Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่าของสาว(เหลือ)น้อย
•
ติดตาม
15 พ.ค. 2022 เวลา 12:01 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่องสั้น รักของเขากะเราพี่น้อง
พี่บรู๊ค-น้องเบล-นายวายุ
ชื่อเบล ค่ะ เบล...เฉยๆสั้นๆไม่ใช่ เบลล่า ราณี แคมเปญ นะคะ ชื่อจริง บงกชรัตน์ มีพี่ชายสุดหล่อเพียงคนเดียวชื่อเล่นชื่อ พี่บรู๊ค ชื่อจริงชื่อ บรรณรต
พี่ชายของฉันเรียนแพทย์ปีสุดท้ายแล้วค่ะ ส่วนฉันเรียนวิศวะ เพิ่งขึ้นปี 1 อยู่มหาวิทยาลัยเดียวกันค่ะ
ฉันตื่นขึ้นแต่เช้าเพื่อไปร่วมกิจกรรมรับน้องของคณะฯ
แต่ตอนเย็นฉันกลับบ้านมาในสภาพเหนื่อยล้า จนพี่ชายถึงกับทักว่า "เป็นอะไรหือ ยัยเบลสภาพแย่มากเลย"
ฉันหน้าหงิกลงไปอีก "เบลไม่อยากไปแล้วอ่ะ กิจกรรมรับน้องเนี่ย เหมือนกิจกรรมพี่แกล้งน้องมากกว่า"
"วันแรกเองนะ เบล คณะวิศวะ ก้ออย่างนี้แหละ รับน้องค่อนข้างหนักกว่าคณะอื่น" พี่บรู๊คพูดปลอบมาปนเสียงหัวเราะ "อีตาพี่ปี 3 ที่เป็นหัวหน้าสต๊าฟว๊ากนะคะ โหดสุดๆ แถมเก็กหน้าบูดตลอดเวลา เบลโดนเรียกด้วยนะ ตอนร้องเพลงเชียร์ผิดไปนิดส์นึง หูดีชะมัด แต่เบลว่าเขาจ้องจับผิดมากกว่า" ฉันบ่นกับพี่ชายอย่างยืดยาว แล้วก็วิ่งเข้าครัวไปประจบคุณนายแม่เพื่อหาอะไรกิน
"วันนี้มาไม่ครบ พวกเราโดนทำโทษอีกแน่เลยเบล"
กุ๊บกิ๊บเพื่อนหญิงคนใหม่พูดเสียงกระซิบ "เฮ้อ ! เมื่อไหร่จะได้ปิดห้องเชียร์นี่ อาทิตย์หน้าเรามีสอบกันแล้วนะ" เจ้าดุ๊ก เพื่อนชายคนใหม่บ่นออกมาเช่นกัน
"เบล เป็นอะไรหรือเปล่า นั่งเงียบเชียว" กุ๊บกิ๊บถามอย่างเป็นห่วงที่เห็นฉันนั่งเงียบ
"เมื่อเช้าเราตื่นสายน่ะ เลยทานข้าวเช้าไม่ทัน แต่พี่ชายเราให้ทานนมกับขนมปังมาในรถแล้วล่ะ"
"พี่ชายตัวนี่น่ารักจังเลยนะ เค้าอยากมีพี่ชายอย่างนี้จัง"
กุ๊บกิ๊บพูดพร้อมกับทำนัยน์ตาชวนฝัน
"แกก็สมัครเป็นพี่สะใภ้ไอ้เบลมันสิ" ปริมเพื่อนจากโรงเรียนเก่าที่สอบได้คณะเดียวกันแซวมา
"ฉันเอาจริงน้า ว่าแต่เบลจะรับได้มั้ยอ่ะ"
"เฮ้ย ! หยุดเล่นพ่อแกมาแล้ว" ฉันส่งเสียงเตือนเพื่อนๆ
"เอ้า ! เช็คชื่อ" พี่ปี 3 หัวหน้าสต๊าฟว๊ากตะโกนขึ้นมาเสียงดัง "หน้าตาก็ดีอ่ะ แต่ดุชะมัด" ฉันคิดในใจ
"ขาด 5 คน พรุ่งนึ้ให้พวกคุณทำยังงัยก็ได้ให้เพื่อน 5 คนนี้กลับมา ยกเว้นมีเหตุสุดวิสัย" หัวหน้าสต๊าฟที่มีนามว่า "วายุ" ออกคำสั่ง
"เอ้า วันนี้เริ่มต้นด้วยการออกกำลังกายกัน" พี่ดรีม 1 ใน 5 เสือ สต๊าฟว๊ากพูดขึ้น "วิ่งรอบสนาม 20 รอบ ปฏิบัติ" นี่คือคำสั่งต่อมาของพี่ดรีม
