Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ลือชัย พิศจำรูญ
•
ติดตาม
20 พ.ค. 2022 เวลา 08:41 • นิยาย เรื่องสั้น
บัญชร ชวาลศิลป์
“นักรบจับฉ่าย” เรื่องเล่าจากชีวิตจริงในสมรภูมิลับลาว (16)
โดย เสวต ศรีประยูร
“ฐานทัพอากาศในประเทศไทยตามแนวคมขวาน”
วงกลมซ้ายบนคือฐานทัพอากาศจังหวัดอุดรธานี วงกลมขวาบนคือฐานทัพอากาศจังหวัดนครพนม วงกลมล่างคือฐานทัพอากาศจังหวัดอุบลราชธานี วงกลมรีตอนใต้สุดคือพื้นที่ปฏิบัติการที่ผมรับผิดชอบ
ระยะบินจากฐานทัพอากาศจังหวัดอุบลราชธานีถึงพื้นที่ปฏิบัติการที่ผมรับผิดชอบ
หรือพื้นที่ของประเทศลาวตอนใต้อื่น ๆ ก็ประมาณ 100-250 กิโลเมตร
พื้นที่นอกวงกลมรีสีแดงก็มีฝรั่งและคนไทยอื่น ๆ รับผิดชอบเช่นกัน ระยะบินจากฐานทัพอากาศนครพนมถึงพื้นที่ของประเทศลาวตอนกลางก็ประมาณ 50-150 กิโลเมตร ระยะบินจากฐานทัพอากาศอุดรธานีถึงพื้นที่ของประเทศลาวตอนเหนือก็พอ ๆ กัน
“สงครามเดียวกัน”
เครื่องบินรบ Phantom F-4 ความเร็วสูงสุดเกือบ 2,500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของเครื่องบินรบที่ ส่งไปคุ้มกันหรือปฏิบัติการโจมตีทิ้งระเบิด ตามที่ผมเห็นจะเป็น Phantom F-4 ทั้งนั้น ซึ่งใช้เวลาบินไม่กี่นาทีก็ถึงพื้นที่ปฏิบัติการ ถ้าไม่ใช่ F-4 ก็จะเป็น A1-E Sky Raider ตามภาพ
ตามทฤษฎีภูมิ-รัฐศาสตร์แล้วจะมองออกทันทีว่า ชัยภูมิของฐานทัพอากาศทั้ง 3
แห่งบนคมขวานของประเทศไทยเหมาะสมที่สุดในการทำสงครามครั้งนี้ ทั้งสงครามในประเทศลาว และสงครามในประเทศเวียดนาม
ทั้งฐานทัพอากาศในประเทศไทยและฐานทัพอากาศในประเทศเวียดนาม ต่างก็ปฏิบัติการในทั้งประเทศลาวและประเทศเวียดนามตามความเหมาะสมของสถานการณ์โดยไม่มีข้อจํากัด
สรุปง่าย ๆ ก็คือสงครามในทั้งสองประเทศถือเป็นสงครามเดียวกัน เพียงแต่สงครามเวียดนามเป็นที่เปิดเผยและรับรู้กันทั่วไป แต่สงครามในประเทศลาวเป็นสงครามลับ ๆ เพราะมี "สนธิสัญญาเจนีวา" ที่กําหนดให้ประเทศลาวเป็นกลาง ห้ามประเทศใด ๆ ส่งกองกําลังเข้าไปแทรกแซง แต่ประเทศทั้งกลุ่มฝ่ายซ้ายและกลุ่มฝ่ายขวาไม่มีใครเคารพต่อสนธิสัญญาเลย
“ฐานทัพอากาศทุกแห่งไม่มีพรมแดนในการโจมตี”
ในเทศกาลตรุษจีนจะมีข้อตกลงหยุดยิงและหยุดสู้รบกันในสงครามเวียดนาม แต่กลับเป็นว่าการโจมตีทิ้งระเบิดจะแห่มาลงที่ประเทศลาวเพิ่มขึ้นผิดหูผิดตาสังเกตได้ ฝรั่งไม่หยุดงานในเทศกาลตรุษจีน พักรบในเขตเวียดนาม เพิ่มรบในเขตลาว
ผมเคยติดเฮลิคอปเตอร์ลงไปรับนักบินเครื่องบินรบ 2 คนที่ดีดตัวออกจากเครื่อง
หลังจากถูกยิงจนเอาเครื่องไม่อยู่
เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า วันหนึ่งผมออกไปปฏิบัติการใดยใช้เฮลิคอปเตอร์ จะเป็นปฏิบัติการอะไรก็จำไม่ได้ แต่ไม่น่าจะเป็นปฏิบัติการที่สำคัญอะไร (ถึงจำไม่ได้) จำได้แต่ว่าผมนั่งบนเครื่องข้างหลังนักบิน อยู่ ๆ นักบินก็หันมาพูดกับผมว่าเราจะต้องไปร่วมการกู้ภัย (Rescue Operation) เพราะมีเครื่องบินรบลำหนึ่งส่งสัญญาน
“เมย์เด- May Day" เครื่องบินถ้าอยู่ในภาวะวิกฤตเช่น จะต้องดีดตัวสละเครื่อง หรือเอาเครื่องไม่อยู่จะต้องตกแน่ ๆ จะด้วยสาเหตุใดก็แล้วแต่ นักบินจะขอความช่วยเหลือ โดยพูดผ่านวิทยุว่า "เมย์เด- May Day” พร้อมแจ้งพิกัด 6 ตัว พูดซ้ำเช่นนั้นไปเรื่อย ๆ เครื่องบินในบริเวณใกล้เคียงจะรีบบินไปตามพิกัดดังกล่าวเพื่อดูว่าจะช่วยอะไรได้
เครื่องเฮลิคอปเตอร์ลำที่ผมนั่งรีบมุ่งไปยังพิกัดดังกล่าว เมื่อไปถึงผมเห็นเครื่องบินเล็กอีก 2-3 ลำบินวนเวียนอยู่ในบริเวณนั้นแล้ว มีเฮลิคอปเตอร์ลำเดียวคือลำที่ผมนั่ง ถ้าค้นหานักบินที่ดีดตัวออกมาเจอ แน่นอนเลยว่าจะต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ลำที่ผมนั่งลงไปรับ
นักบินเครื่องบินรบพวกนี้จะมีชุดยังชีพฉุกเฉิน (Survival Kit) ในชุดยังชีพนี้จะมี
อุปกรณ์ส่งสัญญานต่าง ๆ เช่นไฟกระพริบ กระจกสะท้อนแสง ปืนยิงพลุส่องแสงอันเล็ก ๆ ชุดปฐมพยาบาล มีแม้กระทั่งเบ็ดตกปลา ฯลฯ
ผมก็เตรียมตัวเตรียมใจรับสถานการณ์ วันนั้นไม่ได้เอาปืนคาร์บินประจําตัวไปด้วย
ปืนสั้นจำไม่ได้ว่าติดตัวไปด้วยหรือเปล่า มองก็ไม่ค่อยเห็นอะไร เพราะตรงที่ผมนั่งอยู่ทัศนวิสัยไม่ค่อยดี นักบินก็ต้องบังคับเครื่องให้อยู่ในมุมที่นักบินเห็นชัดที่สุด ได้ยินแต่เสียงนักบินพูดโต้ตอบกันทางวิทยุ มีเสียงพูดหลายเสียงดูสับสนวุ่นวาย.
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย