15 พ.ค. 2022 เวลา 12:51 • กีฬา
ถ้าวันนั้นอันโตนิโอ คอนเต้ เลือกไปแมนฯ ยูไนเต็ด ชีวิตของทีมปีศาจแดงจะเป็นอย่างไร จะดีกว่านี้หรือไม่ นี่คือบทวิเคราะห์สิ่งที่ไม่เกิดขึ้น
Sliding doors moment เป็นสำนวนที่หมายความว่า "ถ้าวันนั้นฉันทำอีกอย่าง ชีวิตป่านนี้จะเป็นอย่างไรนะ?"
จุดเริ่มต้นของสำนวนนี้ มาจากภาพยนตร์เรื่อง Sliding Doors นำแสดงโดยกวินเน็ธ แพทโทรว เล่าเรื่องของนางเอกชื่อเฮเลน กำลังรีบวิ่งขึ้นรถไฟใต้ดินเพื่อกลับบ้าน ในจังหวะเดียวกับที่ประตูเลื่อนของรถไฟฟ้ากำลังจะปิด
จากนั้น หนังจะทำการแยกเป็น 2 เส้นทาง ในเรื่องเดียว คือ
- เส้นทางที่ 1 เธอวิ่งทันประตูเลื่อนที่กำลังจะปิดแล้วขึ้นรถไฟฟ้าได้อย่างฉิวเฉียด ทำให้เธอกลับบ้านมาเร็ว แล้วเจอแฟนหนุ่มกำลังเล่นชู้ นอนกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ จึงขอเลิก แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่
- เส้นทางที่ 2 เธอวิ่งขึ้นไม่ทัน แล้วรถไฟฟ้าขบวนต่อไปดันเสียพอดี ทำให้เธอต้องออกจากสถานีมาหาแท็กซี่แทน แต่ก็มาโดนคนร้ายวิ่งราวกระเป๋าจนล้มหัวแตกต้องไปโรงพยาบาล กว่าจะกลับถึงบ้านก็เลทไปเป็นชั่วโมง ตอนนั้นแฟนหนุ่มมีอะไรกับชู้เสร็จแล้ว ทำให้เฮเลนไม่รู้ว่าโดนนอกใจ จึงคบต่อแบบถูกสวมเขาไปเรื่อยๆ
หนังจะเล่าเรื่องชีวิตของเฮเลนใน 2 เส้นทางขนานกันไป โดยทำให้คนดูได้เห็นว่า แค่เพียงเหตุการณ์โมเมนต์เดียว (ขึ้นรถไฟทัน กับ ขึ้นรถไฟไม่ทัน) ทำให้ชีวิตของเธอแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ฟุตบอลอังกฤษในฤดูกาลนี้ Sliding doors moment ที่คนพูดถึงกัน คือเรื่องการตัดสินใจไม่เซ็นสัญญาอันโตนิโอ คอนเต้ ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งมันส่งผลให้คอนเต้เลือกไปคุมสเปอร์สแทน
พอคอนเต้ไปสเปอร์ส ทำให้ทีมไก่เดือยทอง มีลุ้นไปแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลหน้า แฮร์รี่ เคน กลับมาคืนฟอร์ม และซน ฮึง-มิน มีลุ้นดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก ตรงข้ามกับแมนฯ ยูไนเต็ด ที่หมดลุ้นไปแชมเปี้ยนส์ลีก 100% แล้ว เผลอๆ ยูโรป้าลีกจะไม่ได้ไปเอาด้วย
1
คำถามคือ "ถ้าวันนั้นแมนฯ ยูไนเต็ด เลือกคอนเต้ ชีวิตพวกเขาจะเป็นอย่างไรนะ?" แน่นอน สิ่งนั้นมันไม่มีทางเกิดขึ้นแล้ว แต่คนก็อดคิดไม่ได้ว่า อย่างน้อยก็น่าจะดีกว่ายุคราล์ฟ รังนิกแน่ๆ
ย้อนกลับไปวันที่ 24 ตุลาคม 2021 โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กำลังเจอวิกฤติ เมื่อพาทีมไม่ชนะใคร 4 นัด ติดต่อกัน และเกมที่สร้างความอัปยศที่สุด คือการแพ้ลิเวอร์พูลคาบ้าน 5-0 พวกเขาจมอยู่อันดับ 7 ของตารางคะแนน คือหมดลุ้นแชมป์อย่างรวดเร็วทั้งๆ ที่ยังเริ่มซีซั่นไม่ถึง 10 เกม