"เบล ไหวมั้ย" เจ้าดุ๊กวิ่งย้อนกลับมาหาฉัน เมื่อเห็นฉันวิ่งช้าลงไม่เกาะกลุ่มเพื่อน "ไหวสิ นายวิ่งไปก่อนเถอะ จะผ่านหน้าพวกพี่สต๊าฟแระ เดี๋ยวจะโดนด่า" ฉันบอกด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้เข้มแข็ง แต่ขาเจ้ากรรมมันดันก้าวไม่ออก ฉันยังอุส่าห์คิดถึงพี่ตูน บอดี้สแลม
ก้าวคนละก้าว แต่ไม่ไหวอ่ะ โลกเบื้องหน้ามืดมิดลงในพริบตา
ภาพแรกที่ฉันเห็น เมื่อฉันลืมตาตื่น คือ หน้าของพี่ชายสุดหล่อของฉันเองพี่บรู๊ค "เป็นงัยเรา พี่เป็นห่วงแทบแย่" พี่บรู๊คพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับเอานิ้วมือมาเขี่ยปอยผมที่ปรกหน้าผากฉันเบาๆ
"เบล มาอยู่ที่นี่ได้งัยคะพี่บรู๊ค" ฉันถามอย่างสงสัย
"เราเป็นลม มีคนอุ้มมาส่ง แล้วยัยปริม ก็โทรไปบอกพี่น่ะสิ พอดีพี่เลิกคลาส เลยรีบเผ่นมาดูเรานี่แหละ"
พี่บรู๊คหยุดพูดชั่วขณะ แล้วก็พูดต่อว่า "ปริม ดุ๊ก แล้วก็ใครอีกคนน้า กุ๊กไก่ เขาก็เพิ่งกลับไป"
"เขาชื่อกุ๊บกิ๊บค่ะพี่บรู๊ค" ฉันนึกในใจว่า ถ้ากุ๊บกิ๊บรู้ว่าแค่ชื่อเธอ พี่ชายของฉันยังจำไม่ได้เลย กุ๊บกิ๊บจะเสียใจมั้ยนะ ที่แอบปลื้มพี่บรู๊ค "ไปนอนให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาลของมหา'ลัยมั้ย พี่จัดการให้"
"ไม่เอาอ่ะค่ะ พี่บรู๊คพาเบลไปทานข้าว แล้วก็กลับบ้านเถอะ เบลหิวข้าวอ่ะ"
"กินช้าๆก็ได้เบล เดี๋ยวก็สำลักอ่ะ" พี่บรู๊คเตือนฉัน
"ก็มันหิวนี่คะ พาเบลเข้าร้านแพงเลยนะพี่บรู๊ค"
ฉันพูดพลางมองไปรอบๆร้านอย่างชื่นชม
"หวัดดีครับ พี่บรู๊ค" เสียงคุ้นๆดังขึ้นข้างหลังของฉัน
"อ้าว ! วายุไปยังงัยมายังงัยนี่" พี่บรู๊คทักทายชายผู้นั้นอย่างสนิทสนม "วายุ" ฉันอุทานเบาๆแล้วหันขวับไปมองทันที "น้องคนที่วันนี้วิ่งจนเป็นลม เป็นยังงัยแล้วบ้างครับ" น้ำเสียงชายหนุ่มมีแววห่วงใยและกังวล
"ยังไม่ตายค่ะพี่" ฉันตอบคำถามด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว
"เบล ทำไมพูดกับพี่เขาอย่างนั้น" พี่บรู๊คเอ็ดเสียงขุ่น
"วายุอย่าถือสาน้องสาวพี่เลยนะ มานั่งทานด้วยกันสิ พี่เลี้ยงเอง" พี่บรู๊คลุกขึ้นจูงมือนายวายุหน้าบูดมานั่งเก้าอี้ข้างๆตัวเองซะอย่างนั้น
ต่อจากนั้นทั้งพี่ชายของฉันและนายวายุก็ตั้งหน้าตั้งตาคุยกันกระหนุงกระหนิงราวกับคู่รักก็ไม่ปาน นี่ฉันคิดเอาเองอย่างอคติหรือเปล่านะ ถ้าเป็นอะไรที่เกี่ยวกับนายวายุฉันไม่ชอบทั้งนั้นแหละ
"พี่บรู๊ค เบลไปคอยในรถนะ" ฉันพูดพร้อมกับลุกขึ้น พี่ชายของฉันมองมาตาเขียวเชียว "พี่บรู๊คครับ ผมว่าน้องเบลคงจะเพลียนะครับ พาน้องกลับไปพักผ่อนที่บ้านก่อนดีกว่าครับ" นายวายุพูดขัดขึ้นมาก่อนที่พี่ชายของฉันจะเอ่ยปากอะไรออกมา
ก่อนจากกันพี่บรู๊คยังบอกกับอีตาวายุว่า "แล้วนัดเจอกันนะวายุ" "ครับพี่" นายวายุรับคำสั้นๆ
คืนนั้นฉันกลับถึงบ้านแล้วเข้านอนด้วยความหงุดหงิดและงอนพี่ชายตัวเองด้วย "ดูรึ...สนใจนายหน้าบูดนั่นมากกว่าน้องตัวเอง"
"เบลไปดูสิ ว่าใครมา" แม่ตะโกนบอกมาจากในครัว ฉันลุกจากหน้าจอทีวี วิ่งออกไปที่ประตูหน้าบ้าน มีมอเตอร์ไซค์ฮาเล่ย์จอดอยู่พร้อมกับร่างสูงใหญ่ของใครบางคนกำลังถอดหมวกกันน็อคออก
"มาหาพี่บรู๊คครับ" เสียงทุ้มๆไม่ใช่เสียงว๊ากลอยมาตามลม นายวายุนั่นเอง "ให้พี่เข้าไปหน่อยได้มั้ยครับน้องเบล" เขาขยับเข้ามาเกาะรั้วเกือบชิดหน้าของฉัน จนฉันตกใจถอยหลังกรูดออกจากประตูรั้ว
แต่ก็กลับไปเปิดประตูรั้วให้เขานำเจ้าฮาเล่ย์คันงามเข้ามาจอดในบ้าน "แม่คะ เพื่อนพี่บรู๊คค่ะ" "เป็นรุ่นพี่ของน้องเบลด้วยครับคุณแม่" เขาพูดพร้อมยกมือไหว้แม่อย่างนุ่มนวล
"ทานข้าวเช้าด้วยกันนะลูก แต่ว่าแม่ขอไปตลาดกับพ่อเขาก่อนนะของยังขาดหลายอย่าง" แม่พูดจบก็เดินไปหาพ่อที่ในสวน
"เดี๋ยวเบลขึ้นไปตามพี่บรู๊คให้นะคะ น่าจะตื่นแล้วเมื่อคืนพี่เขาขึ้นเวรอีอาร์ด้วยค่ะ" ขณะจะหันหลังขึ้นบันไดไปชั้นบน พี่วายุก็เรียกฉันไว้ "เบล พี่เอาแนวข้อสอบเก่าๆมาให้ เห็นว่าอาทิตย์หน้าจะสอบ" พูดเสร็จเขาก็ยื่นซองสีน้ำตาลหนาที่หยิบออกมาจากกระเป๋าเป้ที่ถือมาด้วย
ฉันยกมือไหว้กล่าวขอบคุณ แล้วหอบซองสีน้ำตาลขึ้นบันไดไปชั้นบนอย่างแปลกใจ
พี่บรู๊คดีใจมากที่นายวายุมาหาถึงบ้าน ถึงกับเข้าครัวไปเตรียมเครื่องปรุงต่างๆรอแม่กลับจากตลาด นายวายุก็เข้าไปช่วยในครัวด้วย
เมื่อฉันเข้าไปในครัว ฉันตกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า นายวายุยืนอยู่ข้างหลังพี่บรู๊คกำลังเลิกชายเสื้อด้านหลังพี่บรู๊คขึ้น "ทำอะไรกันน่ะ" ฉันร้องเสียงสูงพร้อมกับก้าวเท้าเข้ามาหาทั้งสองและปัดมือนายวายุออกจากชายเสื้อพี่บรู๊คอย่างแรง
"โวยวายอะไรยัยเบล" พี่บรู๊คหันมาพร้อมกระทะในมือ "ก้อๆ...พี่สองคนทำอะไรกันอยู่ล่ะ" ฉันพูดอึกอักรู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันใด "พี่ให้วายุเขาติดเทปปิดแผลที่หลังให้แน่นขึ้นหน่อยมันทำท่าเหมือนจะหลุด"
"หลังพี่บรู๊คเป็นอะไร ไหนขอเบลดูหน่อย" ฉันเปิดดูแผลที่หลังพี่บรู๊คเห็นรอยแผลเป็นทางยาวประมาณสองนิ้ว แต่ผ่านการทำความสะอาดใส่ยาเรียบร้อยแล้ว ฉันปิดผ้าก๊อซกลับที่เดิม
"เมื่อวานช่วยพี่สต๊าฟอีอาร์ทำแผล รถเทกระจาดมา มันชุลมุนมาก เจ้าหน้าที่พยาบาลเข็นรถเครื่องมือมาชนหลังโดนตรงมุมรถพอดี เลยได้แผลนิดหน่อย แต่พี่ๆพยาบาลรุมทำแผลให้เสียใหญ่โต" พี่บรู๊คอธิบายคลายความสงสัย
"เดี๋ยว พี่อาบน้ำแล้วเบลช่วยทำแผลให้พี่หน่อยนะ"
"ได้ค่ะพี่บรู๊ค" ฉันพูดเสียงอ่อยไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอมยิ้มอยู่ข้างๆ
