15 พ.ค. 2022 เวลา 06:42 • ไลฟ์สไตล์
ขอเล่าเรื่องหน่อย ช่วงนี้เราเห็นคนที่เริ่มต้นจากศูนย์เยอะ เลยอยากเอาเรื่องชีวิตที่เริ่มต้นจากติดลบมาแบ่งปัน
เอาเป็นว่าขอให้บทความนี้เป็นพื้นที่ระบายความในใจของผมหน่อยแล้วกัน
เริ่มเรื่องมาที่ตัวเรา เกิดมาให้ครอบครัวที่มีฐานนะปานกลางค่อนไปทางต่ำ ในชีวิตตอนวัยเด็กมาด้วยความสนุกสนานอยู่ตลอดใช้ชีวิตไปวันๆคิดว่าเรียนจบโตไปก็จะใช้ชีวิตสบายๆคงไม่มีอะไรมาก ภาพที่คิดไว้คือเรียนจบทำงานหาเงินเรียนจบมาเงินเดือนขั้นต่ำ15,000 แบ่งสันปันส่วนสบายๆชีวิตไม่ต้องการอะไรที่หวือหวาอยู่แล้วชิวๆ
ตัดภาพมาความเป็นจริง อายุ18 ก่อนเข้ามหาลัยวันนั้นจำได้ดี มีป้าคนหนึ่งที่เราเห็นมาตั้งแต่เด็กที่คอยมาบ้านเราอยู่ตลอด ตอนเด็กๆก็คิดว่าเขาคงเข้ามาหาแม่มาคุยกับแม่แบบเพื่อนบ้าน แท้จริงแล้วเขาคือเจ้าหนี้ ระหว่างเดินเข้าบ้านมาหลังจากออกไปเที่ยวเล่นตามภาษาวัยรุ่น ป้าคนนี้ได้เดินสวนทางกับเขาแล้วบอกว่าตั้งใจเรียนจบมาจะได้ทำงานช่วยแม่ใช้หนี้ ความรู้สึกตอนนั้นคือ เช็ดเป็ดแม่มีหนี้ด้วยหรอวะ
เลยเดินเข้าบ้านมาถามแม่แล้วแม่ก็บอกว่ามีอยู่นิดหน่อย เป็นเด็กยังไม่ต้องรับอยู่หรอกรับรู้ไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ เราก็เริ่มตะหงิดๆใจละว่ามันเยอะแค่ไหนกันแต่ เราก็เริ่มปรับปรุงตัวละ พอเข้ามหาลัยก็เริ่มมองหาอาชีพเสริมที่ไม่มาส่งผลต่อการเรียน แต่มันก็หายากเพราะตอนเข้าไปปี1กิจกรรมของมหาลัยมีค่อนข้างเยอะ พอเวลามาถึงจบปี1แม่บอกว่าค่าเทอมรอบนี้แม่ยังไม่มีนะรอเปิดเทอมค่อยไปจ่าย เราก็เริ่มใจคอไม่ดีละ
งานพาสไทม์ก็ยังไปทำไม่ได้จะทำอะไรดีเงินที่เก็บสะสมจากค่าขนมที่แม่ให้ไปเรียนมีอยู่4000ไม่พอแน่นอนขาดอีกบานเลย ก็พยายามหาอะไรที่สามารถทำได้โดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อเวลาในการใช้ชีวิตมากจนได้มาเจอกับกุ้งเครฟิช
จึงได้ทำการศึกษาอย่างจริงจังและได้ทบรองซื้อน้องมาเลี้ยงด้วยเงิน1,000บาท ซื้ออุปกรณ์ที่ต้องเลี้ยงน้องมาอีก500บาท เลี้ยงได้15วันน้องลอกคราบ อาจจะเป็นเพราะดวงดีหรืออาจจะเป็นเพราะสายตาที่เฉียบคมของเรา
ที่ได้ทำงานเลือกน้องมา น้องลอกคราบออกมาสวยมีวงกลมๆสีตามตัวเลยได้ทำการถ่ายรูปน้องและเอาไปโพสในกลุ่มกุ้งเครฟิช และมีพี่ๆหลายๆคนมาขอซื้อ สรุปขายน้องไปที่ราคา4,500บาท
บอกตรงๆงงและดีใจมาก15วันกำไร3,000บาทเราได้เจอทางสว่างแล้วมีเวลา2เดือนก่อนมหาลัยเปิด
