อกแล้วก็ยังมีความรู้สึกผิดในใจ คุณพ่อบอกว่า เขาไม่โทษลูกสาวเลย เพราะเขาได้หย่ากับภรรยาเมื่อ 10 ปีก่อนและมาเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวเขาเคยคิดว่าทำหน้าที่ในฐานะพ่อดูแลเธอมาได้ดีแล้ว แต่ก็มาคิดได้ว่าเธอคงอึดอัดกับอะไรหลายอย่าง เพราะต้องกังวลถึงเรื่องสถานะการเงินอยู่ตลอดเวลา
: ที่ลูกสาวโกหกเรื่องนี้ก็คงเป็นเพราะไม่อยากทำตัวเป็นภาระให้เขาและพอได้รู้แบบนั้นเขาก็รู้สึกละอายใจและผิดหวังในตัวเองมากในฐานะคนเป็นพ่อ ที่ทำให้ลูกต้องเป็นห่วงแบบนี้
คุณพ่อทิ้งท้ายว่า
: แน่นอน ผมรู้ว่าการทำงานในวงการนี้ไม่ได้ผิดกฎหมายของญี่ปุ่น และผมก็ไม่ได้บอกว่าเราควรกวาดล้างธุรกิจด้านนี้ออกไปให้หมด แต่หัวอกคนเป็นพ่อ ผมไม่เคยคิดเลยว่ามันเจ็บปวดและเศร้าขนาดนี้กับการได้เห็นลูกสาวไปเล่นหนังผู้ใหญ่มันเหมือนหัวใจผมถูกแทงด้วยมีดเลย
: และฝากไปยังเด็กสาวทั้งหลายว่าก่อนจะทำอะไรอยากให้คิดให้ดีก่อนเพราะหลังจากที่หนังถูกปล่อยออกไปแล้วมันจะกลายเป็น Digital Footprint ที่ติดตัวคุณไปอย่างถาวร
ส่วนใครคิดเห็นยังไงมาแชร์กันในคอมเมนท์นะครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก
- 10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