"วายุ พี่ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ พอเบลไปบอกว่าวายุมา ก็เผ่นลงมาเลย ยังไม่ได้อาบน้ำ" พี่บรู๊คหันมาพูดกับนายวายุ
"ระวัง แผลโดนน้ำนะพี่บรู๊ค" ฉันเตือนด้วยความห่วงใย
"พี่เป็นหมอ พี่รู้น่า"
"เมื่อกี้ คิดว่าพี่จะทำอะไรพี่ชายของเบลหรือ" เขาถามมาด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ หลังจากพี่บรู๊คออกจากครัวไปแล้ว
"จะไปรู้เหรอ เห็นยืนเบียดพี่บรู๊คอยู่อย่างนั้น" ฉันพูดเสียงสะบัดๆไม่ชอบรอยยิ้มของเขาเลย "พี่ว่าเบลเอาสมองไปคิดเรื่องที่จะสอบดีกว่านะ แล้วก้ออย่ามัวแต่ดูซีรีย์วายจนฟุ้งซ่าน"... "พี่วายุ" ฉันอุทานแล้วเดินสะบัดหน้าออกจากครัวทันที
หลังจากนายวายุกลับไปแล้ว ฉันจึงเข้าไปถามพี่ชายสุดที่รักให้หายสงสัย "พี่บรู๊ค เบลถามหน่อยพี่บรู๊คไปรู้จักกับนายวายุภัคนี่ได้ยังงัย" "อ๋อ...รู้จัก ตอนเขาไปตัดเฝือกน่ะ อาจารย์หมอให้ลองตัดเฝือกคนไข้ดู"
"เขาดีนะ รู้ว่าพี่เป็นหมอฝึกหัด แต่ก็ให้กำลังใจเป็นอย่างดี" พี่บรู๊คเล่าต่อด้วยน้ำเสียงชื่นชม "เขาเข้าเฝือกที่ไหนคะ" ฉันถามอย่างสงสัย "ขา เห็นว่าเล่นบอลถูกเพื่อนกระแทกล้ม"
"แต่ดูสนิทสนมกันจังนะคะ" ฉันถามหยั่งเชิง "ก็คุยกันถูกคอ อีกอย่างพี่บอกว่ามีน้องสอบได้วิศวะกำลังจะเข้ามาเรียนปีหนึ่ง เขาก็บอกจะช่วยดูแลให้ พอพี่บอกว่าเป็นผู้หญิง เขาก็หน้าเสียเลย"
"คงไม่ชอบผู้หญิงมั้งคะ" ฉันพูดตามที่ใจคิด "ไม่มั้ง แค่เขาบอกว่าถ้าเป็นผู้หญิงคงดูแลไม่สะดวก แถมยังพูดติดตลกว่าพี่ชายคงหวง" "แล้วพี่บรู๊คหวงเบลมั่งหรือเปล่าล่ะ" "พี่ก็อยากให้เราขายออกเหมือนกันนะ เราน่ะเหมือนทอมบอยเข้าไปทุกทีละ เรึยนก็เลือกเรียนวิศวะ" พี่ชายบ่นโดยไม่มีทีท่าจะหวงน้องสาว
"เออ...เบลว่าวายุเขาหล่อมั้ย" จู่ไม่จู่พี่บรู๊คก็เปลี่ยนเรื่องซะงั้น "แล้วในสายตาพี่บรู๊คว่างัยล่ะ" ฉันย้อนถามกลับไป
"พี่ว่าเขาหล่อมากเลยนะ ขนาดพี่เป็นผู้ชายยังชอบมองเขาเลย ไม่ว่าจะ คิ้ว ตา จมูก ปาก รูปร่าง มัน เพอร์เฟคไปหมด" พี่บรู๊คสาธยายแถมนัยน์ตายังระยิบระยับชวนฝัน "อย่างนั้นเลยเหรอพี่บรู๊ค"
"เอาล่ะ พี่ตัดสินใจละ ว่าพี่จะไปจีบวายุ" ว่าแล้วพี่ชายว่าที่คุณหมอของฉันก็คว้ามือถือออกไปโทรหาใครบางคน "เดี๋ยวๆพี่บรู๊คกลับมาพูดกันให้รู้เรื่องก่อน จะไปจีบเขาได้งัย" "ไม่คุยแล้ว พี่จะโทรหาวายุ" พี่ชายไม่สนใจเสียงตะโกนโวยวายของฉันเลย
ฉันนั่งหน้ามุ่ยอยู่ท่ามกลางวงล้อมของเพื่อนร่วม
แก๊งค์ อันมีเจ้าดุ๊ก ปริม และกุ๊บกิ๊บ พร้อมกับเล่าเรื่องคับข้องใจให้เพื่อนๆฟัง
"ฉันไม่เชื่อ พี่บรู๊คจะชอบผู้ชายด้วยกัน ไอ้เบลแกเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า" กุ๊บกิ๊บหน้าถอดสีหลังจากฟังฉันเล่าเรื่องจบ "ฉันได้ยินพี่บรู๊คพูดกับหู แล้วแถมยังโทรไปหานายวายุนั่นคุยกันมุ้งมิ้งเชียว" ประโยคท้ายๆฉันมโนขึ้นมาเองว่าสองคนนั่นคุยกันมุ้งมิ้ง
