14 พ.ค. 2022 เวลา 05:58 • ดนตรี เพลง
[รีวิวอัลบั้ม] LOVE, LIFE & LIBERTY - LAAN
"เมื่อมีความรัก​จึงมีชีวิต​ เมื่อมีชีวิตจึงขอใช้อย่างอิสระ"
-นี่คือคำโปรยที่สื่อความใจความหลักอัลบั้มแรกของ 7 หนุ่ม Electronic Folk Song คนกรุงเทพ ได้อย่าง overall ไม่ยากเกินความเข้าใจ ตั้งแต่ได้รู้จักกับน้องๆผ่านการฟังผลงานเพลงที่ผ่านมา และการได้ทักทายตัวเป็นๆในงาน Listening Party รู้สึกว่าพวกเขามีไอเดียใหม่ๆมากมายในการทำให้ดนตรีโฟล์คซองที่ถูกมองว่าเป็นแนวเพลงผู้ใหญ่ให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้ง่ายขึ้น
-แถมท้าทายสาวกโฟล์คซองด้วยการผสมผสานดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ที่สายดนตรีสดมักจะอคติแนวเพลงดัดแปลงหรือสังเคราะห์เช่นกัน มันไม่ใช่แค่ท้าทายขนบเดิมๆ แต่พวกเขากำลังท้าทายช่องว่างของวัยไปพร้อมๆกัน
สมาชิก LAAN
โจ-นนธวัฒน์ อินทร์หนู (คอรัส, กีตาร์ไฟฟ้า, ซินธิไซเซอร์)
วิน-จิรวัฒน์ ศิลปักษา (ร้องนำ)
นนท์-ณัฐดนัย ดำรงเถกิงเกียรติ (เบส, ซินธิไซเซอร์)
ไอซ์-ชนาเทพ เล้าภากรณ์ (กลอง)
ต้าร์-บารมี เพ็งกระจ่าง (คอรัส, เปอร์คัสชั่น)
บอส-สิทธินนท์ บุญพันธ์ (ร้อง, กีตาร์โปร่ง)
สิงห์-ฐิตญาธาน ศิริเทศ (คอรัส, กีตาร์ไฟฟ้า)
-ปกติไม่ได้เห็นแนวทางแบบนี้ในวงการเพลงไทย วงไทยวงไหนคงไม่มีใครกล้าเจริญรอยตาม Bon Iver แน่ๆ เพราะยังใหม่ไปสำหรับคนไทย สิ่งนึงที่ผมโคตรเชื่อใจ มองแล้วว่าพวกเขาไม่น่าจะพ้นข้อครหาในด้านการดัดแปลงหรือด้านการเห่อมอยเจริญรอยตาม Bon Iver ได้ก็คือ ความตั้งใจในการคราฟต์เส้นทางของตัวเอง คราฟต์ศิลปะให้บริสุทธิ์มากที่สุด
-งานเพลงของพวกเขาเปรียบเสมือนพื้นที่ปลายเปิดให้คนได้ตีความถึงสิ่งนั้นได้หลายแง่ ไม่ใช่แค่การโดนจำกัดกรอบ topic เรื่องใดเรื่องนึงเสมอไป สังเกตได้จากอีพีอัลบั้มแรก Outside the box พวกเขาโชว์ความต่างตั้งแต่การตั้งชื่อเพลงที่เป็นตัวอักษรย่อ ราวกับสร้างภาษาใหม่ที่พวกเขาเข้าใจได้เอง ถ้าได้ฟังก็อาจจะรู้ว่าตัวย่อนั้นย่อมาจากอะไร
-แอบไปสืบมาว่า ทำไมถึงตั้งชื่อแบบนั้น เมื่อได้รู้ถึงกับอ๋อ เพราะเขาตั้งชื่อเพลงเป็นตัวอักษรย่อตามไฟล์เพลงที่เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์นั่นเอง นึกถึงตอนที่เราทำงานปกติ เรามักจะตั้งชื่อไฟล์แบบย่อๆตามภาษาที่เราจำได้ง่ายนั่นแหละ
-คอนเซ็ปท์อีพีเล่าเรื่องราว coming of age ได้เข้าใจง่าย จากคนที่อยู่ในกล่องจนชิน สู่จุดที่การเติมเต็มในกล่องๆนั้นดันถึงเวลาที่ล้นจนฝาเปิดออก จนคนข้างในจำเป็นต้องออกจากกล่องเพื่อเผชิญโลกกว้าง ได้เวลาพิสูจน์ตัวเองต่อไป
-ถ้าหากว่าเพลง RAYA_ บอกเล่าถึงสภาวะไม่รู้ใจตัวเอง ไร้จุดหมาย ระยะทางที่ผ่านมาไม่ได้พิสูจน์ตัวเราเองได้เลย ชั่วโมงบินการเป็นสิ่งที่ไร้ความหมาย พอเปิดอัลบั้มด้วยเพลง anthem ปลุกใจ LIBERTY พวกเขาระลึกถึงเป้าประสงค์ตัวเองได้แล้วว่า อนาคตหรือชีวิตต่างๆนาๆเค้าจะเป็นคนกำหนดมันเอง
-สัมผัสได้ถึงความเล่นใหญ่ตั้งแต่คอรัสประสานเสียง เปิดอัลบั้มได้อย่างแข็งแรง เปียโนโดดเด้ง กลองตึบตับมาเต็ม เครื่องสายแอบสะดีดสะดิ้ง เต็มไปด้วยพลังงานโลดแล่น หลับตาแล้วฟังเสียงหัวใจตัวเอง พร้อมพุ่งโจนทะยาน
-T E L L Me ป็อปที่สุดในอัลบั้ม โทนเพลงสว่างไสว shine bright กลิ่นอาย new wave มาเต็ม พร้อมอ้าแขนรับกับปัจจุบันที่มีแสงสว่างกว่าที่เคยเป็น คือการละทิ้งสิ่งเก่าๆในอดีต เหลือเพียงตัวฉันในปัจจุบันที่อาจจะไม่มีใครต้องการก็ช่างแม่งแล้ว ต่อให้ช่วงเวลาในอดีตเป็นสิ่งที่ล่วงเลย ไม่มีความหมายอีกต่อไปก็ตาม
-RAIN คือตัวแทนแห่งความไม่แน่นอนทั้งสภาพอากาศและชีวิตที่เป็นอุปสรรคในการออกเดินทาง เป็นโมเมนต์ที่คอยย้ำเตือนว่า อย่ามาเสียเวลาอ้อยอิ่ง ตราบใดที่ฟ้าปิด ทุกอย่างสกัดกั้น เวลาก็เคลื่อนไปข้างหน้าตามปกติอย่างไม่รีรอ ท่อนแรกที่ถ่ายทอดโดยวิน (นักร้องนำหลัก) มาด้วยอารมณ์ชิวล์ๆราวกับไม่รู้ร้อนรู้หนาว
-พอมาถึงท่อนต่อไปที่ถ่ายทอดโดยบอส กลับดึงสติคนฟังฉุกคิดถึงความแปรปรวนของอากาศที่คาดเดาไม่ได้พอๆกับชีวิตที่ขึ้นๆลงๆพอกัน
-แทร็คต่อไป LOWE (อ่านว่า เลิฟ) ทางวงเลือกที่จะงัดคำแรกของอัลบั้มมาใช้ แต่แทรกบริบทคำว่า เรา (WE) ให้กลายเป็น รักที่มีเราด้วย กลายเป็นภาษาพิเศษที่พวกเขาจงใจครีเอทขึ้นมาใหม่เป็นภาษาชาวลานโดยเฉพาะ มีความรู้สึกพิเศษอย่างนึงเกี่ยวกับเพลงนี้คือ ผมดันอินเพลงนี้ในโหมดอัลบั้มมากกว่าฟังเป็นซิงเกิ้ลแยกเสียอีก เมื่อถูกจัดวางไว้ในอัลบั้มก่อนถึงครึ่งทาง
-ผมค้นพบว่าเพลงนี้ดัน connect กับสาสน์ของเพลงก่อนหน้าด้วยความบังเอิญ 3 แทร็คแรกเปรียบเสมือนโฟลว์ของชีวิตที่มีจุดเริ่มจากความอยากเป็นไท อยากมีอิสรภาพ ละทิ้งอดีตที่ถูกใช้อย่างเสียเวลา ย้ำเตือนอยู่เสมอเกี่ยวกับสัจจะของเวลาที่ไม่เคยรอใคร เพลงรักเพลงนี้คือทางแยกของความรักหนุ่มสาวที่พบกันแล้วต้องจากไปตามเส้นทางของตัวเอง
เราต่างเดินทางมายาวไกลสุดทางลมที่พัดไป
ฝากรักเราซึมพื้นทรายเนิ่นนานไม่หาย
LOWE - LAAN
