16 พ.ค. 2022 เวลา 13:00 • นิยาย เรื่องสั้น
ห้างพรอมเมนาดาถูกทิ้งร้างในจังหวัดเชียงใหม่อย่างน่าเสียดาย แต่จริงๆผมรู้เนิ่นๆอยู่แล้วว่าห้างนี้เงียบกว่าห้างอื่นๆในจังหวัดเชียงใหม่ จากประสบการณ์ทำงานที่ต่างๆเป็นสิบปี แต่ช่วงนี้จะยกช่วงเป็นพนักงานไอทีตามห้างละกันนะครับ
ห้างพรอมเมนาดา ปี 2565 ถูกทิ้งร้างให้ทรุดโทรมไปตามสภาพอย่างน่าเสียดายจากความทรงจำผู้ผ่าน
สำหรับผมมันมีความทรงจำที่ดีและไม่ดีปะปนกันไปครับผมอยู่กับห้างนี้ 5 ปีในตำแหน่งพนักงานขายอุปกรณ์ไอทีสำนักงานยี่ห้อเอปสันครับยอดขายและเป้าก็ขึ้นทุกปีจนต้องไปวิ่งงานอีเว้นท์ต่างเพื่อดึงลูกค้าเข้าห้าง ซึ่งเราไม่สามารถสู้เซ็นทรัลได้จริงๆ
สมัยทำงานร้านชิชางคอมพิวเตอร์ห้างพรอมเมนาดารายได้ดีระดับหนึ่งทีเดียวครับ
ที่ย้ายออกจากห้างนี้คือมีปัญหากับลูกค้าวีไอพีและเจ้าของแหละนะครับ ผมว่าถ้าคุณได้ไปถามพนักงานขายดูลูกค้าวีไอพีค่อนข้างที่จะเรื่องมากทีเดียวแต่ดีตรงที่เขามีเงิน แต่เป็นเรื่องปรกตินะเพราะคนรวยเรื่องมากเป็นธรรมดา ชอบเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตนเองเสมอ...แต่นั่นแหละไม่มีใครผิดใครถูกทั้งนั้นความพึงพอใจลูกค้าต่อให้เราทำถูกแค่ไหนเขาก็ไม่พอใจรวมถึงเจ้าของร้านระบบดีลเลอร์ด้วย ก็ย้ายสิครับจะรออะไร
มาขายหน้างานและโปรเจคต่อที่ไอทีซิตี้รายได้น้อยลงหน่อยแต่สบายใจ
ย้ายครั้งนี้สบายใจครับผู้จัดการก็ลูกจ้างเหมือนเรานั่นแหละครับแค่ดูแลความเรียบร้อยเขาก็พอใจแล้วยิ่งทำยอดให้เขาและข้างๆได้ยิ่งชอบ ซึ่งไปสาขาไหนยอดขายก็ดีขึ้นจริงครับแต่ความนิยมร้านลดลงตามกาลเวลา 1 ปีมีการควบรวมเปิดสาขาแข่งขันกัน มันจึงเป็นจุดเปลี่ยนที่ดีขึ้น
ออฟฟิตเมทแหล่งอุปกรณ์สำนักงานจัดว่ายอดขายดีเลยทีเดียวค่อนข้างได้เปรียบแต่โควิดทำให้ธุรกิจตายในเชียงใหม่เยอะมาก
หลังจากยอดขายไอทีซิตี้ไม่ตอบโจทย์ผมก็ย้ายไปอยู่ออฟฟิศเมทคราวนี้วิ่งก็เป็นปรกติยอดถึงเป้าดีขึ้นเรื่อยๆตามสภาวะการเจริญเติบโตทางธุรกิจยอดดีขึ้น โปรเจคเข้ามาปิดได้ ทั้งขายสดและเครดิตกำลังดี โควิดก็เข้ามาก็เลยต้องไปขายแบบสาขาเดี๋ยวตามมาตราการซึ่งมีเพาเวอร์บาย
เพาเวอร์บายแหล่งที่ขายสินค้าที่สุดท้าย
ระหว่างนั้นผมก็คิดแบบลึกๆในใจว่าตำแหน่งงานผมน่าจะขยับขึ้นได้แล้วนะบางคนก็ขยับขึ้นไปแล้ว ซึ่งเสียใจด้วยมีแต่ตำแหน่งในกรุงเทพฯไกลบ้านเราแถมยังเป็นช่วงลดคนในตำแหน่งออกอีกด้วย ผมเห็นว่ามีโอกาสเปลี่ยนได้ก็เปลี่ยนก่อนถูกเปลี่ยนดีกว่า ผมจำวันที่ผมออกจากงานได้เลยตรงกับโรงแรมดาราเทวีล้มละลาย แน่นอนเครดิตหลายคนก็มีปัญหาตามไปด้วย ตอนนั้นเบนเข็มทำงานรัฐมากขึ้นละหลังจากไปวิ่งงานไหนก็ไม่ค่อยเวิร์คเต็มๆ 1 ปี
จากลูกจ้างชั่วคราวรายปีเป็นพนักงานราชการและมองหางานข้าราชการต่อไป...
จากปี 2558 สู่ปี 2565 เป็นปีหลายคนมีปัญหากับหน้าที่การงานและความท้าทายมากมาย ซึ่งคำตอบผมคงตอบคำว่า "ใช่ถูกต้องแล้วครับ" ผมจึงยุติงานเอกชนและทำอาชีพพนักงานราชการ ซึ่งอย่างเรานำมาทดแทนข้าราชการทำงานส่วนสำคัญต่างๆที่ได้รับมอบหมายไม่ต่างกันมากนักด้วยความรู้ปริญญาตรีประกอบกับมีประสบการณ์งานสำนักงาน เจ้านายก็เลยให้เราเป็นเสมียนธุรการพออยู่ได้ดีกว่าคนอื่นบ้าง
อย่าเอาไม้บรรทัดของตนเองไปเทียบกับไม้บรรทัดของคนอื่นเพราะนิยามความสำเร็จแต่ละคนไม่เหมือนกัน
นิ้วกลม
สุดท้ายอยากให้ทุกคนเลิกเปรียบเทียบชีวิตคนอื่น ทุกคนสามารถสร้างความสำเร็จของตนเองได้ครับ เพียงแต่หาโอกาสจุดตั้งตัวให้ได้เฉยครับ ปัจจุบันปี 2565 ผมอายุ 32 ปี หนี้สินที่ไปได้ครึ่งหนึ่ง พร้อมคดีมะโนสาเร่(หนี้ไม่เกิน3แสน)ค่อยๆดึงเกมส์และปิดไปตามลำดับแค่นั้นเอง ผมว่าหลายคนคงรู้วิธีดึงเกมส์การเงิน และเอาตัวรอดได้ขอให้ทุกคนพ้นวิกฤตเศรษฐกิจไปด้วยกันนะ
โฆษณา