"เขาอาจจะคุยธุระสำคัญกันก็ได้นะเบล พี่วายุเขาออกจะแมนอย่างนั้น" ปริมออกความเห็น "หรือพี่บรู๊คเป็นควีน พี่วายุเป็นคิง" เจ้าดุ๊กพูดให้ฉันกลุ้มใจหนักเข้าไปอีก
"เฮ้ย ! พวกแก๊งค์สต๊าฟว๊าก 5 เสือเดินมานู่นแล้ว" เจ้า
ดุ๊กชี้ไปทางสนามฟุตบอลที่พี่สต๊าฟว๊ากทั้ง 5 คน กำลังเดินตัดสนามตรงมายังโต๊ะม้ายาวที่พวกเรากำลังนั่งอยู่
"เบล เดี๋ยวเราจะพิสูจน์ให้เองว่าพี่วายุเขาชอบผู้หญิงหรือผู้ชาย" "แกจะพิสูจน์ยังงัยดุ๊ก" เบลถามแต่ยังไม่ทันขาดคำ เพื่อนชายคนเดียวในกลุ่มก็ตรงเข้าไปหาวายุ แล้วก็เข้าไปกอดด้านหลังของวายุทันที
พี่วายุตกใจแกะมือเจ้าดุ๊กออก แล้วตามด้วยศอกกลับเข้าเบ้าตาของเจ้าดุ๊กทันที เจ้าดุ๊กถึงกับหงายหลังผึ่ง
ดีที่พวกพี่ๆที่เดินตามมาข้างหลังรับร่างมันไว้ทัน ไม่ถึงกับลงไปกองกับพื้น
"เล่นพิเรนทร์อะไรวะเจ้าดุ๊ก" พี่ตี๋ถาม "เอ่อ...เอ่อผมคิดถึงพวกพี่ๆน่ะครับ ก็เลยจะกอดให้หายคิดถึง"
เจ้าดุ๊กพูดเอาตัวรอด
"เป็นงัยบ้างดุ๊ก พี่ขอดูหน้าหน่อย" พี่วายุดูจะไม่ถือสาความพิเรนทร์ของดุ๊ก แต่กลับถามอย่างห่วงใย "โดนเฉียดๆครับพี่วายุ ถ้าโดนเต็มๆผมน่าจะสลบนะ" เจ้าดุ๊กพูดพร้อมกับคลำบริเวณลูกตา
"นอกจากเป็นนักบอลแล้ว วายุมันยังเป็นแชมป์มวยไทยด้วยนะ อย่าเล่นอะไรแผลงๆอีกล่ะ" พี่ก้องอวดสรรพคุณเพื่อนอย่างภูมิใจ
"ว่าแต่ติวหนังสือกันอยู่หรือเบล" พี่วายุทักฉันที่กำลังอ้าปากหวอกับการกระทำของเจ้าดุ๊กและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น "ค่ะ" ฉันตอบสั้นๆอย่างลอยๆ พวกพี่ๆประคองเจ้าดุ๊กกลับมานั่งที่โต๊ะม้ายาว
"พรุ่งนี้สอบฟิสิกส์ค่ะ" ปริมให้ข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อเห็นฉันตอบคำถามแต่เพียงสั้นๆ "เฮ้ย ! นพ เอ็งเก่งฟิสิกส์ช่วยติวให้น้องๆเขาหน่อยดิวะ" พี่วายุพูดพร้อมตบบ่าพี่นพ "ได้สิขอรับ ท่านหัวหน้า"พี่นพรับคำอย่างเต็มใจ
พวกพี่ๆติวหนังสือให้น้องปีหนึ่งไปสักพัก เสียงมือถือพี่วายุก็ดังขึ้น "พี่บรู๊ค หรือครับ เดี๋ยวผมบอกน้องเบลให้ครับ" "เบล ตอน 5 โมงเย็นพี่บรู๊คจะมารับพี่กับเบลกลับบ้านนะ" พี่วายุบอกฉันหลังจากพูดโทรศัพท์กับพี่ชายของฉันเสร็จ
"ไม่เป็นไรค่ะพี่วายุ พี่กลับกับพี่บรู๊คสองคนเถอะ ปริมเดี๋ยวเย็นนี้ เราอาศัยรถกลับบ้านด้วยนะ" ฉันหันมาพูดกับพวกพี่ๆอีกว่า "พี่ๆคะเบลขอตัวก่อนนะคะ ขอบคุณพวกพี่ที่ช่วยติวด้วยค่ะ" ฉันบอกกล่าวเสร็จก็ลุกเดินออกมาคนเดียว
"เดี๋ยวก่อนเบล เป็นอะไรไป แล้วทำไมไม่กลับบ้านกับพี่บรู๊ค" พี่วายุเดินตามมาข้างหลัง แล้วยังคว้าข้อมือของฉันไว้ ฉันสะบัดมือออก"เบลไม่อยากเป็น กอ ขอ คอ พี่สองคน" ฉันพูดพร้อมกอดอกยืนหน้าบึ้ง
"กอ ขอ คอ อะไร ที่พี่จะกลับบ้านด้วยเพราะพี่มีธุระจะคุยกับพี่ชายของเรา" พี่วายุยืนเท้าสะเอวส่ายหัว
"เบลไม่กลับค่ะจะกลับกับปริม" ฉันยืนยันคำเดิม
"ตามใจ เย็นนี้เจอกันที่บ้านเบลแล้วกัน" พี่วายุทิ้งท้ายไว้เท่านั้น แล้วเดินกลับไปยังกลุ่มติว
การสอบผ่านไปแล้วดูเหมือนทุกคนในกลุ่มจะทำได้พร้อมกับกล่าวชื่นชมพวกพี่ๆสต๊าฟว๊าก โดยเฉพาะพี่วายุที่เอาแนวข้อสอบเก่ามาให้และพี่นพที่ติวได้ตรงกับข้อสอบที่ออกหลายข้อ ยกเว้นฉันที่ยังครุ่นคิดกับพฤติกรรมของพี่ชายสุดที่รักกับนายวายุอยู่
วันหยุดเสาร์ อาทิตย์ นายวายุก็มาหาพี่บรู๊คที่บ้านเป็นอย่างนี้มา 2 อาทิตย์ละ แล้วก็คลุกกันอยู่แต่ในห้อง วันจันทร์ถึงศุกร์พี่บรู๊คก็กลับบ้านมืดค่ำ กลับมาอย่างอิดโรย ไม่ค่อยมีเวลาไปรับฉันเหมือนเคย ให้ฉันรอพ่อมารับตอนเย็น หรือติดรถเพื่อนกลับบ้าน
ฉันยังอดคิดเรื่องพี่ชายกับนายวายุไปในทางที่ดีไม่ได้ แม้เจ้าดุ๊กที่หลังจากโดนพี่วายุฟันศอกด้วย
"ท่าหิรัญม้วนแผ่นดิน" ไปวันก่อน จะให้การยืนยันว่า
พี่วายุไม่ใช่พวกเกย์แน่ "เราไปสืบเสาะเพิ่มเติมนะ มีแต่สาวๆมารุมกรี๊ดพี่เขา แต่พี่วายุก็ยังไม่คบหญิงคนไหน"
"ก็นั่นแหละ ที่ชั้นกลัว กลัวเขาจะมาชอบผู้ชายด้วยกันน่ะสิ แล้วผู้ชายที่เป็นเป้าหมายของเขา ก็คือพี่บรู๊คนี่แหละ" ฉันยังคงเชื่อมั่นในความคิดของตัวเองอยู่เช่นนั้น
"เขามุงอะไรกัน เข้าไปดูกันมั้ยเบล" ปริมชวนเมื่อเห็นนักศึกษากลุ่มใหญ่รุมล้อมบอร์ดคณะ แต่กุ๊บกิ๊บแหวกวงล้อมเข้าไปหน้ากระดานก่อนแล้ว
โปสเตอร์ขนาด 20 คูณ 24 นิ้ว สวยสะดุดตา โปรโมตละครเวทีของคณะแพทยศาสตร์ รายได้ทั้งหมดสมทบทุนสร้างตึกอุบัติเหตุหลังใหม่ของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย เรื่องที่นำมาแสดงคือเรื่อง "ทวิภพ" แต่ที่ทำให้ทั้งฉัน ปริม และกุ๊บกิ๊บ แปลกใจระคนตื่นเต้น คือ พระเอกที่คณะแพทย์ฯเลือกมาเป็นหลวงอัครเทพวรากร ตามบทประพันธ์กลับเป็นหนุ่มจากคณะวิศวะ"พี่วายุ"
เมื่อกลับถึงบ้าน ฉันซักไซ้พี่บรู๊คเป็นการใหญ่ พี่บรู๊ค
บอกว่า "กว่าพี่จะจีบให้วายุมาเล่นละครให้คณะแพทย์ฯได้แทบแย่ พี่เอารูปเขาไปให้อาจารย์ที่คณะดู แล้วก็พาไปแอบส่องตัวจริงด้วย ทีมโอเคมาก" พี่บรู๊คหยุดเล่ายกน้ำส้มขึ้นดื่ม "เล่าต่อสิพี่บรู๊ค แล้วทำไมพี่วายุยอม"
"เขาขออะไรพี่อย่างหนึ่งน่ะ ไว้ละครเล่นจบพี่ค่อยบอกเบลละกัน" พี่บรู๊คทำหน้าตามีเลศนัย "ทำไมบอกตอนนี้ไม่ได้ แล้วท่าทางทื่อๆอย่างนั้น เบลว่าละครคณะพี่บรู๊คจะล่มเอานะ" ฉันไม่วายอดเหน็บแนม แม้ลึกๆแล้วจะรู้สึกโล่งใจไม่น้อยที่เขาเทียวไปเทียวมาที่บ้านเพื่อมาซ้อมละคร เพราะพี่บรู๊คเป็นหนึ่งในผู้ช่วยผู้กำกับ
"อีกสามวันก็จะเปิดการแสดงแล้ว พ่อกับแม่ช่วยซื้อบัตรเข้าชมแล้วซื้อเผื่อเบลด้วยนะ" พี่บรู๊คบอกฉัน "โอ้ย ! ใครว่าเบลอยากไปดู" ฉันพูดไม่ตรงกับใจ เพราะตอนนี้ฉันอยากไปดูนายเสาไฟฟ้าว่าจะเล่นละครแข็งทื่อเพียงไรใจจะขาด
วันเปิดการแสดงละครทวิภพ หอประชุมขนาดจุคน 1500 คน ของมหาวิทยาลัย เต็มทุกที่นั่ง พี่บรู๊คออกจากบ้านไปแต่เช้าเพื่อช่วยงาน แต่ก่อนไปมาปลุกฉันถึงในห้องนอน "มีอะไรเหรอพี่บรู๊ค" ฉันงัวเงียลุกขึ้นมาตามแรงเขย่ามือปลุกของพี่บรู๊ค
"เบล พี่วานทำอะไรหน่อยบ่ายๆจะมีคนมาส่งช่อดอกไม้ พี่สั่งไว้จะให้วายุเขาตอนละครปิดม่าน" พี่บรู๊คบอก
"แล้วงัย" ฉันยังพูดแบบสะลึมสะลือ "เบล เอาดอกไม้ที่พี่สั่งให้วายุที" "อ้าว! แล้วไมพี่บรู๊คไม่ให้เขาเองล่ะ"
"พี่คงยุ่งอยู่หลังเวทีอ่ะ แม้ละครจะจบลง พี่ก็ต้องช่วยอาจารย์กะเพื่อนๆเคลียร์โน่นนี่" พี่บรู๊คอธิบาย
"ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวตกเป็นข่าวกะดาราใหญ่" ฉันยังงอแง
"เอ้า...พี่ให้เบลยืมรถขับหนึ่งอาทิตย์" พี่บรู๊คงัดไม้ตายมาต่อรอง "งั้นตกลงค่ะ" ฉันตาสว่างขึ้นมาทันใด นึกถึงรถยนต์ Toyota Corolla Altis รุ่น Mid HYBRID ของพี่บรู๊คที่จะได้ขับ "แค่เอาช่อดอกไม้ไปให้นายวายุหน้ายักษ์" เท่านั้น
ละครประสบความสำเร็จอย่างงดงาม และถูกเรียกร้องให้มีการเปิดแสดงรอบ 2 ฉันเอาช่อดอกไม้ไปมอบให้พี่วายุ
ฉันคิดไปเองมั้ยน้อว่าพี่วายุมีสีหน้าดีใจมากที่ได้ช่อดอกไม้จากฉัน แต่ก่อนที่ฉันจะกลับไปนั่งกับพ่อและแม่
ฉันได้ยินเสียงกรี๊ดกร๊าด เสียงเป่าปาก เสียงปรบมือ ดังอื้ออึง ฉันหันหลังกลับไปมองที่เวทีอีกครั้ง
ภาพตรงหน้าที่นางเอกของเรื่องจูบแก้มพระเอก พี่วายุมีสีหน้าตกใจเล็กน้อยแล้วเปลี่ยนเป็นยิ้ม แต่ทำไมฉันรู้สึกเจ็บแปล๊บๆที่หัวใจ เสียงชัตเตอร์กดรัวๆ พรุ่งนี้คงเป็นข่าว ฉันรีบกลับที่นั่งชวนพ่อกับแม่กลับบ้าน โดยอ้างว่าเวียนหัว เกลียดอีตาพี่วายุจัง ทำให้ฉันต้องโกหกพ่อกับแม่
ฉันตื่นขึ้นมาในตอนเช้า พี่บรู๊คคงกลับดึก แต่ก็แอบเอากุญแจรถมาวางไว้ที่โต๊ะเล็กข้างเตียงตามสัญญา "อาบน้ำแล้วไปขับรถเล่นดีกว่า" ฉันพึมพำกับตัวเอง
แต่เมื่อออกมาหน้าบ้านกลับเห็นคนที่เมื่อคืนทำให้ฉันหงุดหงิด ฉันก็เผลอค้อนเขาวงใหญ่ "เบล จะไปไหนแต่เช้าครับ" พี่วายุถามยิ้มๆ "ขับรถเล่น" ฉันตอบแบบมะนาวไม่มีน้ำ "มาพี่ขับรถให้" ว่าแล้วพี่วายุก็แย่งกุญแจรถไปจากมือฉัน ฉันโมโหพยายามแย่งกลับคืน แต่พี่วายุสูงกว่าฉันมาก
แย่งไปแย่งมา ฉันเสียหลักทำท่าจะล้ม พี่วายุคว้าเอวฉันไว้ทัน...ฉากนี้ฉันคุ้นๆแฮะ...แต่ก็ยอมหยุดนิ่งในอ้อมแขนแสนอุ่นนั้นอยู่ 30 วินาที ก่อนถอยออกมาพร้อมพูดแก้เขินว่า "ไปขับให้นางเอกของพี่ที่จูบกันนอกบทเมื่อคืนเถอะ"
"ใคร...อ๋อ...ขวัญ...เขาอยู่คณะแพทย์ เรียนอยู่ปี 3 เหมือนกัน เคยเป็นดาวมหา'ลัย" "ไม่ได้อยากรู้ประวัติแฟนพี่"
"ใครว่าขวัญเป็นแฟนพี่ แม้ว่าเขาจะขอพี่เดทแล้วก็เถอะ พี่บอกว่าพี่มีคนในหัวใจละ" พี่วายุสบตาฉันอย่างมีความหมาย แต่ฉันยังเคืองเรื่องเมื่อคืนเลยไม่สนใจสายตาอ่อนหวานที่เขาส่งมาให้ "คืนกุญแจรถเบลมา"
ฉันยื่นมือออกไปข้างหน้า เพื่อขอกุญแจคืน
"เบล ไม่อยากรู้หรือ ว่าใคร คือ คนในหัวใจพี่" พี่วายุทอดเสียงอ่อนหวาน "ใครคะ" ฉันก็เริ่มอินไปกับพี่วายุด้วยแล้ว ถามออกไปราวกระซิบ "คนที่เป็นน้องสาวพี่
บรู๊คน่ะสิ"..."พี่วายุ"
"รู้มั้ย ทำไมพี่ยอมเล่นละครให้พี่บรู๊ค ทั้งๆที่เรื่องการแสดงอะไรนี่ไม่เคยมีอยู่ในสมองพี่เลย" พี่วายุยังคงมองเข้ามาในดวงตากลมโตราวไข่ห่านของฉันอยู่อย่างนั้น "ทำไมคะ" ฉันถามราวละเมอ "เธอหนอเธอ"
เอ้ย..."เบลหนอเบล"
"พี่ขออนุญาตพี่บรู๊คจีบเบลอย่างเป็นทางการแลกกับการแสดงละครให้พี่บรู๊คน่ะสิ" ... "พี่วายุ"
ฉันยังคงเรียกชื่อพี่เขาอยู่อย่างนั้น หัวใจเจ้ากรรมมันเต้นตึกตัก จนฉันกลัวว่าเขาจะได้ยินเสียงจากหัวใจของฉัน
"ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ" "ถ้าเบลหมายถึงพี่ชอบเบลตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็คงตั้งแต่ได้อุ้มเบลมาส่งห้องพยาบาลล่ะมั้ง"
"พี่วายุ เป็นคนพาเบลมาห้องพยาบาลตอนเป็นลมหรือคะ" "ใช่ครับ เจ้าหญิง" เขาพูดล้อๆ
"เบลจะไปไหนน่ะ" พี่วายุฉุดมือฉันไว้ "เบล จะไปจัดการพี่บรู๊คค่ะ มีสิทธิ์อะไรจะมาอนุญาตให้ใครต่อใครมาจีบน้องสาวตัวเอง" ฉันสะบัดมืออกจากอุ้งมือใหญ่ของพี่วายุ
"อย่าว่าพี่บรู๊คเลยนะเบล พี่ให้สัญญากับพี่บรู๊คว่าจะคอยช่วยดูแลเบล ไม่ทำให้เบลเสียการเรียน ส่วนถ้าพี่จีบเบลแล้ว เบลจะชอบพี่หรือไม่ชอบก็ได้ครับ แต่ให้โอกาสพี่หน่อย"
เฮ้อ ! คนที่ไม่ค่อยพูด บทจะจีบสาวพูดเสียยาวเชียว
"ตกลง พี่จีบเบลได้หรือยัง" เสียงนุ่มทุ้มถามมาอย่างเว้าวอน "ไม่รู้ไม่ชี้ค่ะ แต่วันนี้ขับรถพาเบลไปเที่ยวแบบธรรมชาติๆแล้วกัน แต่เดี๋ยวเบลไปบอกพ่อกะแม่ก่อน นะคะ"
💕 ความเอยความรักเริ่มสมัครชั้นต้น ณ หนไหน และจะจบลงเอยเป็นอย่างไร ก็ไม่อาจรู้ได้ในวันนี้ แต่ก็ขอให้ได้ลองรักดูสักหน ด้วยใจตนเรียกร้องเหลียวมองหา รักมีสุข มีทุกข์ ตลอดเวลา เมื่อเพรียกหา ก็จงพร้อมยอมรับมัน 💞
1
ปล.ขอจบเรื่องสั้น ขนาดย้าวยาวไว้เพียงเท่านี้ นะคะ
3 บันทึก
13
10
3
3
13
10
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย