(บทความที่ 13)
.
ลงทุนหุ้นต้องรู้อะไรบ้าง
จากบทความที่ 12 ได้เกริ่นนำเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้น ซึ่งนักออมหลาย ๆ คนที่สนใจลงทุนหุ้น หากต้องการที่จะเริ่มลงทุนต้องรู้อะไรบ้าง
เพื่อไม่ให้เป็นบทความที่ยาวเกินไป ขอสรุปหลักการพื้นฐาน 4 ข้อ ดังนี้
1. ต้องเข้าใจวัตถุประสงค์และเป้าหมายการลงทุนของตนเอง
การเข้าใจวัตถุประสงค์และเป้าหมายการลงทุนของตนเอง เป็นสิ่งแรกที่นักออมพึงมี หากนักออมต้องการจะรักษาเงินต้นให้ครบ คาดหวังผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 6% ต่อปี และมีระยะเวลาในการลงทุนไม่เกิน 6 เดือน
กรณีนี้การลงทุนในหุ้นอาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก เนื่องจากเราทราบกันดีว่าการลงทุนในหุ้น เปรียบเสมือนการลงทุนทำธุรกิจ เพียงแต่เราไม่ได้มีส่วนรวมหรือบริหารจัดการเอง (นอกเสียจากว่าเราจะถือหุ้นในสัดส่วนที่มากพอ)
ถ้ากิจการที่เรานำเงินไปลงทุน ไม่สามารถสร้างกำไรตามที่คาดหวังได้ และ/หรือ ไม่สามารถจ่ายเงินปันผลตามที่คาดหวังได้ มูลค่าหุ้นก็อาจจะลดลง หากนักลงทุนจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนดังกล่าวอาจเกิดการขาดทุนในกรณีที่จำเป็นต้องขายหุ้นในมูลค่าที่ต่ำกว่าราคาที่ซื้อมา
การลงทุนหุ้น จึงเหมาะกับนักออมที่สามารถยอมรับความเสี่ยงซึ่งอาจสูญเสียเงินต้นจากการลงทุน ในกรณีที่กิจการดำเนินธุรกิจไม่เป็นไปตามเป้าหมาย อาจส่งผลให้มูลค่าหุ้นปรับลดลงมาได้ ทั้งนี้หากเราเข้าใจในกิจการที่เรานำเงินไปลงทุน จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้มาก
2. ต้องเข้าใจในกิจการที่เรานำเงินไปลงทุนเป็นอย่างดี
การรู้จักและเข้าใจในกิจการที่เรานำเงินไปลงทุน จะช่วยให้เราลดความเสี่ยงจากการลงทุนได้มาก แล้วเราควรต้องทำความเข้าใจกิจการในส่วนไหนบ้าง?
2.1 การดำเนินกิจการของธุรกิจ
สิ่งที่นักออมต้องทำ คือ ทำความเข้าใจธุรกิจที่เราไปลงทุน เช่น กิจการประกอบธุรกิจอะไร คู่แข่งทางการค้าในตลาดมีมากน้อยแค่ไหน สินค้าเป็นที่นิยมหรือสามารถแข่งขันได้หรือไม่ มีโครงสร้างรายได้อย่างไร มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจอะไรบ้าง ความเสี่ยงที่อาจทำให้บริษัทประสบปัญหามีอะไรบ้าง เช่น ความเสี่ยงทางด้านข้อบังคับหรือกฎหมาย ความเสี่ยงที่อาจทำให้กิจการสูญเสียทรัพย์สินจากคดีฟ้องร้อง เป็นต้น
2.2 ผู้บริหาร
ควรศึกษาเกี่ยวกับประวัติผู้บริหารว่าเคยมีประวัติที่ไม่ดีหรือไม่ บริหารกิจการในแนวทางไหน เอื้อผลประโยชน์ต่อพวกพ้องหรือไม่ มีความสามารถในการบริหารและธรรมาภิบาลที่ดีหรือไม่
3. ต้องมีความรู้ ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับหลักการในการดำเนินธุรกิจ
นักออมควรเข้าใจหลักการในการดำเนินธุรกิจเบื้องต้น เช่น สินค้าหรือบริการที่ผลิตออกมามีกลุ่มเป้าหมายสินค้าเป็นอย่างไร มีการส่งเสริมการจัดจำหน่ายและช่องทางการจัดจำหน่ายหรือให้บริการ ราคาสามารถแข่งขันกับคู่แข่งรายอื่น ๆ ได้หรือไม่ หากเราเข้าใจหลักการดำเนินธุรกิจแล้ว เราจะสามารถวิเคราะห์กิจการเพื่อตัดสินใจว่าจะนำเงินออมของเราไปลงทุนในกิจการนั้น ๆ หรือไม่
4. ต้องมีความเข้าใจในงบการเงินเพื่อใช้ประกอบเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ธุรกิจในอนาคต
นักออมควรเข้าใจวิธีการอ่านงบการเงินซึ่งเป็นเหมือนภาพสะท้อนในอดีตที่เกิดขึ้นมาแล้ว แต่สามารถนำมาใช้วิเคราะห์ได้ว่าบริษัทมีการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างไร สามารถจัดจำหน่ายสินค้าหรือให้บริการ บริหารควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดีหรือไม่อย่างไร หากเราเข้าใจงบการเงินในเบื้องต้น เราจะสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ธุรกิจในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น
หลักการพื้นฐานทั้ง 4 ข้อนี้ จะช่วยให้นักออมสามารถลงทุนในหุ้นได้อย่างมีความเข้าใจทำให้เงินออมของเรามีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
(บทความต่อไป) : หุ้นมีกี่ประเภทแล้วหุ้นประเภทใดที่เหมาะกับเรา?
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