ในเวลาเดียวกัน สเปอร์สเองก็ฟอร์มไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก โค้ชใหม่นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ ชนะคู่แข่งได้ฉิวเฉียดนัดละลูก แต่พอแพ้ที ก็โดนยิงนัดละ 3 ลูก ในหมู่แฟนบอลก็คุยกันว่า นูโน่ ไม่น่าใช่คำตอบ ที่จะทำให้สเปอร์สประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน
ณ เวลานั้น ในตลาดผู้จัดการทีมทั่วยุโรป มีโค้ชระดับท็อปเพียง 2 คนที่ว่างอยู่ คนแรกคือซีเนอดีน ซีดาน ที่ยังไม่มีแนวโน้มจะกลับมาคุมทีมในตอนนี้ กับอีกคนคือ อันโตนิโอ คอนเต้ ที่เพิ่งลาออกจากอินเตอร์ มิลาน
1
เมื่อพูดถึงคอนเต้แล้ว ทุกคนทราบดีว่าเขาคือผู้ชนะตัวจริง เขาคว้าแชมป์เซเรีย อา สามสมัยซ้อนกับยูเวนตุส ตามด้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกกับเชลซี และ เซเรีย อา อีกรอบกับอินเตอร์ มิลาน ด้วยผลงานระดับนี้ คอนเต้ไม่ต้องพิสูจน์อะไรอีกแล้ว แกะซองพร้อมกินได้เลย
6
หลังจากได้แชมป์ลีกกับอินเตอร์ ในฤดูกาล 2020-21 คอนเต้ขัดแย้งกับเจ้าของสโมสร ที่ไม่ยอมเสริมทัพตามที่สัญญาเอาไว้ ทำให้เขาประกาศลาออก กลายเป็นฟรีเอเยนต์ว่างงาน ซึ่งก็กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะย้ายไปคุมสโมสรไหนดี
1
อัลเฟรโด้ เปดุลล่า นักข่าวจากกัซเซตต้า เดลโล่ สปอร์ต รายงานว่า ทีมแรกที่คอนเต้สนใจอยากมาคุมเป็นอันดับแรกเลย คือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะเป็นทีมใหญ่ ฐานแฟนคลับแน่น และมีเงินทองซื้อนักเตะตัวที่เขาต้องการ
1
คอนเต้ออกตัวแรง ถึงขนาดให้เอเยนต์ส่วนตัวไปคุยกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมาแล้วด้วย คือถ้าทีมปีศาจแดงยื่นข้อเสนอปั๊บ เขาก็พร้อมย้ายไปคุมทีมทันที
ตรงนี้ล่ะ คือทางแยกสำคัญของแมนฯ ยูไนเต็ด เป็น Sliding Doors Moment ว่าพวกเขาจะเลือกอย่างไร ซึ่งคำตอบจากผู้บริหาร ที่นำโดยเอ็ด วู้ดเวิร์ด ตัดสินใจว่า "ไม่เอาคอนเต้"
2
เดลี่ เทเลกราฟ อธิบายเหตุผลว่า ที่แมนฯ ยูไนเต็ดปฏิเสธชอยส์นี้ หลักๆ มี 4 ข้อ
ข้อ 1 มองว่าคอนเต้ไม่เหมาะกับการสร้างทีมขึ้นมาใหม่ตั้งแต่ต้น เหตุผลแรกคือคอนเต้ ไม่เคยคุมทีมไหนนาน แป้บๆ ก็มีปัญหาขัดแย้งกับผู้บริหาร แล้วไม่เกิน 3 ปีก็ย้ายออก ดังนั้นถ้าเลือกคอนเต้จริงๆ แล้ว 3 ปีคอนเต้เลือกย้ายหนี สิ่งที่สโมสรอุตส่าห์จะก่อร่างสร้างขึ้นมา ก็พังทลายไปเลย
3
สโมสรมองว่าตัวเลือกที่เหมาะสม คือคนที่จะวางรากฐานของทีมได้ในระยะยาว ถ้าไม่ยึดมั่นโซลชาเอาไว้ ก็ต้องเป็นคนอื่นเลย แต่ไม่ใช่แนวมือปืนแบบคอนเต้