ดูเงินในกระเป๋าตัวเองแล้วของเก่ามี3,000อยู่บ้านกินของที่บ้านไม่มีค่าใช้จ่ายเงินขายน้องอีก4,500 รวม7,500 เอาหละเราต้องเดินหน้าเต็มกำลัง เราได้ทำการคัดเลือกน้องๆกลุ่มต่อไปจนไปเจอน้องกุ้งของพี่ท่าน1ในกลุ่มเขาลงขายตัวละ300 40ตัว10,000บาท พ่อแม่ ลูกหน้าจะออกมาสวยแน่นอน แต่เงินไม่พอทำไงดี ที่พึ่งสุดท้ายคือแฟน เลยได้ทำการยืมแฟนมาซื้อน้องๆ ซื้อมาเลี้ยงได้50กว่าวัน
สีน้องๆเริ่มออก เหมือนเดิมเลยครับถ่ายรูปโชว์ในกลุ่ม ขายน้องๆออกหมดทุกตัวได้เงินมา80,000บาท ให้แฟนไป5,000 แม่5,000
จ่ายค่าเทอมของเก่าและใหม่ไป30,000 เก็บไว้เผื่อฉุกเฉิน10,000บาท เท่ากับว่าเหลือเงินลงทุนได้30,000บาท เราก็เริ่มเดินหน้าเต็มกำลัง ซื้อน้องมาใหม่จากพี่คนเดิม 120ตัว พี่เขาคิดเรา22,000บาท เราก็เลี้ยงไปกะว่าหน้าจะได้อยู่นะ แต่โชคเข้าข้างเรา ตอนอายุน้องๆครบ2เดือน กระแสการเลี้ยงกุ้งเครฟิช
กำลังมาแรงจากที่เคยขายได้ตัวละพันกว่าบาทกลายเป็นตัวละ 2-3พันบาท ตัวไหนสวยกว่าชาวบ้านได้ตัวละ7-8พันบาท เราเลี้ยงน้องรอดมาได้110ตัวตุยไป10ตัว เขาก็น้ำน้องๆมาโพสโชว์ในกลุ่มสตายเดิม มีพี่ๆขอซื้อจำนวนมากเลยตัดสินใจเปิดประมูล จนน้องๆย้ายบ้านไปเกลือบหมดได้เงินมา400,000บาท
เราก็เริ่มเอาเงินที่ได้มาจากการขายน้องๆเราช่วยเหลือตัวเองละ ไม่เอาเงินค่าขนมที่แม่ เก็บไว้จ่ายค่าเทอมตัวเอง แบ่งให้แม่ไปใช้หนี้ จากเด็กที่มาเรียนมหาลัยสายคอมที่เรียนมายั้นปี2ที่ไม่เคยมีโน๊ตบุ๊คของตัวเอง มาเรียนวันแรกเคยใช้ โทรศัพท์ที่แลกมาจากบูท500บาท เราก็ได้ซื้อโน๊ตบุ๊คเอาไว้เรียนโทรสัพใหม่เอาไว้ถ่ายรูปน้องกุ้งจะได้ชัดขึ้น
และแบ่งเงินไว้ลงทุนต่อไป ทำวนไปจนตลาดวาย เหลือเงินเก็บอยู่1ล้านบาท ก็คิดว่าเอาหละที่ผ่านมาก็ให้แม่ใช้หนี้มาเยอะแล้ว
เงินตรงนี้คงอยู่ยั้นเรียนจบ แต่ชีวิตเราไม่ได้สวยหรูขนาดนั้น พอมีเงินเยอะแม่เห็นว่าเราหน้าจะรับรู้ได้แล้วเรื่องหนี้สิน สรุปไม่ได้เป็นอย่างที่คิด
แม่มีหนี้สินค้าบ้าน ค่ารถยนต์ หนี้ข้างนอกอีกมากมาย เราก็เลยตัดใจคิดว่ามันหมดแน่1ล้านไม่พอแน่ แล้วก็จริงๆ แม่เราใช้หนี้ข้างนอกเกลือบหมด แต่ก็ยังเหลือหนี้ในระบบอีก และเขาคิดว่ารายได้ที่มีคงพอแล้วเลยแบ่งเงินไปซ่อมแซมบ้านอีกหลัง หลังที่เราไม่ได้ไปอยู่
แต่เป็นบ้านที่ยายพูดว่าจะมอบให้ ย้ำว่าพูดว่าจะมอบให้ ไอเราเป็นเจ้าของเงิน ก็เลยออกความเห็นว่าใช้หนี้และอยู่เฉยๆให้หนี้หมดก่อนอยากทำไรค่อยทำ แต่แม่เราพูดมาว่าเขาว่าหน้าจะไม่มีปัญหานะ ด้วยความที่เรารักแม่และความคิดที่ยังเด็กเลยใช้แม่จัดการ เป็นอย่างที่ทุกคนคิดครับ
