12 พ.ค. 2022 เวลา 07:15 • ประวัติศาสตร์
ห้าสิ่งประดิษฐ์และวัตถุปริศนา ที่หาคำอธิบายไม่ได้ว่าตกลงแล้ว มันเกิดขึ้นมาโดยฝีมือของใครกันแน่?
1. รูปปั้นหินแกะสลักในป่าลึกกัวเตมาลา
ย้อนกลับไปในช่วงทศวรรษที่ 1950 กลุ่มนักโบราณคดีได้ถ่ายภาพรูปปั้นหินทรายขนาดยักษ์ ณ ใจกลางป่าลึกของประเทศกัวเตมาลา โดยนักโบราณคดีระบุว่า รูปปั้นหินดังกล่าวน่าจะมีความสูงราว 9 เมตร และมีอายุย้อนกลับไปได้ราว 3,500 – 5,000 ปีก่อนคริสตกาล
และด้วยลักษณะใบหน้าของรูปปั้นหินดังกล่าว ก็มีความแตกต่างจากรูปปั้นแกะสลักของชนพื้นเมืองเมโสอเมริกัน (Mesoamerican) หรือยุคก่อนที่โคลัมบัสจะค้นพบทวีปอเมริกาเสียอีก และเมื่อนำรูปปั้นหินแกะสลักดังกล่าวไปเทียบกับรูปปั้นหินแกะสลักของชาว Olmec ก็จะพบถึงความแตกต่างอย่าชัดเจน และไม่น่าจะมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันแต่อย่างใด
รูปปั้นหินแกะสลักของชาวโอลเมค
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้มีทฤษฎีที่เชื่อว่า รูปปั้นดังกล่าวอาจเกี่ยวข้องกับมนุษย์ต่าวดาวในยุคโบราณ หรืออาจจะเป็นหลักฐานว่าครั้งหนึ่ง เคยมีเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างดาวอาศัยอยู่บนโลก
อย่างไรก็ตาม รูปถ่ายดังกล่าวถูกเผยแพร่ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1980 และมีรายงานจากคนในท้องถิ่นว่ารูปปั้นใบหน้าลึกลับใจกลางป่าลึกในกัวเตมาลานั้นได้รับความเสียหายไปแล้ว
2. ยานสำรวจของมนุษย์ต่างดาวบนดวงจันทร์
ในปี ค.ศ.2012 พอล เดวีส์ นัดดาราศาสตร์ฟิสิกส์จาก Arizona State University ได้ตีพิมพ์บทความที่สนับสนุนการค้นหามนุษย์ต่างดาวบนดวงจันทร์ และได้นำมาสู่การถกเถียงถึงความเป็นไปได้ที่จะมีรูปแบบของสิ่งมีชีวิตที่ชาญฉลาดบนดาวเคราะห์ที่ไหนสักแห่งในอวกาศ
โดย พอล เดวีส์ ได้เรียกร้องให้มีการนำภาพจากยานสำรวจดวงจันทร์ 'Lunar Reconnaissance Orbiter' ของ NASA เพื่อนำมาค้นหาสัญญาณการมาเยือนของมนุษย์ต่างดาว โดยสรุปประเด็นสำคัญในการค้นหาสี่ประการคือ 1.ข้อความ 2.เครื่องมือ 3.ชิ้นส่วนขยะ และ 4.ความเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ในภูมิทัศน์ของดวงจันทร์
พอล เดวีส์ กล่าวว่า ภารกิจการลงจอดของยานสำรวจ Apollo ได้ทิ้งร่องรอยบนดวงจันทร์อย่างชัดเจน และเขาเชื่อว่าการการลงจอดของจานบินหรือยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว ก็น่าจะต้องทิ้งร่องรอยเอาไว้บนดวงจันทร์บ้างเหมือนกัน
ในบรรดาการค้นพบวัตถุปริศนาบนดวงจันทร์ มีการค้นพบที่น่าสนใจจากยาน Luna-13 ของสหภาพโซเวียต ที่ถูกส่งขึ้นไปสำรวจดวงจันทร์เมื่อปี ค.ศ.1966 โดยเป็นภาพที่แสดงถึงความผิดปกติของอะไรบางอย่างบนพื้นผิวดวงจันทร์ ที่มีลักษณะคล้ายสิ่งปลูกสร้างอะไรบางอย่าง หรือบางทีอาจจะเป็นยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาวก็เป็นได้
3. ชิ้นส่วนฟันเฟื่องบนยานอวกาศมนุษย์ต่างดาว