-ผมมองท่อนนี้ด้วยความย้อนแย้งกับคอนเซปต์ “ให้คำว่ารักมีเราอยู่ด้วย” พอสมควร ไม่รู้ว่าผม negative เกินไปมั้ยที่ผมจะตีความไปทาง “ให้คำว่ารักมีเราอยู่ด้วย” เป็นสิ่งที่ไม่คงอยู่ชั่วนานตาปีแน่ๆ เพราะการที่ไปสลักคำมั่นสัญญาในพื้นทรายนับว่าเป็นสิ่งที่มลายหายไปได้โดยง่าย เมื่อคลื่นทะเลกระทบเข้ามาอยู่แล้ว ผมมองไปจนถึงความรักหนุ่มสาวเป็นสิ่งที่ไร้เดียงสา ไม่ถาวรอยู่แล้ว
-สุดท้ายต่างคนต่างโดนเกรียวคลื่นซัดไปในทิศทางที่คาดเดาไม่ได้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตามเพลงนี้คือ The Best สำหรับผม ด้วยความที่คอรัส ถ้อยคำภาษาประดิษฐ์ประดอยมาอย่างดี ท่วงทำนองบัลลาดที่ไม่เหมือนใคร ขมขื่นแต่สวยงาม เป็นการสร้างโมเมนต์พัดพาคนฟังไปสู่โลกจริงในเพลงถัดๆไปที่อาจจะทำให้ชีวิตที่อยากขีดเขียนด้วยตัวเองไม่เป็นดั่งใจหวัง
-LIFE จังหวะดุ่มๆ slow ให้บอสได้ถ่ายทอดเต็มๆ เป็นการพรรณนาถึงชีวิตที่เก่งมาก ไม่ต้องใช้ภาษาที่ซับซ้อน แค่นี้ก็เข้าใจง่าย โยงกับอัลบั้มได้อย่างแนบเนียน ประหนึ่งการมองโลกของวัยรุ่นเริ่มเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ นิทานหรือละครที่เราเคยเสพย์ปลูกฝังความเชื่อเรื่อง ความสุขมองหาได้ไม่ยาก คงเป็นความเชื่อที่โลกสวยจริงเชียว
-ชีวิตไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด ทุกวันนี้เราอาจจะฝืนยิ้มไปวันๆก็ได้ ชอบท่อนจ่าหน้าซองถึงความสุขมากๆ ราวกับว่าคนแต่งเองยังตามหาความสุขไม่เจอเลย เป็นการงัดคำจากชื่ออัลบั้มออกมาหมดแล้ว นี่แค่ครึ่งอัลบั้มเท่านั้น ครึ่งหลังต่อจากนี้อาจทำให้คุณมองคำ 3 คำเปลี่ยนไปก็เป็นได้
นี่คือจดหมาย ถึงความสุข
สบายดีไหมอยู่ตรงนั้น
LIFE - LAAN
-PAREIDOLIA เนื้อเพลงสั้นจุ๊ดจู๋ประหนึ่งกลอนสั้นใน Interlude ตอนแรกมาแบบลอยๆ จน Verse 2 ซัดลูกเล่น distortion อย่างโหด พลิกบริบทความละเมอเพ้อพบจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที จริงๆชอบตั้งแต่การหยอดคลื่นเสียงในอินโทรล่ะ ได้กลิ่นความเดือด แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
#แพริโดเลีย คืออาการทางจิตที่เราเห็นสิ่งของต่างๆเป็นหน้าคนโดยอัตโนมัติ ซึ่งไม่ใช่ความผิดปกติแต่อย่างใด มันคือกระบวนการปรุงแต่งของสมองอันเกิดจากการจินตนาการในหัวเราก็เท่านั้น เนื้อเพลงวนเวียนแค่ 4 ประโยคที่ฟังดูเผินๆเหมือนคนที่ยึดติดกับใครบางคนจนมองเห็นใบหน้าเขาล้อมรอบไปทั่ว ที่ไหนก็เจอ
-พอได้มาดูเอ็มวีก็พอเติมเต็มความคิดบางอย่างถึงการก้าวข้ามวัยของคนที่เพิ่งจบการศึกษามาหมาดๆ กว่าจะสวมชุดครุย เราถูกพรากความเยาว์ไว้ตั้งมากมาย การไหลไปตามระบบกลับทำให้ตัวเราเองถูกระเหยกลางอากาศได้เช่นกัน