บ้านที่ปลูกใหม่อยู่ไกลไม่ได้อยู่ แม่ทะเลาะกับยาย บ้านหลังนั้นก็ไม่ได้อยู่และมียาทๆที่แสนใจดีเข้ามาอยู่แทนดูแลบ้านให้ สรุปเงินเราเอาไปทำความสุขให้คนอื่นซะงั้นคิดว่ามันเป็นความสุขของแม่กลายเป็นซื้อความทุกข์ให้แม่เพิ่ม เรื่องนี้เราได้บทเรียนมา1อย่างละ จำขึ้นใจเลยถ้ามีโอกาศมีเงินอีกจะไม่เชื่อใจใครละ ต้องทำด้วยตัวเองตัดสินใจด้วยตัวเอง
และผมก็ใช้ชีวิตแบบสบายๆอีกครั้งเพราะได้แบ่งส่วนเงินไว้สำหรับค่าใช้จ่ายของตัวเอง แต่โลกไม่ได้สวยงามแบบนั้น แม่เรารายได้ลดลงเรื่อยๆทำให้มีเงินไม่เพียบพอสำหรับรายจ่าย เราก็กลับมาเคลียดอีกละจะทำไงดีหนอ
จนไปเจอเกมส์ออนไลน์เกมส์หนึ่งที่โด่งดังในขณะนั้น เกมส์อะไรดรอปกาดใบเดียวขายได้เป็นแสน เราก็เลยเข้าไปศึกษาแล้วรองเล่น เงินได้เงินในเกมส์แล้วก็ขาย ผสมของมาขาย ใช้เวลาเล่น และเรียนไปด้วย ประมาณ8เดือนเราได้เงินxxx,xxxมาอยู่ในมืออีกแล้ว รอบนี้หละเราต้องไปต่อต้องไม่กลับไปสภาพเดิมแล้ว เราเลยตัดสินใจ เปิดใจคุยกับแม่และถามถึงหนี้ทั้งหมด ได้ข้อสรุปว่าบ้านจะหมดแล้วไม่เป็นไรส่งต่อไป รถจะหมดแล้วไม่เป็นไร
เราเลยเอาเลยจะไล่ปิดหนี้ข้างนอกให้แม่เราเหลือเงินอยู่ประมาณ ...แสนบาท เราก็คิดละเราต้องหาอะไรลงทุนเพิ่ม เพื่อต่อยอด แบ่งเงินไว้กิน50/50
เพราะตอนนั้นไม่คิดว่ามีรายจ่ายอะไรมากละเต็มที่ก็ช่วยแม่จ่ายไม่เยอะ และชีวิตก็เล่นตลก 2019 มีโรคระบาท
แม่เราเป็นร้านเสริมสวยต้องปิดร้าน เราต้องคอยเอาเงินไว้เป็นค่าใช้จ่ายเราก็ได้มองหาอะไรที่ทำให้เราจะมีรายได้ระหว่างนี้ จนไปเจอกัน crypto และอีกอันคือวงการพระเครื่อง
cprypto เราดอย ส่วนพระเราก็พอมีเงินมาหมุนกำไรเรามากินใช้ใช้ชีวิตเรื่อยๆจนมาเจอ เกมส์ nft เราเหลือเงินที่สามารถลงทุนได้อยู่ 6,000บาท
โชคเข้าข้างเราอีกแล้ว เราได้เงินจากมันมา6หลักปลายๆ เรามากินใช้และทำทุระกิจพระ ล่าสุดพระเราโดนคนกลางโกง เหลือเงินอยู่นิดหน่อยเลยซื้อทองเอาไว้เก็งกำไร และตอนนี้เราไม่รู้จะทำอะไร เราควรไปทางไหนต่อดีหนอ ใครนั่งฟังเราบ่นมาถึงตรงนี้เราขอขอบใจมากไปแล้วนะไว้เรานึกเรื่องอะไร
ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตออกเราจะมาบ่นให้ฟังอีกนะ
อ๋อเราลืมสรุปให้ฟัง สรุปคือบ้านเราหมดหนี้แล้วนะ แต่ตอนนี้เรายังหาทางไปต่อไม่เจอ กำลังคิดว่าจะทำงานประจำดีหรือจะทำอะไรดีในสถานการณ์แบบนี้
โฆษณา