21 พ.ค. 2022 เวลา 23:00 • การศึกษา
เนยแชร์โน้ต : ศิลปะแห่งการขายและโน้มน้าวใจ
เนื้อหาจาก : คุณแท็ป รวิศ Mission to the moon
คำเตือน :
1. หลังจากคุณอ่านจบจะช่วยคุณประหยัดเงินได้ถึง 3,600 บาท
2. คุณจะประหยัดเวลาได้ถึง 2.32 ชั่วโมง!!
.
ถ้าเวลาของคุณมีค่า สละเวลา 3 นาทีแล้วอ่านเลย!!
หรือถ้าตอนนี้ คุณยังไม่มีเวลาอ่าน แชร์โพสต์นี้เก็บไว้ เหมือนได้กำไรทันที
.
.
1. เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงทักษะการขายได้ เพราะทุกคน คือ นักขาย
.
2. เราต่างต้องขายไอเดีย ขายงานหัวหน้า ขายสินค้า/บริการ ขายวิธีการแก้ปัญหาต่างๆ เพื่อให้คนฟังตัดสินใจเลือกในสิ่งที่ต้องการเสนอ
.
3. ถ้าอยากขายของได้ ต้องสร้างความเชื่อใจให้กับลูกค้า นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม รีวิว หรือผลลัพธ์การใช้งานของลูกค้าจึงเป็นสิ่งจำเป็น
.
4. ความเชื่อใจของเราไม่ต่างกับการเลือกคบแฟน ก่อนคบ คุณต้อง
1. มีความสม่ำเสมอ โทรหากันทุกวัน ไม่ใช่ 3 วันโทร 4 วันหาย
2. หากสัญญาอะไรแล้วต้องทำได้ เช่น สัญญาว่าจะพาไปดูหนัง พอถึงเวลาบอก ไปไม่ได้แล้วนะ พอดีเพื่อนชวนไปเตะบอล 555 แบบนี้ สาวไม่ปลื้ม
3. จริงใจ คือ พูดคุย เปิดใจแบบจริงใจ ไม่โกหก หรือปกปิดซ่อนเร้น ส่อแววพิรุธ 55
.
5. Key สำคัญในการสร้างความเชื่อใจ คือ Promise less, deliver more พูดไม่ต้องเยอะ เน้นทำให้มาก แปลว่า ไม่ต้องบอกรักทุกวันก็ได้ แต่ขอแค่ลงมือทำให้เห็น ทำให้เราสบายใจว่ารักเราจริงๆ
.
6. ศิลปะแห่งการโน้มน้าวและจูงใจลูกค้า จึงไม่ต่างอะไรกับการจีบสาว ดังนั้นสิ่งสำคัญที่เราต้องเข้าใจและเรียนรู้คือ จิตวิทยาและธรรมชาติของมนุษย์
.
7. การทำธุรกิจ คือ การทำความเข้าใจคน ยิ่งคุณเข้าใจคนมากเท่าไหร่ เท่ากับ คุณจะรวยมากขึ้นเท่านั้น
.
8. จิตวิทยามนุษย์
1. Relative Thinking - มนุษย์ชอบคิดแบบเปรียบเทียบ เช่น เพื่อนได้รายได้เยอะกว่า ข้างบ้านมีบ้านหลังใหญ่กว่า ลูกป้าได้ดีกว่าลูกเรา
2. Confirmation Bias – มนุษย์มักหาเหตุผลมาสนับสนุนสิ่งที่เขาเชื่อ เช่น เวลารับสมัครคนทำงาน จะรู้สึกชอบคนที่จบมหาลัยเดียวกันมากกว่า หรือเรามักจะชอบคนที่มีประวัติ และพื้นเพใกล้ ๆ กับชีวิตเรามากกว่า
3. Sunk Cost Fallacy – การคิดและตัดสินใจจากต้นทุนในอดีต เช่น รุ่นพ่อแม่ชอบเทียบราคาข้าว ราคาหมูสมัยในอดีต แล้วมาเทียบว่าปัจจุบันแพงมาก ทั้ง ๆ ที่ ราคา ณ ตอนนั้นกับราคาตลาดในปัจจุบันก็เปลี่ยนไปมาก และหลายปีมาแล้ว
1
4. Halo Effect – การเหมารวม จากสิ่งที่เห็นเพียงไม่กี่อย่างเช่น คนสวย หน้าตาดี มักถูกมองว่าเป็นคนทำงานเก่ง ทั้งที่จริง ๆ แล้วอาจไม่เสมอไป แต่อย่างไรก็ตาม ควรทำตัวให้สวยไว้ก่อนจะได้เปรียบ 555
.
9. การฟังเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดและเป็นหัวใจในการสื่อสาร
.
10. การฟังมี 2 แบบ คือ
- Active listening คือการฟังอย่างไร ให้เข้าใจลูกค้าจริงๆ กับ
- Passive Listening คือ ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา เหมือนสมัยฟังครูสอนสมัยประถม
.
11. เทคนิคที่ทำให้เรามี Active listening ได้คือ
- เอามือถือห่างจากตัว
- Focus คนตรงหน้า
- เลือกช่วงเวลาฟังช่วงสมองปลอดโปร่ง
- ทำการบ้านมาก่อน โดยการหาข้อมูลพื้นฐานของอีกฝ่าย
.
12. การสื่อสารที่ดีนั้น มาจากภาษากาย 55% , 38% มาจากน้ำเสียง และอีก 7% มาจากคำพูด
.
13. ถ้าอยากสื่อสารและโน้มน้าวใจใครได้ สิ่งที่ต้องมีคือ การสร้างประโยคเปิดใจ เช่น ยิ้มแย้มกับคนพูด สื่อสารชัดเจน ทำให้เห็นภาพ รู้จักผู้ฟังว่าเขาต้องการอะไร และรู้ความต้องการของลูกค้า หรือการทำ 5 Why
.
14. จิตวิทยาการขาย (Marketing psychology)
1. Framing effect - การเลือกใช้คำพูดให้ดูดี น่าสนใจ เช่น ไขมัน 0% , ปราศจากคอเลสเตอรอล
2. Social proof - คนเราไม่อยากถูกมองว่าโง่ ดังนั้นเวลาจะตัดสินใจทำอะไร จะทำตามคนหมู่มาก เช่น เลือกร้านอาหารที่ได้รับมิชลิน สตาร์
3. Loss aversion - คนเรากลัวเสียมากกว่ากลัวได้ ดังนั้นเวลาจะพูดโน้มน้าวใจ ให้เน้นไปที่สิ่งที่เขาจะสูญเสีย หากไม่ต้ดสินใจ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม โปรโมรชั่น 9.9 ถึงยังใช้ได้ผล
.
.
 
นี่คือเนื้อหาส่วนหนึ่งจากคอร์ส The Art of Sales and Persuasion ศิลปะแห่งการขายและโน้มน้าวใจ
ใครที่สนใจอยากลงลึก สมัครเรียนได้ที่ Cariber
.
.
#เนยแชร์โน้ต
#สรุป
#คอร์สเรียนออนไลน์
#ศิลปะการขาย
โฆษณา