พื้นที่ตรงนี้สามารถ Tie-In โฆษณาได้ สินค้า บริการ ครีมได้หมด (ยกเว้นของผิดกฏหมาย)
สนใจโฆษณาลงบนโพสต์ของเพจที่มีผู้ติดตามมากกว่า 16,000 คน
และ ใน Blockdit 230 Followers
ติดต่อได้ที่อีเมล์ 💌 iamistyle.4real@gmail.com
-317 ไม่ใช่รหัสลับอะไร แค่พลิกกลับด้าน ท่านจะเห็นเป็นคำว่า LIE แทน (แนวคิดล้ำป่ะละ) พาร์ทครึ่งหลังคือความขรุขระที่ต้องเจออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หนึ่งในนั้นคือการโกหก คำลวงของคนที่มาสั่นคลอนความเชื่อบางอย่างของเรา บางทีการเบลอความจริงที่อาจทำให้เราดันรับไม่ได้ ใช้ชีวิตแบบปิดหูปิดตา คงเป็นตัวเลือกในการทำให้ตัวเองรู้สึกดีไปวันๆก่อน
-ในขณะเดียวกันการที่เราเลือกจะโกหกไปเรื่อยๆเพียงเพราะคิดว่า ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่มาก ไอ้ความเชื่อแบบนั้นมันทำให้นิสัยเสียของเราพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ จนอาจจะเป็นความชิบหายในที่สุดก็เป็นไปได้
-แทร็คที่แล้วก็ซ่อนความเซอร์ไพรส์แล้ว เพลงนี้คือแหวกสุด บอสซ่าที่ติดกลิ่นความคลางแคลงใจ ไม่ชอบมาพากลเลยแม้แต่น้อย อิทธิพล #บันไดสีแดง พี่ฮิวโก้มาเต็ม แต่พวกเด็กๆกลับใช้ความเนิร์ดของตัวเองในการเล่นคำ ไปจนถึงเอ็มวีที่ weird ได้อีก
-ECHO ซาวนด์กีตาร์ไฟฟ้าในท่อนอินโทรโคตรมา มีความสากดิบๆหน่อยๆ เป็นความเซอร์ไพร์สที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นความคุกกรุ่นจากวงโฟล์คผู้มีสุ้มเสียงเรียบร้อยและเนิร์ดกว่าวงอื่น เป็นเพลงที่จัดเต็มภาคดนตรีได้จัดจ้านที่สุด เป็นการบอกเล่าบริบทของเสียงในหัวใจที่โดนกดทับจนไม่สามารถ express ความต้องการของตัวเองได้เต็มที่มากนัก
-มีหลากอารมณ์ปนอยู่ในนั้น ไม่ใช่แค่ความกลัว มีพาร์ทของความกล้า โจนทะยานแบบเดียวกับที่เห็นในเพลง LIBERTY แต่เพลงนี้แอบมีเสียงสองจากคลิปไลฟ์โค้ชปลุกใจคลอกับพาร์ทดนตรีที่โลดแล่นอย่างแรงกล้า แล้วทิ้งความ tense ไว้ยาวๆเป็นปลายเปิดไปเลยว่า ผลของการปลุกเสียงในใจให้กลับมาก้องกังวานนั้นจะดีหรือร้ายกันแน่ เป็นเพลงโชว์ของยาวที่สุดในอัลบั้มที่อยากให้เจอแบบนี้อีกในอัลบั้มต่อๆไป
-TLD (To Last Day) ผมได้รู้ที่มาของเพลงนี้จากงาน listening party ถึงกับน้ำตาตกใน เพราะทางวงได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวของคุณแม่ที่ต้องดีลกับการสูญเสียของลูกสาวที่ได้ตัดสินใจลาโลกด้วยตัวเอง เป็นการถ่ายทอดมุมมองของคนที่คิดถึงคนบนฟ้าได้ซึ้งจนเห็นภาพ อาจมีบ่อน้ำแตกได้
