12 พ.ค. 2022 เวลา 06:18 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Rising Shoalin: The Protector แก็งค์ม่วนป่วนเสี้ยวเล่งยี้
หวังเป่าเฉียงขอคารวะหลีเหลียนเจี๋ยและเสี้ยวลิ้มยี่
ในวัยเพียง 8 ขวบหวังเป่าเฉียงได้ดูเสี้ยวลิ้มยี่ที่แสดงนำโดยหลี่เหลียนเจี๋ยเป็นครั้งแรก และสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กชายอยากฝึกมวยจากวัดเส้าหลิน และเป็นดารานักบู๊แนวกังฟูให้ได้ เขารบเร้าพ่อแม่ให้พาไปฝากตัวเป็นศิษย์เส้าหลิน
ก่อนเข้าสู่วงการหนังหวังเป่าเฉียงก็เคยเป็นกรรมกรไร้ฝีมือได้รับค่าจ้างต่ำ ชีวิตลำบากลำบน นานหลายปีที่ไม่ได้กลับบ้านที่เหอเป่ยเพราะไม่มีเงินซื้อตั๋วรถไฟ จากการฝึกมวยตั้งแต่เด็กทำให้หวังเป่าเฉียงมีทักษะในการออกกังฟูที่สวยงาม หากแต่ว่าด้วยรูปร่างที่เตี้ยต่ำเกินไปเป็นอุปสรรคสำคัญในการขึ้นมาเป็นพระเอกกังฟู เขาใช้เวลาไต่เต้านานกว่าจะประสบความสำเร็จในหนังตลก
บางครั้งเขาก็แสดงลีลาลวดลายกังฟูในหนังหลายๆ เรื่องจนผู้ชมติดใจ ในหนัง Kung Fu Jungle แสดงให้เห็นว่าเขาสวยงามแข็งแกร่งไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าดอนนี เยนแต่อย่างใดหรืออย่างหนัง Monk  Comes Down the Mountain ก็แสดงให้เห็นว่าทักษะกังฟูของเขาก็สามารถกลบปมด้อยในเรื่องความสูงไปได้
ในหนัง Rising Shoalin: The Protector หรือในชื่อไทยแก็งค์ม่วนป่วนเสี้ยวเล่งยี้หนังในปี 2021 เรื่องนี้ ได้สร้างความประหลาดใจอย่างมากเมื่อดูจากดาราและทีมงานสร้าง โดยเฉพาะผู้กำกับสแตนลีย์ ตงซึ่งถือว่าเป็นผู้กำกับเกรดเอของหนังฮ่องกงและหวังเป่าเฉียงซึ่งอยู่ในช่วงวัยที่กำลังดังสุดๆ
แต่หนังกลับกลายเป็นการถอดออกจากโปรแกรมการฉายในโรงภาพยนตร์ช่วงก่อนตรุษจีนเมื่อปี 2021 และปล่อยสู่ตลาด video on demand หรือ VOD อย่างชวนงุนงง ทั้งที่ดูจากชื่อชั้นแล้วมีจุดขายเต็มไปหมด
นี่คือหนังที่หวังเป่าเฉียงตั้งใจมากๆ มันคือการแสดงความคารวะโดยตรงต่อหนังเสี้ยวลิ้มยี่และหลี่เหลียนเจี๋ยอย่างตรงไปตรงมา ตัวหนังมีรูปลักษณ์ทั้งเนื้อเรื่องและการนำเสนอแบบหนังโอลสคูลกังฟูสไตล์เสี้ยวลิ้มยี่  ตัวเรื่องไม่ยากต่อการคาดเดา หวังเป่าเฉียงเล่นเป็นหัวหน้าแก๊งต้มตุ๋นที่รวมสมัครพรรคพวกเปิดโรงแรมหรือโรงเตี๊ยมเถื่อน
ในขณะเดียวกันตามท้องเรื่องวัดเส้าหลินถูกราชสำนักเผาแหลกราญ ศิษย์วัดเส้าหลินกระจัดกระจายไปทั่ว  ในพื้นที่ที่แก๊งของหวังเป่าเฉียงหากินอยู่นั้นก็มีหลวงจีนชรามาปลูกสร้างอารามหรือจะเรียกง่ายๆว่ากระต๊อบแล้วปักป้ายว่าเป็นวัดเส้าหลิน
ทำให้ก๊วนแก๊งตุ๋นไม่พอใจหาเรื่องทำลายวัด ส่วนเนื้อเรื่องที่ซ้อนไปอีกชั้นหนึ่งก็คือเรื่องของราชสำนักและขุนนางที่เป็นเจ้าเมืองกดขี่ข่มเหงประชาชน
หนังประเภทนี้เนื้อเรื่องเป็นรอง ยิ่งเป็นหนังกังฟูสไตล์โอสคูลมันแสดงให้เห็นถึงการคารวะหนังรุ่นเก่าในสไตล์ยุค 80 ชัดเจน โดยมีหนังเสี้ยวลิ้มยี่เป็นต้นแบบทำให้เราคิดไปถึงหนังเสี้ยวลิ้มยี่โดยเฉพาะฉากการฝึกฝีมือที่มุมกล้องและลีลาการออกอาวุธการฝึกร่างกายฝึกมวยต่างๆของหวังเป่าเฉียงล้วนคล้ายคลึงกับหลีเหลียนเจี๋ยราวกับแกะถอดกันมา ฉากฝึกฝีมือของหวังเป่าเฉียงทำให้ผมย้อนกลับมาดู 2-3 รอบเฉพาะฉากนี้ชอบจริงๆ
ถ้าเทียบตามมาตรฐานหนังยุคปัจจุบันต้องถือว่าหนังเรื่องนี้ดูเชยหรืออาจจะตกยุคสมัย แต่มันคืองานคารวะหนังกังฟูรุ่นก่อน ไม่ใช่งานที่ทำเพื่อคนดูทั่วไป
ตัวหนังไม่ถึงกับดีเลิศหรือยอดเยี่ยมมีข้อบกพร่องมากมาย แต่การออกอาวุธออกหมัดออกกังฟูในหนังที่ถึงแม้จะมีสลิงและCG เข้ามาช่วยแต่มันก็ทำให้เห็นว่าตัวหนังพึ่งพาความสามารถจริงๆ ของนักแสดงเป็นหลัก แล้วมันก็อาจจะทำให้เรารู้สึกได้ว่าหวังเป่าเฉียงเป็นนักสู้กังฟูคนสุดท้ายบนจอเงินที่ร่ำเรียนฝีมือวิชาต่อสู้กังฟูประเภทรู้จริงเป็นจริงใช้ได้จริงคนสุดท้ายก็ได้
หนังไม่ได้ดีมากครับแต่คนที่โตมากับหนังฮ่องกงชอว์บราเดอร์ส หนังกังฟูในยุค 80 อยากเห็นความสามารถของนักแสดงจริงๆมากกว่าเทคนิคหลอกตาของหนังก็น่าจะพอใจหนังเรื่องนี้ได้ในระดับหนึ่ง
ถ้าเทียบกับหนังปัจจุบันแล้วควรจะได้ซัก 5.5 เต็ม 10
แต่ส่วนตัวที่โตมากับหนังซึ่งอาศัยความสามารถจริงๆของนักแสดง ที่สนุกที่สุดคือช่วงเครดิตท้ายเรื่องที่เอาเบื้องหลังการถ่ายทำมานำเสนอเหมือนสแตนลีย์ ตงจะติดมาจากเฉินหลง แต่มันก็เป็นส่วนที่ทำให้ดูหนังสนุกไปยิ่งขึ้น ให้คะแนนชอบส่วนตัว 7 เต็ม 10 ครับ
โฆษณา