นโยบาย Zero Covid จีน กระทบเศรษฐกิจไทย ขนาดไหน ?
ที่ผ่านมารัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับนโยบาย Zero Covid จนนำไปสู่การล็อกดาวน์ในหลายเมือง ซึ่งนโยบายดังกล่าวไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อหลายประเทศ หนึ่งในนั้นก็คือ ประเทศไทย
นโยบาย Zero Covid ของจีน จะส่งผลกระทบอะไรต่อเศรษฐกิจไทยบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ด้วยนโยบาย Zero Covid ที่ต้องการกำจัดการแพร่ระบาดของโควิด 19 ภายในประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อให้เหลือ 0 ราย
ซึ่งก่อนหน้านี้ หลายประเทศก็ได้มีการนำนโยบายดังกล่าวมาใช้ ไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์ ออสเตรเลีย สกอตแลนด์ เกาหลีใต้ ฮ่องกง เวียดนาม นิวซีแลนด์ และจีน
โดยวิธีที่ใช้ภายใต้นโยบาย Zero Covid ก็เช่น
- การติดตามผู้สัมผัสคนติดเชื้ออย่างใกล้ชิด และการทดสอบคนกลุ่มเสี่ยงในวงกว้าง
- การล็อกดาวน์ในพื้นที่เสี่ยงที่พบการแพร่ระบาด โดยเฉพาะการห้ามประชาชน ออกจากที่พักอาศัยหากไม่จำเป็น
- การปิดพรมแดนและจำกัดจำนวนชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศ
แม้ว่านโยบายนี้ จะต้องการทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดเหลือ 0 ราย เพื่อช่วยให้คนส่วนใหญ่กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ทั้งยังสามารถดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมได้เหมือนเดิมในเวลาอันสั้น
แต่หลายประเทศได้บอกเลิกมาตรการนี้ไปแล้ว และหันมาเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโควิด 19 แทน
อย่างไรก็ตาม ประเทศจีนยังเป็นหนึ่งในประเทศ ที่เดินหน้าและยืนยันที่จะใช้นโยบายนี้ต่อไป
โดยมีการวิเคราะห์กันว่า เบื้องหลังสำคัญ คือปลายปีนี้ประเทศจีนจะมีการประชุม “National Congress of the Chinese Communist Party”
ซึ่งสาระสำคัญคือ เป็นการสืบทอดอำนาจประธานาธิบดีของสี จิ้นผิง เพื่อการก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีตลอดชีพของจีน
ดังนั้น ก่อนที่จะถึงวันนั้น ถ้าภายในประเทศยังมีการแพร่ระบาดของโควิด 19 อยู่ คงทำให้ภาพในการสืบทอดอำนาจประธานาธิบดีของสี จิ้นผิง ออกมาดูไม่สวย จึงเป็นที่มาที่ทำให้จีนนั้น ต้องการปราบโควิด 19 ให้สิ้นซาก ก่อนที่เวลานั้นจะมาถึง
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงทำให้หลายเมืองในจีนนั้นถูกล็อกดาวน์
โดยเฉพาะเมืองสำคัญอย่างเซี่ยงไฮ้ ที่มีประชากรกว่า 25 ล้านคน
ยังคงใช้ชีวิตอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ ที่เริ่มมาตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นเวลากว่า 10 สัปดาห์แล้ว
แม้การล็อกดาวน์จะช่วยให้สถานการณ์การแพร่ระบาดลดลง แต่รัฐบาลจีนยังยืนยันที่จะดำเนินการตามมาตรการล็อกดาวน์ต่อไป เพื่อบรรลุเป้าหมาย Zero Covid ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องแลกมาด้วยความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ปัจจุบัน เซี่ยงไฮ้มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 25 ล้านคน เป็นศูนย์กลางทางด้านการเงิน การค้า และนวัตกรรมต่าง ๆ ของประเทศ
ที่สำคัญยังเป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจใหญ่มากที่สุดของจีน โดยมีมูลค่า GDP ประมาณ 24 ล้านล้านบาท ซึ่งถ้าเซี่ยงไฮ้เป็นประเทศ จะมีขนาด GDP ใหญ่เป็นอันดับที่ 24 ของโลก ซึ่งใหญ่กว่า GDP ของประเทศไทยทั้งประเทศ
การล็อกดาวน์ที่เซี่ยงไฮ้และเมืองอื่น ๆ ในประเทศจีน ทำให้นักเศรษฐศาสตร์หลายแห่ง ทั้งจากธนาคารโลก และ Goldman Sachs คาดว่า GDP ของจีนในปีนี้ จะเติบโตไม่เกิน 5% ซึ่งต่ำกว่าการเติบโตที่รัฐบาลจีนตั้งเป้าไว้ที่ 5.5% อีกด้วย
โดยนโยบาย Zero Covid ของจีนนั้น จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศอื่น ๆ โดยตรง
แบ่งออกเป็นผลกระทบหลัก ๆ ได้แก่
- กระทบกำลังซื้อของโลก