-ปิดท้ายด้วย w. (#พอ) ที่ทิ้งท้ายด้วยความอ่อนล้าของหัวใจ ราวกับชีวิตต้อง take a break เสียบ้าง เรื่องของอดีตที่เจ็บปวดคือสายลมมรสุมที่เกิดขึ้นแค่บางคราว ไม่ได้เกิดขึ้นตลอดไป ร้องไห้ให้พอ แล้วเดินต่อ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องกลับไปร้องไห้เสียใจอีก
-เป็นเพลงชะล้างที่ดีต่อใจมากๆ โดยเฉพาะวลีภาษาที่ไม่ใจร้ายใจดำเกินไป อีกอย่างคอรัสที่ทรงพลัง เสียงร้องของคุณเบลมีความเป็นพื้นบ้านมากๆ แต่ปลอบโยนคนฟังได้ดียิ่งยวด เป็นการปิดอัลบั้มที่เหมาะเหม็งพอที่ทำให้คนฟังได้หายใจยาวๆสะดวกท้อง โดยที่มีแรงใจก้าวไปข้างหน้าหลังอัลบั้มนี้ได้จบไป
-ไม่คิดเลยว่าจะเขียนถึงเดบิวท์อัลบั้มของศิลปินหน้าใหม่ได้จัดหนักขนาดนี้ ยอมรับเลยว่าเด็กๆพวกนี้โคตรเก่ง เต็มเปี่ยมไปด้วยใจรัก พลังงานอิสระ ความคิดที่แอดวานซ์ในระดับที่ล้ำลึกทางเนื้อหาอย่างคาดไม่ถึง เคยพูดถึงในเพจไปตั้งหลายครั้ง บางทีผมต้องถามพวกเขาในบางเพลงเลยว่า ทำไมต้องชื่อนี้ พวกเขากลับสร้างเอกลักษณ์ทางภาษาได้ตั้งแต่เยาว์วัยเลยด้วยซ้ำ
-อีกอย่างที่อยากจะพูดคือ การจัดเรียงคอนเซ็ปท์ที่สมเหตุสมผล อิงกับความเป็นจริงอยู่ไม่น้อย ปกติอัลบั้มที่ว่าด้วยการใช้ชีวิตที่เริ่มต้นด้วยความรัก แล้วต้องจบด้วยการปลดแอกทางอิสรภาพที่หอมหวานไม่ใช่หรอ ถ้ามองแบบนั้นคงเป็นสูตรสำเร็จทางภาพยนตร์ไปหน่อย
-จริงๆแล้วการเริ่มต้นด้วย LIBERTY แทร็คแรกนั้นประหนึ่งคนอยากจะออกจากเซฟโซนมากๆ ใช้คำสุดท้ายของอัลบั้ม LIFE มาวางไว้ตรงครึ่งกลางอัลบั้มเลย แสดงด้วยภาวะติดหล่มของชีวิตที่ยังไม่ค้นพบความสุขที่แท้จริง แล้วจบอัลบั้มด้วยคำว่า #พอ อันเป็นการแสดงท่าทีเหนื่อยหน่าย แตะเบรค ให้น้ำตาแห่งบทเรียนอาบแก้มให้พอก่อนที่จะก้าวต่อไป
-ที่เอามาย้ำกันซักรอบเพื่อจะสำรวจความคิดๆของเด็กๆที่มองโลกได้เรียลจริงๆ ถ้าความรักเป็นส่วนเติมเต็มชีวิต อิสรภาพของชีวิตต้องเป็นอะไรที่หอมหวาน เด็กๆน่าจะหักล้างความคิดเหล่านั้นอย่างไม่ปราณี ไม่รู้ว่ามุมมองของผมจะตรงกับเด็กๆมั้ย แต่ประสบการณ์ร่วมของผมดันบอกแบบนั้น แล้วดัน connect กับสิ่งที่เด็กลานเค้าจัดเรียง
-นี่เป็นอัลบั้มที่คุยกับผมมากพอสมควร แล้วผมก็สามารถป้ายยาให้ผู้อ่านได้เลยว่า นี่คือตัวอย่างกลุ่มศิลปินนิวเจนที่ทำเพลงมาเพื่อเป็นที่พึ่งทางใจให้กับวัยรุ่นวัยทำงานอย่างแท้จริง ความไหลลื่นวาไรตี้ของแนวเพลงไม่วนโฟล์คซองอคลูสติค กล้าที่จะขยาย scope ไม่วน minimal แบบ Outside The Box ก็พอไว้ใจได้เลยว่า พวกเขาจะออกจากล่องใบต่อๆไปได้แน่
ลานแห่งความทรงจำเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว
Give 8/10
Thx 4 Readin’
See Y’all
โฆษณา