13 พ.ค. 2022 เวลา 17:00 • ธุรกิจ
Beepi สตาร์ทอัพจากซิลิคอนวัลเลย์
ใช้เงินนักลงทุนไม่คิด จุดจบก็ต้องเจ๊ง
.
อีกหนึ่ง startup ที่ประสบความสำเร็จ
ในการระดมทุนจากนักลงทุน แต่ด้วย
เพราะใช้เงินผิดวัตถุประสงค์
จึงทำให้ธุรกิจไปต่อไม่ได้
ขายต่อให้ใครก็ไม่มีคนซื้อ
นั่นคือธุรกิจที่ชื่อว่า Beepi
แล้ว Beepi ทำธุรกิจอะไร
มีที่มายังไงถึงมีจุดจบเป็นแบบนี้
วันนี้ผมจะเล่าให้ฟัง
.
Beepi เป็นสตาร์ทอัพตลาดออนไลน์
แบบ peer-to-peer สำหรับรถยนต์มือสอง
Beepi มีจุดประสงค์เพื่อต้องการทำธุรกรรมให้ง่าย
ปลอดภัย โดยผู้ซื้อและผู้ขายได้ผลประโยชน์สูงสุด
บริษัทจะดูแลตรวจสอบ ขั้นตอนต่างๆ
และการส่งมอบรถให้ลูกค้าด้วยตัวบริษัทเอง
ต่างจาก Vroom ซึ่งเป็นธุรกิจที่คล้ายคลึงกัน
กับ Beepi ที่ใช้เพียงภาพถ่ายทะเบียนรถ
ในการยืนยัน และไม่มีบริการตรวจสอบสภาพรถ
ขณะที่ Beepi ส่งผู้ตรวจสอบไปตรวจรถก่อน
ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งด้านบริการของ Beepi
.
Beepi ถูกก่อตั้งในปี 2013
เป็นสตาร์ทอัพในซิลิคอนวัลเลย์
และถูกปิดตัวลงในปี 2016
เป็นธุรกิจ Startup สัญชาติอเมิกัน
มีผู้ร่วมก่อตั้ง 2 คนได้แก่
Ale Resnik และ Owen Savir
ผ่านการระดมทุนไป 6 รอบ รวมเงินลงทุนแล้ว
ได้มา 149 ล้านดอลลาร์ หรือราว
5.1 พันล้านบาท จากนักลงทุน 31 คน
.
ปัญหาสำคัญที่ทำให้สตาร์ทอัพพันล้านนี้
ต้องปิดตัวลงเป็นเพราะขาดเงินที่จะบริหารต่อ
ถึงแม้ว่าจะพยายามขายกิจการให้ 2 บริษัท
ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ
หากเข้าไปเจาะดูปัญหาการเงินที่ลึกขึ้น
ก็จะเห็นว่าในแต่ละเดือนนั้นบริษัทแบกรับ
ค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ๆ และค่าใช้จ่ายหลัก ๆ
นั่นคือเงินเดือนบวกกับค่าล่วงเวลาของ
ผู้บริหารระดับสูง
ที่สำคัญต่อมา ยังมีบิลค่าใช้จ่าย
จากการใช้จ่ายฟุ้มเฟือยของผู้ก่อตั้ง
เมื่อรวมเป็นรายจ่ายทั้งหมดของบริษัท
ต่อเดือนแล้วจะตกอยู่ที่ 7 ล้านดอลลาร์
หรือราว 243 ล้านบาทต่อเดือน
.
ซึ่งปัญหาเหล่านี้ทำให้เห็นว่า บริษัทไม่ได้มี
แผนในการบริหารเงินแม้แต่น้อย และยังนำ
เงินที่ระดมทุนมาได้ ไปใช้จ่ายผิดวัตถุประสงค์
ถึงแม้ว่าในตอนท้ายบริษัทจะพยามยาม
ขายกิจการต่อ ไม่ว่าจะเป็น DGDG หรือ Fair.com
ก็ไม่สำเร็จ เพราะความน่าเชื่อถือในการ
บริหารจัดการเงินนั้นเป็น 0
และจุดจบของเรื่องนี้ก็คือปิดกิจการ
.
#NopPongsatorn #อายุน้อยร้อยล้าน
#ธุรกิจ #นักธุรกิจ #CaseStudy
#สตาร์ทอัพ #Beepi
.
ที่มาข้อมูลและรูปภาพ
-Failory
-Medium
โฆษณา