ย้อนกลับไปในปี ค.ศ.2013 ชาวเมืองวลาดิวอสตอค ในประเทศรัสเซีย ได้ค้นพบกับวัตถุโลหะปริศนาภายในถ่านหิน โดยเจ้าวัตถุดังกล่าวมีขนาด 7 เซนติเมตร และมีรูปร่างแปลกตาเหมือนฟันเฟืองสมัยใหม่ที่เป็นส่วนประกอบของเครื่องจักร
ภายหลังชายดังกล่าวได้มอบวัตถุปริศนาให้นักวิทยาศาสตร์ได้ตรวจสอบ และพบว่าเจ้าวัตถุชิ้นนี้อาจมีอายุถึง 300 ล้านปี และมีส่วนประกอบโดยอะลูมิเนียม 98 เปอร์เซ็นต์ และ แมกนีเซียม 2 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากส่วนประกอบของอะลูมิเนียมที่เข้มข้นสูงขนาดนั้น เจ้าวัตถุชิ้นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติอย่างแน่นอน
จนนำมาสู่คำถามที่ว่า ถ้าหากมันไม่ได้เกิดขึ้นจากธรรมชาติ แล้วใครเป็นคนสร้างมัน จนนำมาสู่ทฤษฎีที่เชื่อว่า เจ้าวัตถุโลหะลึกลับชิ้นนี้อาจถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์ต่างดาว และมันอาจเป็นชิ้นส่วนของยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาวที่เคยตกลงมาบนโลก
4. ซากฟอสสซิลโปลอนนารุวา
ย้อนกลับไปในปี ค.ศ.2012 ได้มีอุกกาบาตจากห้วงอวกาศที่ตกลงมาสู่พื้นผิวโลกเป็นดวงไฟสีเขียวในเมืองโปลอนนารุวา ในประเทศศรีลังกา และภายหลังได้ถูกค้นพบโดย จันทรา วิกรมาสิงห์ นักวิทยาศาสตร์ชาวศรีลังกา
โดยคุณจันทรา วิกรมาสิงห์ ได้นำชิ้นส่วนของอุกกาบาตไปทดสอบด้วยการใช้รังสีเอ็กซ์เพื่อทดสอบความแตกต่างของไอโซโทป (Isotope) และทำให้เขาได้ค้นพบว่ามีร่องรอยของสิ่งมีชีวิตบนชิ้นส่วนอุกกาบาตดังกล่าว
ภาพการทดสอบของคุณจันทรา วิกรมาสิงห์ ได้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Cosmology ที่แสดงถึงซากฟอสซิลแพลงตอนพืชด้วยกล้องจุลทรรศน์
ถ้าหากเป็นความจริง การค้นพบของคุณจันทรา วิกรมาสิงห์ อาจสนับสนุนทฤษฎีของแพนสเปอร์เมีย (Theory of panspermia) ที่อธิบายว่าสิ่งมีชีวิตในจักรวาลแพร่กระจายเผ่าพันธุ์ผ่านดาวเคราะห์น้อยและอุกกาบาต แต่ทฤษฎีดังกล่าวยังถูกหลายคนปฏิเสธ
แต่ถึงกระนั้น คุณจันทรา วิกรมาสิงห์ แสดงความมั่นใจว่า โรคโปลิโอ และโรควัวบ้า มีต้นกำเนิดมาจากนอกอวกาศ
5. ยานอวกาศของชาวอินคา
ได้มีการค้นพบกับเครื่องประดับที่มีลักษณะเหมือนเครื่องบินไอพ่นสมัยใหม่ในแถบชายฝั่งทะเลในทวีปอเมริกากลาง และมันถูกจัดเก็บไว้ในพิพิธภัณธ์ Museo del Oro ในเมืองโบโกตา ประเทศโคลอมเบีย
เจ้าวัตถุที่มีลักษณะคล้ายเครื่องบินไอพ่นนี้ ถูกสร้างโดยทองคำและมีอายุมากกว่า 2,500 ปี และถูกสร้างโดยชาวอินคา บางคนเชื่อว่ามันอาจเป็นเครื่องประดับที่ถูกสร้างเป็นรูปสัตว์จำพวกนก แต่สิ่งที่น่าสงสัยก็คือ มันมีชิ้นส่วนที่เหมือนปีก หางเสือ เหมือนเครื่องบินไอพ่นในยุคปัจจุบัน
จนทำให้หลายคนเชื่อว่า มันอาจเป็นแบบจำลองยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาวในยุคโบราณ ที่ถูกสร้างขึ้นโดยชาวอินคา และมันอาจเป็นหลักฐานสำคัญที่ว่าครั้งหนึ่งมนุษย์ต่างดาวเคยมาเยือนโลก
ในปี ค.ศ.1994 ได้มีวิศวกรชาวเยอรมันได้ทดลองสร้างเครื่องบินที่จำลองเลียนแบบเครื่องบินทองคำของชาวอินคา และมันก็สามารถใช้บินได้จริงอีกด้วย
ข้อมูลจาก :
โฆษณา