ผู้บริโภคคิด+ทำอะไร..?
ในยุคการตลาดติดปีกเทคโนโลยี
ในยุคที่ข้อมูล และข่าวสารหลั่งไหลไปมาทั่วโลกอย่างรวดเร็ว จากซีกโลกหนึ่งไปอีกซีกโลกหนึ่งในชั่วเวลาไม่กี่วินาทีก็สามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารแล้วว่า อะไรเกิดขึ้นกับโลกใบนี้ ..? การพัฒนาของเทคโนโลยีที่ปรับเข้าหาผู้คนมากขึ้น ทำให้ชีวิตและการสื่อสารสะดวก แพร่หลายและรวดเร็วมากขึ้น
ทั้งนี้เพราะ พฤติกรรมของผู้บริโภคปรับเปลี่ยน และแตกต่างกันไป..!
ผลสำรวจนี้อ้างอิงมาจากการใช้งบโฆษณาทั่วโลก โดย Zenith Optimedia ในประเทศไทย สะท้อนให้เห็นว่า การเสพสื่อของผู้บริโภคยุคนี้คาดหวังจะเห็นแพลตฟอร์มอะไรใหม่ๆ ทำให้เขามีประสบการณ์ร่วมไปด้วย จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า
“หลายๆแบรนด์ พยายามทำการสื่อสารระหว่างออฟไลน์และออนไลน์ควบคู่กันไป ใส่ลูกเล่นระหว่างเทคโนโลยีใหม่ๆ และประสบการณ์การรับสื่อ ทำให้สามารถเข้าใจอินไซด์ผู้บริโภคมากขึ้น”
หากจะถามว่า แล้วอะไรคือ เทรนส์ของผู้บริโภค..? “แมคแคน ทรูธ เซ็นทรัล” ได้เผยผลวิจัย และเปิดมุมมองอนาคตของผู้บริโภคทั่วโลกที่น่าจับตา จึงขอนำบางส่วนมาให้ได้อ่านกัน เพื่อที่จะได้จุดประกายสร้างสรรค์แนวทางใหม่ๆ ในการที่จะเข้าถึงผู้บริโภคเหล่านี้
ซึ่งเทรนส์หลักๆที่เขาสรุปมี 5 เทรนส์คือ มหัศจรรย์ของเทคโนโลยี, สร้างสรรค์ค่านิยมใหม่ในโซเชียล , ภาคภูมิใจในความเป็นคนเมือง, ความจริงใจของแบรนด์และ พลังมวลชนเพื่อความดี ซึ่งจาก5หมวดหลักๆนี้สามารถแตกย่อยลงไปได้อีกว่า เทรนส์ของผู้บริโภคจากนี้ไปมีอะไรบ้าง...?
ประการแรก ความก้าวล้ำของเทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้วิถีการใช้ชีวิตดีขึ้น หรือสามารถเปลี่ยนมุมมองความคิดของคนได้ และสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ที่ทำให้การใช้ชีวิตในอนาคตง่ายขึ้นไปอีกด้วย ทำให้สิ่งที่ผู้บริโภคทำทุกอย่างในสื่อออนไลน์ได้กลายเป็น “ฐานข้อมูล” ของนักการตลาดไม่ว่าจะเป็นการเช็กอินสถานที่ โพสท์รูป เสิร์ชข้อมูล เป็นต้น
สิ่งเหล่านี้ถือเป็น “ขุมทรัพย์” ของแบรนด์ในการคาดการณ์ความต้องการของผู้บริโภคในอนาคตได้ ซึ่งเกิดขึ้นจากการเรียนรู้พฤติกรรมที่ผู้บริโภคกระทำในชีวิตประจำวัน และสามารถตอบสนองได้อย่างทันที
เช่น ในเรื่องของการเลือกใช้สื่อโฆษณา ที่สามารถเลือกทาร์เก็ต กรุ๊ปในแต่ละสถานที่ได้ ตอนนี้เดต้ามีความสำคัญมากกับธุรกิจรีเทล หรือธุรกิจร้านค้า เพราะจำเป็นต้องรู้ว่าผู้บริโภคคิดอะไร และต้องการอะไรอยู่
ประการที่สอง การเกิดขึ้นของ Social Wisdom สามารถรวมตัวกันแล้วสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ มากขึ้น ที่เห็นได้ชัดคือ เกิดค่านิยมใหม่ๆ ในสังคมออนไลน์ ที่ทำให้ผู้บริโภคมีมาตรฐานใหม่ในการใช้ชีวิตจริง