เนื่องจากจีนนั้น เป็นหนึ่งในผู้บริโภคสินค้ารายใหญ่ของโลก
- ปัญหาการชะงักงันของห่วงโซ่อุปทานที่รุนแรงขึ้น
ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมปัญหาเงินเฟ้อ ที่กำลังทวีความรุนแรงในปัจจุบัน
- กระทบอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลก
เนื่องจากหลายประเทศนั้น พึ่งพานักท่องเที่ยวชาวจีน
ยกตัวอย่างเช่น ประเทศไทย ที่เศรษฐกิจของประเทศนั้น พึ่งพาเศรษฐกิจจีนในระดับสูง
- การส่งออก
ในปี 2564 มูลค่าการส่งออกของประเทศไทยทั้งหมด เท่ากับ 8.5 ล้านล้านบาท
ในส่วนนี้เป็นการส่งออกไปยังประเทศจีน สูงถึง 1.2 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 14% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด
ทำให้จีนนั้น ถือเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 1 ของไทย
โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญ ที่ไทยส่งไปยังจีน เช่น ผลไม้สด ผลไม้แช่เย็น ผลไม้แช่แข็ง และผลไม้แห้ง, เม็ดพลาสติก, เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ, ผลิตภัณฑ์ยาง
ดังนั้น กำลังซื้อที่ลดลง และเศรษฐกิจของจีนที่ชะลอตัว ถ้ายิ่งลากยาวจะส่งผลต่อการส่งออกของไทย ซึ่งถือเป็นเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญอีกตัวหนึ่ง
- การท่องเที่ยว
ก่อนการแพร่ระบาดของวิกฤติโควิด 19 นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่เข้ามาในประเทศไทยนั้น
ทุก ๆ 4 คนจะมีคนจีน 1 คน และหลายปีที่ผ่านมา ภาคการท่องเที่ยวของไทยก็เติบโต
จนเป็นอุตสาหกรรมที่นำเงินตราเข้าประเทศเป็นจำนวนมาก
ส่วนสำคัญเกิดจากการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวชาวจีน แต่วันนี้การล็อกดาวน์ที่เกิดขึ้น
ในหลายเมืองของจีน และแนวโน้มเศรษฐกิจของจีน ที่คาดว่าจะยังไม่ฟื้นตัวกลับไปสู่ในระดับเดิม
ทำให้ชาวจีนยังไม่สามารถเดินทางออกไปท่องเที่ยวในต่างประเทศได้เหมือนเดิม จนส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในหลายประเทศ นั่นก็รวมถึงประเทศไทยของเราด้วย เช่นกัน
- การนำเข้าวัตถุดิบ
การใช้นโยบาย Zero Covid จนนำไปสู่การล็อกดาวน์ ทำให้โรงงานในจีนหลายแห่ง ถูกทางการสั่งให้หยุดดำเนินงาน หยุดผลิตสินค้า อีกทั้งท่าเรือหลายแห่งต้องหยุดขนส่ง ทำให้จีนไม่สามารถส่งออกสินค้า รวมทั้งวัตถุดิบหลายอย่างไปยังต่างประเทศได้
ในปี 2564 ประเทศที่ไทยนำเข้าสินค้ามากที่สุดก็คือ จีน โดยคิดเป็นมูลค่ากว่า 2.1 ล้านล้านบาท หรือ 24% ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมด
ซึ่งสินค้าที่ไทยนำเข้าจากจีนมาก เช่น เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ, เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ, เคมีภัณฑ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
เรียกได้ว่าถ้าไทยไม่สามารถนำเข้าสินค้าจากจีน ได้เหมือนช่วงเวลาปกติ ก็จะทำให้ธุรกิจหลายรายประสบปัญหาความขาดแคลน จนส่งผลต่อห่วงโซ่การผลิตสินค้าภายในประเทศ ที่อาจนำไปสู่การขาดแคลนสินค้าและทำให้ราคาสินค้าต่าง ๆ แพงขึ้นได้เช่นกัน
เราจะเห็นแล้วว่า การใช้นโยบาย Zero Covid ของจีนนั้น ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อจีนเท่านั้น
แต่ยังส่งผลกระทบไปถึงประเทศอื่น ๆ อีกหลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือ ประเทศไทยของเรา
และด้วยความที่เราพึ่งพาประเทศจีนในหลาย ๆ ด้าน ทั้งภาคการส่งออก นำเข้า และการท่องเที่ยว
ก็คงต้องบอกว่าการที่เศรษฐกิจในประเทศของเราจะกลับมาได้ช้า หรือเร็วนั้น
นอกจากการบริหารประเทศของเราเองแล้ว
อีกส่วนสำคัญเลยก็คือ การดำเนินนโยบายของประเทศจีน..
หนังสือ BRANDING THE NATION หนังสือที่เล่าถึงการสร้างแบรนด์ของแต่ละประเทศที่ทำให้ แต่ละประเทศเป็นแบบทุกวันนี้
เช่น ทำไมเยอรมนีเป็นประเทศแห่งรถยนต์ ทำไมฝรั่งเศสเป็นประเทศแห่งแบรนด์หรู สั่งซื้อเลยที่
- 18
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
