13 พ.ค. 2022 เวลา 03:10 • ครอบครัว & เด็ก
ตามที่มีกฎหมายบังคับให้เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี จะต้องนั่งคาร์ซีต วันนี้ 12A STORY จะมานำเสนอเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับคาร์ซีทให้ฟังกัน
① คาร์ซีท (Car Seat) ตามภาษากฎหมายคือ “ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก” หรือ “ที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย” นั้นหมายความว่าคาร์ซีทคือ อุปกรณ์เพื่อเพิ่มความปลอดภัยสำหรับเด็กในขณะเดินทาง โดยคาร์ซีทจะช่วยป้องกันคอของเด็กเล็กและยึดเด็กไว้ไม่ให้กระเด็นออกจากนอกรถไป
② องค์การอนามัยโลกหรือ WHO บอกว่าการใช้คาร์ซีทจะลดอัตราการตายของเด็กจากอุบัติเหตุได้ถึง 70% ในขณะที่จากการศึกษาในสหรัฐอเมริกาพบว่าเด็กที่นั่งเบาะหลัง มีโอกาสเสียชีวิตจากอุบัติเหตุมากขึ้น 13% หากไม่ใช่คาร์ซีท
③ ตามกฎหมายที่เพิ่งประกาศนั้น กฎหมายจะมีผลใช้บังคับเร็วที่สุด นับตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2565 หรือช้าสุดวันที่ 5 ธันวาคม 2565
④ กฎหมายที่ประกาศในปัจจุบันยังไม่ระบุชัดเจนว่า จะใช้กับรถประเภทใดบ้าง นอกจากรถส่วนตัว เช่น รถแท็กซี่ รถโรงเรียน รถประจำทาง เป็นต้น โดยการประกาศดังกล่าว กรมขนส่งทางบกจะประกาศต่อไป
⑤ เมื่อกฎหมายใช้บังคับแล้ว หากพบว่ามีการฝ่าฝืนจะถูกปรับในอัตรา 2,000 บาท
⑥ กฎหมายเขียนว่าเด็ก 1 คนต้องมีคาร์ซีท 1 อัน ดังนั้นถ้ามีลูกสามคนและมีอายุไม่ถึง 6 ปี ทั้งหมด นั้นหมายความว่าจะมีต้องมีคาร์ซีทในรถ 3 อัน
⑦ ปัญหาที่คนจำนวนมากบ่นคือ รัฐบังคับให้ต้องมีคาร์ซีทแต่กลับเก็บภาษีนำเข้าคาร์ซีทในอัตราที่สูง คือ 20% อย่างไรก็ดีหากเป็นคาร์ซีทที่ผลิตในประเทศ ก็จะไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าในส่วนนี้
⑧ กฎหมายที่บังคับให้ต้องใช้คาร์ซีทมีมากมายในหลายประเทศและมีรายละเอียดที่แตกต่างกันไป โดยอังกฤษ โปรตุเกส และเยอรมนีกำหนดให้ใช้คาร์ซีทถึงอายุ 12 ปี ในขณะที่ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ กำหนดไปถึงว่าคาร์ซีทหันไปทางใดใช้ได้กับเด็กอายุเท่าใด
มาเลเซียและโปรตุเกสกำหนดว่าไม่บังคับใช้คาร์ซีทกับรถแท็กซี่ ซึ่งตรงข้ามกับเยอรมนี หรือรัฐแคลิฟอเนียร์ของสหรัฐอเมริกาที่บังคับใช้กับแท็กซี่ด้วย ในแง่ของค่าปรับนั้น สเปนคิดค่าปรับครั้งละ 10,000 บาทหากมีการฝ่าฝืน
⑨ คาร์ซีทที่ไม่ได้คุณภาพยิ่งสร้างความเสี่ยงต่อเด็กมากขึ้น ในสหรัฐอเมริการ คาร์ซีท มีวันหมดอายุด้วย ในอังกฤษแนะนำให้ใช้คาร์ซีทที่เป็น model ที่มีการพัฒนาขึ้นใหม่มากกว่าการ model เก่า
①⓪ วิธีการเลือกซื้อคาร์ซีท ที่สำคัญอย่างหนึ่งคือการพิจารณาว่าคาร์ซีทนั้นผ่านมาตรฐานสากลหรือไม่ โดยมาตรฐานที่แนะนำคือ มาตรฐานของสหประชาชาติ หรือ United Nation Standard Regulation 44.04 หรือ R129 หรือถ้าผ่านมาตรฐานของยุโรป จะมี ตัว E บนฉลาก
①① ก่อนเลือกซื้อคาร์ซีทนั้น ควรลองนำคาร์ซีทมาวางในรถดูว่าเหมาะสมหรือไม่ หรือพิจารณาว่ารถของเราเหมาะกับคาร์ซีทนั้นหรือไม่ และที่สำคัญคาร์ซีทมีหลายแบบแต่ละแบบมีความเหมาะสมกับแต่ละวัยที่ต่างกัน
①② การศึกษาการติดตั้งและใช้คาร์ซีทอย่างละเอียด เนื่องจากมักมีการติดตั้งและใช้อย่างผิดวิธี ทำให้การใช้คาร์ซีทนั้นไม่สามารถช่วยป้องกันอันตรายได้ เช่น การติดตั้งคาร์ซีทเบาะหน้าบนรถที่มี airbag หากเกิดอุบัติเหตุเด็กอาจได้รับอาจเจ็บจาก airbag ที่กระแทกคาร์ซีท
①②Ⓐ จากการศึกษาในต่างประเทศตำแหน่งที่นั่งที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเด็กคือ เบาะกลางด้านหลัง
โฆษณา