1
ข้อ 2 คอนเต้ เป็นพวกท้าชน จนทะเลาะกับนักเตะในทีมตัวเองบ่อยๆ เขาเคยโดนดีเอโก้ คอสต้า และ วิลเลียน เปิดหน้าด่า แบบเสียๆ หายๆ มาแล้ว วิลเลียนเคยให้สัมภาษณ์ว่า "เขามักจะลงเอยด้วยการทะเลาะกับนักเตะ แม้แต่ตัวผมก็ยังโดน เขาไม่เข้าใจว่า ในทีมฟุตบอลหนึ่งทีม จะมีนักเตะบางคนที่ควรได้รับเกียรติในฐานะสตาร์ เป็นผู้เล่นคนสำคัญ คอนเต้ไม่สนใจตรงจุดนี้เลย"
2
คอนเต้เป็นพวกท้าชน นักเตะจะแน่มาจากไหน ชื่อเสียงดังเท่าไหร่ ถ้าเขาคุมทีมแล้ว ก็ต้องฝึกหนักเท่ากับคนอื่น หรือทำตามข้อบังคับของเขาทุกอย่าง ซึ่งในมุมของวิลเลียนนั้น ถ้าแมนฯ ยูไนเต็ด เอาคอนเต้ จะต้องมีปัญหาในห้องแต่งตัวแน่ เพราะนักเตะหลายคนคงไม่ยอมฟังกันง่ายๆ หรอก
กลวิธีในการบริหารทีมของคอนเต้ ถูกเรียกว่า Uncompromising Approach หรือความเฮี้ยบในระดับที่ไม่ยอมยืดหยุ่น เป็นที่ทราบกันว่า คอนเต้จะจุกจิกมาก แม้กระทั่งเรื่องในโรงอาหาร เขาจะสั่งแบนทั้งซอสมะเขือเทศ และมายองเนส เพราะนักโภชนาการระบุว่า ไม่ดีต่อร่างกายนักกีฬา รวมถึงออกคำสั่งห้ามนักกีฬากินพิซซ่า และ แม็คโดนัลด์นอกบ้านด้วย
1
ผู้บริหารแมนฯ ยูไนเต็ด มองว่า ในทีมแมนฯ ยูไนเต็ด มีผู้เล่นชื่อเสียงโด่งดังมากมาย ถ้าหากเจอคนที่แข็งเฮี้ยบ ไม่มีศิลปะในการโอนอ่อนเข้าไป ทีมอาจจะพังมากกว่าเดิม
ข้อ 3 คือ คอนเต้เป็นคนซ้อมหนักมากที่สุด นักเตะหลายคนพูดตรงกันว่าโหดมาก
2
ตัวอย่างเช่น ติเอมูเอ้ บากาโยโก้ ผู้เล่นของเชลซีเคยเล่าให้ฟังว่า "บางครั้งคุณรู้สึกได้เลยว่า ตอนซ้อมหนักกว่าตอนแข่งจริงอีก เราต้องใช้พลังงานมหาศาลในเซสชั่นการซ้อมของคอนเต้ นั่นล่ะ คือสิ่งที่เขาต้องการให้เราทำทุกๆ วัน"
หรือจอร์โจ้ คิเอลลินี่ กองหลังยูเวนตุสกล่าวว่า "ตอนคุณซ้อมเสร็จนะ คุณไม่ได้แค่เหนื่อย แต่คุณตายไปเลย เหตุการณ์มันซ้ำแบบนั้นทุกวัน ทุกเซสชั่นการซ้อม เขาจะตรวจตราคุณเหมือนเป็นตำรวจก็ไม่ผิด"
คอนเต้ จะมีโค้ชฟิตเนสในตำนาน ชื่ออันโตนิโอ ปินตุส ที่ช่วยกันพาทีมได้แชมป์ลีกที่อินเตอร์ มิลาน พอคอนเต้ลาออกจากอินเตอร์ ทำให้ปินตุสย้ายไปเรอัล มาดริด แต่ก็เชื่อว่า ถ้าแมนฯ ยูไนเต็ด ตัดสินใจเซ็นคอนเต้เข้ามาจริงๆ ปินตุสอาจยอมลาออกจากเรอัล มาดริด เพื่อจะได้ร่วมงานกับคอนเต้อีกครั้งที่ทีมปีศาจแดง ซึ่งถ้าปินตุสมาจริงล่ะก็ การซ้อมจะหฤโหดแบบยากจินตนาการเลยทีเดียว
1
มีรายงานว่า ผู้บริหารของแมนฯ ยูไนเต็ด มีความกังวลใจว่า ถ้าได้คอนเต้ แล้วทีมจะกลายเป็นฟุตบอลที่เน้นความฟิตเป็นหลัก มากกว่าเน้นเรื่องเทคนิคและความสวยงาม ซึ่งถ้าเล่นบอลไม่สวย ก็อาจตีตลาดคนดูในระดับโลกได้ยาก
และข้อ 4 คือเรื่องแท็กติกการเล่น คอนเต้เป็นพวกที่มีเป้าหมายหลัก คือ "ต้องชนะ" ให้ได้เท่านั้น หลายๆ เกมเขาพร้อมวางเกมรับอย่างไม่อาย ถ้ามันจะนำมาซึ่งผลการแข่งขันที่ต้องการ แต่นั่นไม่ใช่คาแรคเตอร์ของแมนฯ ยูไนเต็ด ที่ต้องเล่นเกมรุกสวยงาม ผู้จัดการทีมในอุดมคติควรเป็นแบบที่แมนฯ ซิตี้ ใช้กวาร์ดิโอล่า หรือ ลิเวอร์พูลใช้คล็อปป์ต่างหาก
แกรี่ เนวิลล์ เคยให้สัมภาษณ์ว่า "ขนาดโชเซ่ ที่เป็นผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดในโลก ยังไม่สามารถทำแมนฯ ยูไนเต็ดไปถึงแชมป์ลีกได้ ดังนั้นผมก็คงไม่เอาคอนเต้เข้ามาเหมือนกัน เขาไม่น่าจะเหมาะกับยูไนเต็ดหรอก ผมอาจจะผิดก็ได้ แต่ไม่คิดว่าคอนเต้คือคนที่ใช่"
1
จากเหตุผล 4 ข้อดังกล่าว ประกอบด้วย
- ขัดแย้งกับผู้บริหารง่าย ไม่เคยคุมทีมไหนได้นาน
- แข็งกร้าวกับนักเตะไม่โอนอ่อน
- ซ้อมโหดหนัก เน้นความฟิต
- สไตล์การเล่น เน้นที่เป้าหมายก่อนความสวยงาม
ทุกอย่างรวมกัน ทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ยื่นข้อเสนอไปให้คอนเต้พิจารณา และยึดมั่นกับโอเล่ กุนนาร์ โซลชาต่อไป
จริงๆ แล้วยังมีโอกาสอีกครั้งที่ทีมปีศาจแดงจะเอาคอนเต้ คือหลังจากแพ้ลิเวอร์พูล 5-0 นัดต่อมา พวกเขาต้องไปเยือนสเปอร์สที่ลอนดอน หลายคนเชื่อว่า ถ้าแมนฯ ยูไนเต็ดแพ้สเปอร์ส โซลชาก็คงโดนไล่ออกแน่ๆ แล้วถึงตรงนั้น แม้ผู้บริหารจะไม่ชอบคอนเต้ แต่ก็คงไม่มีตัวเลือกอื่นดีกว่านี้แล้ว
แต่สุดท้ายแมนฯ ยูไนเต็ดบุกชนะ 3-0 โซลชาได้อยู่ต่อ ส่วนสเปอร์สไล่นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ออกเพื่อสังเวยความพ่ายแพ้ และเห็นว่าคอนเต้กำลังว่างอยู่ จึงรีบทาบทามอย่างว่องไว
สเปอร์สเคยติดต่อคอนเต้มาแล้วครั้งหนึ่ง ก่อนจะเซ็นสัญญากับนูโน่ แต่ครั้งนั้นคอนเต้ปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม มาคราวนี้เขาตอบตกลง เพราะว่างเว้นจากการคุมทีมมา 4 เดือน คิดว่าได้เวลาเหมาะสมแล้วที่จะคัมแบ็ก
ทำให้ชะตาชีวิตของแมนฯ ยูไนเต็ด กับคอนเต้ คลาดกัน และคอนเต้ก็ไปสร้างผลงานกับสเปอร์สแทนในช่วงที่เหลือของฤดูกาล 2021-22
ที่น่าสนใจคือ สุดท้ายโซลชาก็ไปไม่ไหว โดนปลดทิ้งอยู่ดี แต่ตอนนั้นชอยส์คอนเต้ไม่มีแล้ว ทำให้พวกเขาไม่มีทางเลือกต้องไปเซ็นสัญญาราล์ฟ รังนิกระยะสั้นเพื่อประคองทีมไปก่อน แล้วไปตามหาผู้จัดการทีมคนใหม่ในฤดูกาลหน้าเอา
อย่างที่เรารู้กันว่า สเปอร์สในยุคของคอนเต้ มีผลงานที่ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
ปีที่แล้วจบอันดับ 7 แต่ปีนี้ ไม่มีทางจบอันดับ 7 แล้ว อยู่ที่ว่าจะอันดับ 4 ไปแชมเปี้ยนส์ลีก หรืออันดับ 5 ไปยูโรป้าลีกเท่านั้น
ซน ฮึง-มิน พัฒนาตัวเอง กลายเป็นตัวจบสกอร์ที่ร้ายกาจที่สุด ยิงไปแล้ว 20 ลูกในพรีเมียร์ลีก โดยไม่มีจุดโทษแม้แต่หนเดียว เช่นเดียวกับแฮร์รี่ เคน ก็คืนฟอร์ม กลายมาเป็นตัวโพสต์เพลเยอร์ พักบอลดี แอสซิสต์คม ถือว่าพัฒนาขึ้นจากเดิม
เกมรับที่เคยหลวมมากๆ แต่ 9 เกมหลังสุด สเปอร์สเสียประตูแค่ 5 ลูก
1
รวมถึงอาวุธด้านข้าง จากในยุคของนูโน่ ที่การครอสซิ่งมีประสิทธิภาพต่ำมาก (สร้างโอกาสยิงจากลูกครอสได้ 0.7 ครั้งต่อเกม) พอคอนเต้เข้ามาคุม เกมริมเส้นก็น่ากลัวมาก ฟูลแบ็กฟิตขึ้น วิ่งลงได้แกร่งขึ้น นำมาสู่การครอสบอลที่ได้ผลบ่อยขึ้น
สุดท้ายสเปอร์สจะไปแชมเปี้ยนส์ลีกหรือเปล่าไม่รู้ แต่ที่รู้คือ ฟุตบอลของพวกเขามีทิศทางขึ้น อย่างน้อยที่สุดคอนเต้ก็รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่
ตรงข้ามกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ตัดสินใจครึ่งๆ กลางๆ จะยึดมั่นในโซลชาก็ไม่ทำให้สุด แต่มีชอยส์คอนเต้ก็ไม่เอา ผลลัพธ์คือพวกเขาต้องไปใช้งานราล์ฟ รังนิก แบบเฉพาะกิจ ซึ่งรังนิกเอาจริงๆ ใน 10 ปีที่ผ่านมา เขาทำงานโค้ชคอยวางแท็กติกแค่ 2 ปี เท่านั้น (ไลป์ซิก 2015-16 และ ไลป์ซิก 2018-19) ที่เหลือทำงานเป็นผู้บริหารอยู่เบื้องหลังหมด
คนที่ว่างเว้นงานมานานขนาดนี้ คุณจะไปหวังอะไรได้ สุดท้ายรังนิกก็พาแมนฯ ยูไนเต็ดแพ้รัวๆ และหมดลุ้นไปแชมเปี้ยนส์ลีกอย่างน่าเสียดาย ทั้งๆ ที่ เมื่อดูไลน์อัพแล้ว นักเตะปีศาจแดงมีแต่ตัวท็อปๆ ทั้งนั้น
สิ่งนี้เอง ที่คนอังกฤษพูดกันถึง Sliding doors moment ว่า ถ้าวันนั้นแมนฯ ยูไนเต็ด เลือกคอนเต้ไปซะ ชีวิตของพวกเขาอาจเปลี่ยนไปอีกทาง
ขนาดสเปอร์ส ที่องค์ประกอบเป็นรอง คอนเต้ยังทำทีมได้ดีขนาดนั้น แล้วถ้าได้คุมแมนฯ ยูไนเต็ด อาจจะพาทีมไปได้ฉิวเลยก็ได้ ไม่ต้องมาทนทุกข์ทรมานแบบนี้ และที่แน่ๆ คอนเต้ คงไม่พาสเปอร์สแพ้ไบรท์ตัน 4-0 แบบที่รังนิกทำเมื่อสัปดาห์ก่อน
1
แต่เมื่อแมนฯ ยูไนเต็ดตัดสินใจแล้วแบบนี้ ว่าจะไม่เอาคอนเต้ ก็ต้องยอมรับผลที่เกิดขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม เราไม่รู้หรอกว่าบทสรุปของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร บางที เอริค เทน ฮาก อาจเป็นโค้ชที่ใช่สุดๆ ของสโมสรก็ได้ ชนิดที่พอคุมทีมปั๊บ ก็อัพเลเวลแมนฯ ยูไนเต็ด ให้ทาบชั้นแมนฯ ซิตี้ หรือ ลิเวอร์พูลได้ทันควัน
ถ้าผลลัพธ์เป็นแบบนั้น การปฏิเสธคอนเต้ในซีซั่นนี้ อาจเป็นทางเลือกที่ถูกต้องแล้วก็ได้
แต่ก็นะ ถ้าเทน ฮากเข้ามา แล้วทีมยังไร้ทรง ไม่มีทิศทางเหมือนเดิมล่ะก็ ความรู้สึกเสียดายที่ไม่เอาคอนเต้ในวันนั้น ก็จะยิ่งทวีคูณมากกว่าเดิมเช่นเดียวกัน
1
#WHATIF
โฆษณา