กล่าวคือ ผู้บริโภคต้องการทำอะไรใหม่ๆ เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนเองได้คนเดียว แต่คนอื่นไม่ได้ แบรนด์จะต้องหันมาเข้าถึงผู้บริโภค ด้วยกิจกรรมแบบใหม่ๆ นี้ผ่านการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และคุณค่าที่เงินซื้อไม่ได้
ประการที่สาม มีแนวโน้มว่า ผู้บริโภคต้องการให้สังคมเมืองน่าอยู่ขึ้น ตั้งแต่แก้ไขปัญหาสังคม รวมไปถึงการสร้างสรรค์ศิลปะ หรือทำอะไรให้สังคมเมืองดูมีชีวิตจิตใจขึ้น อย่างเช่น “แบรนด์สเปซ” ช่วยคนเมืองใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายขึ้น และค้นหาสิ่งใหม่ๆ เผื่อการพักผ่อนหย่อนใจอย่างมีศิลปะ เช่น การสร้างที่ชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือผ่านโซลาร์เซลล์ หรืออิเกียที่นำเฟอร์นิเจอร์ไปวางที่สนามบิน เพื่อให้คนได้นั่งพัก
ประการที่สี่ กระแสของคนที่ต้องการความจริงมันเติบโตมาตลอดเรื่อยๆ และแบรนด์เริ่มเปิดเผยข้อเท็จจริงมากขึ้น เห็นได้จากกระแสของไวรัล วิดีโอที่มีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งบางบริษัทดึงเอา “ความสงสัย” ของผู้บริโภคมาตอบคำถามผ่านแคมเปญโฆษณาที่เรียกว่า Experiment เพื่อเปรียบเทียบข้อเท็จจริงให้ผู้บริโภคเห็นด้วยตนเองเลย เป็นการเอาปัญหาที่ผู้บริโภคมีต่อโปรดักส์นั้นมาทดลอง และทำให้เกิดไวรัลได้
ประการที่ห้า ผู้บริโภคนิยมที่จะพูดถึงเรื่อง “จิตวิญญาณ”มากขึ้น อย่างเช่นการเกิดขึ้นของ “เซลฟ์ฟี่สู่คอมมิวนิตี้” ที่ใครๆ ก็ต่างเกาะติดกระแสเซล์ฟฟี่ที่มาแรงมาก เป็นการระบาดของความลุ่มหลงในตัวเอจะเริ่มเปลี่ยนมาเป็นกระแสที่เรียกว่า เอาใจใส่คนอื่น และสังคม
ประการที่หก การเกิดขึ้นของ “มัลตีสกรีน” ซึ่งผู้บริโภคในปัจจุบันพยายามองหาสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลาไม่ว่าจะเทคโนโลยีแบบสวมใส่ได้ และการพัฒนาโซเชียลของทีวี (Connected TV) ซึ่งล้วนมีผลต่อการเปลี่ยนรูปแบบประสบการณ์การรับสื่ออย่างชัดเจน และน่าตื่นเต้นกว่าเดิม
และแน่นอนว่า แต่ละสกรีนจะแข่งขันแบบเดียวกันคือ “แข่งด้วยคอนเทนส์” เพื่อตอบสนองผู้บริโภคได้มากที่สุด
ทีวี ผู้บริโภคต้องการรีแล็กซ์ ดูเพื่อความบันเทิง
พีซี เน้นการหาข้อมูล หาความรู้จากอินเตอร์เน็ต
สมาร์ทโฟน เน้นโซเชียล เน็กเวิร์ก ได้คอนเน็คกับเพื่อน
แท็บเลต คนนิยมเล่นตอนกลางคืน ระหว่างพักผ่อน
เกมคอนโซล เล่นเพื่อความสนุก ตื่นเต้น ได้ชัยชนะบางอย่าง
เรียกว่า แต่ละสกรีนก็จะผู้บริโภคที่มีรูปแบบใช้บริการที่ต่างกันไป และนี่คือ “หัวใจ”สำคัญของการทำการตลาดที่สามารถเข้าไปอยู่ในจิตใจของผู้บริโภคได้คือ เข้าถึง เข้าใจ และพัฒนาประสบการณ์ใหม่ๆให้กับลูกค้าได้ตลอดเวลานั่นเอง...!!
หากท่านชอบบทความจาก”หมุนทันโลก” ช่วยกดไลค์ กดแชร์ให้ด้วยนะครับ
#ผู้บริโภค #การตลาด #เทคโนโลยี #หมุนทันโลก #world digest
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
