Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
บ้านเขาเมืองเรา
•
ติดตาม
12 พ.ค. 2022 เวลา 00:46 • ความคิดเห็น
เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม.... เห็นเงาสายสื่อสารรึป่าว
ภาพนี้ทำให้เราเห็นความแตกต่างระหว่างสายไฟฟ้าแรงสูงที่อยู่ถนนฝั่งนู้น ซึ่งมีเพียง 3 เส้น ดูไม่รกรุงรัง ในขณะที่สายที่กระจายเป็นแพ บดบังท้องฟ้าในฝั่งนี้คือสายสื่อสาร จากหลาย Operator หรือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือให้เช่าไฟเบอร์ออฟติก!
หลายท่านในที่นี้อาจจะเข้าใจผิด ว่าสายที่รกรุงรังไปทั่วกรุงเทพฯนั้น เป็นสายไฟฟ้า หรือบางทีก็พูดรวมๆว่า สายที่เห็นเป็นสายไฟฟ้าไปทั้งหมด แต่ในความเป็นจริงแล้ว ระบบสายไฟฟ้าแรงสูง ที่เดินอยู่ทั่วกรุงเทพฯนั้น มีสายหลักๆอยู่เพียง 3 เส้น ส่วนสายจำนวนมากมายที่เกาะอยู่กับเสาไฟฟ้า ซึ่งเป็นตัวสร้างความรกรุงรังนั้นเป็นสายสื่อสาร
ในอดีต สายสื่อสารที่อยู่บนเสาไฟฟ้า ก็ประกอบไปด้วยสายโทรศัพท์ และสายสื่อสารระหว่างจุด แบบเก่า ที่ต้องลากผ่านเสาไฟฟ้าเข้าไปยังบ้านประชาชน หรือห้างร้านต่างๆ ซึ่งผู้ประกอบการในตอนนั้น มีหลักๆแค่เพียง 2 ราย คือ องค์การโทรศัพท์ แห่งประเทศไทย และการสื่อสารแห่งประเทศไทย
(ต่อมา หน่วยงานทั้งสองนี้ ถูกแปรรูป และ เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัททีโอทีจำกัด(มหาชน) หรือ TOT และ กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) หรือ CAT ก่อนที่ในปัจจุบันไม่นานมานี้จะถูกรวมกัน แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) อีกครั้งหนึ่ง)
ในช่วงที่มีผู้ประกอบการน้อยรายสายสื่อสารที่อยู่บนเสาไฟฟ้านะ ก็ถูกผูกขาดโดยองค์กรของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ แต่เมื่อมี กฎหมาย การเปิดเสรีทางโทรคมนาคม และมีการก่อตั้ง กสทช. เพื่อมากำกับดูแล โดยเปิดให้เอกชนสามารถให้บริการในกิจการโทรคมนาคมต่างๆได้ จึงทำให้มีผู้ลงทุน เพื่อให้บริการในกิจการโทรคมนาคม เพิ่มขึ้นหลายราย
ไม่เพียงโทรศัพท์มือถือเท่านั้น แต่มีบริษัทที่ให้บริการด้านการสื่อสารโทรคมนาคม ผ่านโครงข่าย ใยแก้วนำแสงหรือไฟเบอร์ออปติก เป็นจำนวนมาก นับ 10 บริษัท
ซึ่งตามกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับการโทรคมนาคม กำหนดให้ผู้ที่มีใบอนุญาตสามารถขอพาดสาย บนเสาไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ เช่นเดียวกับที่ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานภาครัฐเคยทำได้ ทำให้ผู้บริการโทรคมนาคมภาคเอกชนทุกราย จึงใช้เสาไฟฟ้า เป็นที่พาดสายสื่อสาร เพื่อให้บริการไปยังบ้านเรือนของประชาชน แล้วสถานประกอบการทั่วประเทศ
ตรงนี้เองคือจุดเริ่มต้นของมหากาพย์สายสื่อสาร ที่รกรุงรังอยู่ในบ้านเมืองเรามาจนปัจจุบันนี้
ปัญหาของสายสื่อสาร ที่รกรุงรัง มีหลักๆ หลาย ปัจจัยคือ
1.ไม่มีโครงสร้างพื้นฐานท่อร้อยสายใต้ดิน ที่สามารถใช้บริการได้ อย่างทั่วถึงในพื้นที่เมือง
2. ผู้ให้บริการเช่าท่อร้อยสายในอดีต (TOT, CAT) คิดค่าบริการแพงมาก จน ผู้ให้บริการโทรคมนาคมไม่ต้องการ เสียค่าเช่า และไม่มีกฎหมายหรือระเบียบรองรับให้ต้องลงใต้ดิน
3. การเดินสาย บนเสาไฟฟ้าทำได้ง่าย รวดเร็ว และถูก โดยเจ้าของเสาก็คือการไฟฟ้า ทั้งสองการไฟฟ้า ไม่สามารถตรวจสอบได้ทัน รวมถึงไม่มีกฎหมายที่ควบคุม และมีบทลงโทษ อย่างชัดเจน ทำให้ในอดีต มีผู้ให้บริการโทรคมนาคม ลักลอบพาดสาย และไม่มีการจ่ายค่าบริการใดๆให้กับการไฟฟ้า หรือพูดง่ายๆคือใช้เสาฟรีเป็นจำนวนมาก
4. ผู้ให้บริการโทรคมนาคม มักจะใช้วิธีการเดินสายใหม่ ทุกครั้งที่มีปัญหา ของการให้บริการ มากกว่าการหาจุดบกพร่องแล้วซ่อมแซม โดยสายเก่าที่ใช้งานไม่ได้ จะถูกทิ้งไว้บนเสาไฟฟ้า แล้วไม่ได้ถูกเอาออก ทำให้ปริมาณสายสื่อสาร ที่ไม่ได้ถูกใช้งาน เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน
สำหรับมาตรการแก้ไขในปัจจุบันที่ทำกันอยู่เพื่อแก้ปัญหา สายสื่อสารรกรุงรัง คือ
1. พยายามจัดระเบียบสาย เอาสายที่ไม่ได้ใช้งานออก และมัดรวมสาย จำกัดปริมาณสาย แบบที่เราเห็นแล้วในหลายถนน
2. นำสายสื่อสาร ลงใต้ดิน ในเส้นทางที่มีท่อร้อยสายสื่อสารซึ่งใช้งานได้จริง (หลายเส้นทางมีท่อ แต่เก่าแก่ เสียหาย จนใช้งานไม่ได้ หรือโครงข่ายไม่ตอบโจทย์โครงข่ายในปัจจุบัน)
ส่วนสิ่งที่ภาครัฐ และเอกชน ควรทำ เพิ่มเติมตอนนี้ก็คือ
3. สร้างโครงข่ายท่อร้อยสายสื่อสารใต้ดินใหม่ เชื่อมต่อกับท่อเก่าที่ใช้งานได้ เพื่อรองรับการขยายตัว ของระบบสื่อสาร ความเร็วสูงในอนาคต แล้วเพื่อรองรับ Smart City แล้วกำหนดให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคม ต้องนำสายสื่อสารลงใต้ดินในทุกเส้นทางที่มีท่อร้อยสายสื่อสารให้บริการแล้ว
4. ภาครัฐอุดหนุนงบประมาณ ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ที่จำเป็น สำหรับโครงข่ายท่อร้อยสายสื่อสารใต้ดิน และกำหนดค่าเช่าให้มีราคาถูกลงกว่าในอดีต
หรือหากไม่มีงบประมาณ ก็ควรเปิด ให้เอกชนร่วมลงทุน สร้างโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว โดยต้องกำหนดว่าเอกชนที่เป็นผู้ลงทุนนั้น ต้องไม่ใช่ผู้ประกอบการโทรคมนาคม ที่ให้บริการปลายทาง มิฉะนั้นแล้วอาจเกิดปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน ระหว่างผู้ประกอบการกันเอง เหมือนที่เคยผ่านมาในอดีต
สายที่เห็นบนเสาไฟฟ้าฝั่งตรงข้ามของถนน คือสายไฟฟ้า มีเพียง 3 เส้น ส่วนที่เราเห็นเป็นแพอยู่บนท้องฟ้า ของถนนฝั่งนี้คือสายสื่อสาร
ก็ต้องฝากไว้ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในอนาคต ได้ลองคิดและลองทำกันดู เพื่อบ้านเมืองที่สวยงามของเรา จริงๆมีอีกหลายประเด็นที่อยากจะให้ทำ แล้วว่างๆจะเขียนให้อ่านใหม่นะครับ
ดร.เอกรินทร์ วาสนาส่ง
12 พ.ค. 2565
1 บันทึก
1
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย