20 พ.ค. 2022 เวลา 09:00 • นิยาย เรื่องสั้น
คนที่โสดหรือตั้งใจว่าจะไม่มีลูก มองไว้มั้ยคับว่าตอนแก่ลงแบบ 60+ จะหาความสุขในชีวิตจากอะไร
กระทู้คำถาม
ปัญหาชีวิตสังคมผู้สูงอายุความรักวัยทำงาน
เห็นตอนนี้คนที่อยู่เป็นโสดหรือคู่ที่แพลนไม่มีลูกมีเยอะขึ้น(ผมก็หนึ่งในนั้น 555) ซึ่งตอนนี้ก็มีความสุขดี ไม่มีภาระอยากเที่ยวไหนใช้จ่ายอะไรก็ไม่ต้องกังวล
แต่เริ่มสงสัยว่าพอเราแก่ไปมากๆ เช่น 60กว่าๆแล้ว ตอนนั้นเที่ยวไหนก็คงลำบาก อาหารอร่อยๆก็คงไม่อินเหมือนเดิม พ่อแม่จากไปหมดแล้ว เพื่อนๆค่อยห่ยไป ถ้าไม่มีลูกหลาน คนกลุ่นนี้น่าจะเหงาแย่เลย จะหาความสุขได้จากเรื่องอะไรบ้าง
ความคิดเห็นที่ 3
แล้วคิดว่า ตอนแก่อายุ 60 ปี จะได้มีความสุขกับลูกเหรอคะ
พ่อแม่จะอยู่ใกล้ชิดลูกก็แค่ตอนเด็ก ๆ เท่านั้น พอลูกเริ่มเป็นวัยรุ่น ลูกก็มีเพื่อน เริ่มไปเที่ยวโดยไม่มีพ่อแม่ประกบแล้ว
พอลูกเริ่มโตเต็มวัย ทำงานแล้ว ก็มีคู่ครอง แยกย้ายไปอยู่กับคู่ครอง ถึงมีหลาน หลานก็ต้องอยู่กับพ่อแม่ของหลาน
หรือกรณีที่ลูกเป็นโสด ถ้าอยู่กับพ่อแม่ก็แล้วไป แต่คนโสดบางคนก็เลือกที่จะไป
อยู่คนเดียวข้างนอกมากกว่าอยู่กับพ่อแม่
คนที่มีคู่สมรสเอง ถ้าได้ที่แก่ไปด้วยกันก็ดีค่ะ แต่ถ้ามันเลิกรากันไปเสียก่อน สุดท้ายก็อาจเหลือแค่ตัวเองอยู่ดี
ไม่ว่าจะคนแก่แบบไหนก็ต้องทำใจที่จะต้องอยู่คนเดียวทั้งนั้นแหละ และเพื่อนหาใหม่ได้เสมอ เพื่อนตายหมดแล้วก็หาเพื่อนใหม่ได้
ความคิดเห็นที่ 1
สุขไม่สุข อยู่ที่ใจครับ อยู่ที่ mindset ว่ามองรอบข้างแบบไหน ถ้ามองโลกแง่ร้าย มองเห็นแต่ความหดหู่ ชีวิตก็หาความสุขไม่มี แต่ถ้ามองแง่ดี รู้จักปลง รู้จักความจริงของชีวิต ไม่ยึดติดว่าความสุขต้องมาจากลูกหลาน ความสุขต้องมาจากการท่องเที่ยว ความสุขต้องมาจากได้กินของอร่อย ไม่เปรียบเทียบกับคนอื่นว่าทำไมเราไม่เป็นแบบนั้นแบบนี้ แค่นี้มองสิ่งรอบตัวก็หาความสุขเจอได้ในทุกวัน
ความคิดเห็นที่ 2
เมื่อถึงเวลานั้นความคิดของคุณก็จะปลงเพราะ
เรากำลังใกล้จะเข้าเลข 60
เรายังทำงานเคียงบ่าเคียงใหล่กับเด็กฝึกงานวัย 17
ลูก ๆ ก็คงอีกไม่นานคงย้ายออกไปหาสร้างครอบครัวเป็นของตนเอง
ความอยากของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อยากเที่ยวอยากกิน โน่นนี่นั่น
สุขภาพของคนเราก็ไม่เหมือนกันเช่นกันเมื่อเราแก่ตัวมา
เวลาจะทำให้ความคิดของคุณความกลัวของคุณเปลี่ยนไป
เรามีความสุขตามอัตภาพตามวัย
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสุขภาพค่ะ แก่แค่ใหนก็ควรจะมีสุขภาพที่ดี
สุขภาพที่ดีของเราคือไม่มีโรคประจำตัวที่จะต้องกินยาไปตลอดชีวิต ไม่เจ็บปวดนั่นนี่ของร่างกาย
ความคิดเห็นที่ 7
ปกติก้อยู่คนเดียวอยู่แล้ว จบมาทำงานฟรีแลนซ์ที่บ้าน ส่วนมากเลยอยู่คนเดียว
ชอบทำอะไรๆ คนเดียว มีความสุข
สิ่งที่อินคือกาแฟดำ และบรรดาสารพัดชาร้อน ซึ่งต่อให้อายุเยอะ เครื่องดื่มพวกนี้ก็ยังอินอยู่ดี
อาหารที่เลือกกินปกติ ก็เป็นอาหารสุขภาพทำเอง
เล่นโยคะ อ่านหนังสือ ดูซีรี่ส์(ไม่ใช้ซีรี่ส์ที่เน้นเรื่องความรัก ส่วนมากเป็นซีรี่ส์
อาชีพ สืบสวนสอบสวน ซึ่งก็ดูไปได้ทุกวัยอยู่แล้ว อายุเยอะก็น่าจะยังอินอยู่)
ปลูกต้นไม้ ทำขนมทั้งไทยทั้งต่างประเทศ (สนุกสนานกับการทดลองทำขนมหลายสูตรหลายชนิด)
เราเป็นพวกเห็นนั้นเห็นนี่แล้วอยากลองทำไปหมด
ซื้อด้ายซืออุปกรณ์ปักผ้าไว้นานแล้ว ยังไม่ได้เริ่มปักเลย เพราะยังไม่มีเวลา
มาช่วยพี่เลี้ยงหลานได้เกือบสองปีแล้ว
ช่วงนี้ก็จะใจฟูกับหลานทุกวัน แต่ก็โหยหาชีวิตเดิมๆ ที่มีเวลาทำนั่นทำนี่ของตัวเองอยู่ตลอดค่ะ
แก่ตัวไป งานอดิเรกที่เราเคยทำ ก็ยังคงทำได้เหมือนเดิม ไม่รู้สึกว่ามันจะแตกต่างตรงไหน
มีอะไรที่เราอยากทำเยอะแยะ อะไรที่หลายคนมองว่าน่าเบื่อ จะทำไปทำไม
แต่คือเราอยากทำ อยากลองทำ
ถ้าขอพรได้ข้อหนึ่ง อยากมีชีวิตอมตะด้วยซ้ำนะคะ
ซึ่งบางคนมองว่าอยู่ไปนานๆ คงน่าเบื่อ อยู่ไปแล้วญาติพี่น้องตายหมด จะอยู่ยังไง คงจะเหงาน่าดู
แต่เราไม่เหงา ชีวิตนี้ไม่เคยมีคำว่าเหงา ไม่เคยมีคำว่าเบื่อไม่อยากอยู่ หรือมีเวลาว่างเยอะแล้วไม่รู้จะทำอะไร
โลกใบนี้มีอะไรให้เราลองทำเยอะแยะค่ะ ชั่วชีวิตนี้คงทำไม่หมดด้วยซ้ำ เสียดายที่ชีวิตคนเรามันสั้นนัก
ความคิดเห็นที่ 9
เรากับแฟนไม่มีลูกค่ะ ตั้งใจว่าจะเก็บเงินให้ได้เยอะๆ พอแก่ตัวไปก็ใช้ชีวิตชิวๆ จ้างคนทำงานบ้านซักคน เลี้ยงหมา เลี้ยงแมว อ่านหนังสือ ฟังเพลง ไปเที่ยว ออกกำลังกายด้วยการพาหมาเดินเล่น เราว่าเดี๋ยวนี้มันมีกิจกรรมวัยเกษียณเยอะมากนะคะ แค่เราต้องคอยอัพเดทตัวเองด้วย ในยุคต่อไปเราว่ามันต้องมีเยอะกว่านี้แน่ๆ
เหมือนกับคนแก่ยุคนี้อะคะ ถ้าคนไหนทันโลก อัพเดทตัวเองตลอด ก็สามารถหาความสบายและบันเทิงได้ไม่ยาก เข้าเฟส เข้ายูทูป หา ebook อ่าน เปิดสตีมมิ่งดูหนัง เวลาจะไปไหนก็กดเรียกแกรปมารับไม่ต้องไปยืนโบก กดสั่งอาหารผ่านเดลิเวอรี่ ช็อปปิ้งออนไลน์ ซึ่งทั้งหมดนี้แม่เราในวัย 66 ทำได้หมด ก็ดูเค้าแฮปปี้ดีนะคะ
ความคิดเห็นที่ 12
อยู่กับตัวเองให้มากครับ เพราะไม่มีใครจะรักเราและอยู่กับเราเท่าตัวเราเองครับ ปฏิบัติธรรม เจริญวิปัสนา ดูจิต ดูใจตัวเอง หมั่นเจริญสติบ่อยๆ แค่ผมลองทำตอนยังไม่แก่ก็รู้สึกมีความสุขแล้วครับ บั้นปลายชีวิตที่ไม่เหลือใครคงทำแบบนั้น
ส่วนเงินทองก็หมั่นเก็บและใช้เท่าที่จำเป็นพอครับ การที่เราฝึกสติทุกวัน เราจะไม่เกิดกิเลสอยากมีอยากได้เหมือนใครเค้า เพราะถ้ามัวแต่ตามกระแส มีเงินเท่าไรก็ไม่เหลือครับ
1
ความคิดเห็นที่ 18
จะหาความสุข จากการติดตามข่าวสาร ที่เปลี่ยนแปลงของโลกทางโชเชียลทุกวัน
ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก ก็ติดตามได้
ตามเชียร์หลายชนิดกีฬาที่ชอบ ก็มีความสุขแล้ว
ทุกวันนี้ ก็ทำไปแล้ว และก็กำลังทำอยู่
ถ้ามีเวลา โอกาสกับเงินทองค่าใช้จ่าย
ก็จะออกท่องโลกเท่าที่จะมีแรงไปให้มีความสุขเพิ่มอีก
ความคิดเห็นที่ 19
ลูกหลานไม่ใช่ของเล่นยามแก่นะครับ รักษาสุขภาพ ไปวัดทำบุญ ปฏิบัติธรรม (ถ้าคนไม่เคยเข้าวัด เข้าไปได้แต่อย่าไปทำความเดือดร้อนให้คนอื่นนะครับ) คนไม่เคยเข้าวัด สวดมนต์ ปฏิบัติธรรม ก็หาหนังสือมาอ่าน ไปเลี้ยงเด็กที่สถานรับเลี้ยง
เด็กกำพร้า ตอนหนุ่มสาวทำอะไรแล้วมีความสุข (แล้วไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน) ตอนแก่ก็ทำแบบนั้นแหละครับ
ความเหงาเกิดจากมันว่างเกินไป ก็หาอะไรทำแก้เหงา ปลูกต้นไม่ เพาะต้นไม้ จัดตารางออกมาเลยครับ สนุกคิดกับการจัดตารางไปด้วยเลย
ความคิดเห็นที่ 22
เป็นคนชอบอยู่คนเดียวตั้งแต่สาว ๆ
จึงไม่คิดถึงวัย 60 เลยค่ะ
เพราะ ...
อยู่อย่างสุขคนเดียว
สุขกับการอยู่คนเดียวได้ค่ะ
แต่คงกลับไปอยู่บ้านที่แอลเอ
เพราะการดูแลคนชรา ดีกว่า
มีรถรับส่งไปห้าง ไปซื้อของ ไปเที่ยว
มีคนมาทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า พาไปหาหมอ
(รัฐจ่ายค่ะ)
ความคิดเห็นที่ 23
ที่คิดไว้นะ อายุซัก 60 จะไปเข้า retirement community ค่ะ ก็ไปกับเพื่อนๆที่ยังโสดด้วยกันนี่ล่ะค่ะ ไม่ก็ไปทำความรู้จักกันใหม่ กับเพื่อนใหม่วัยใกล้ๆกัน
ส่วนแนวทางการใช้ชีวิต มีสิ่งที่อยากทำเยอะมากกกกกก ทั้งวาดการ์ตูน ทำอนิเมชั่น ปั้น 3d เขียนโปรแกรม เล่นเปียโน อ่านหนังสือ ฝึกภาษา เดินเขา ฝึกปฏิบัติธรรม ก็คงทยอยทำเท่าที่สังขารจะอำนวยค่ะ แค่นี้ก็น่าจะใช้เวลาหลายปีล่ะ ไม่มีเวลาไปเลี้ยงลูกหรอกค่ะ
สำคัญคือต้องมีเงินนี่ล่ะ ก็ต้องโฟกัสเรื่องหาเงิน กะสุขภาพมากกว่า
ความคิดเห็นที่ 25
งานที่รัก เราเชื่อเรื่องมนุษย์เกิดมามีภารกิจต้องทำ
แรงบันดาลใจ เปรียบเสมือน สามีภรรยา เพราะจะปลุกให้เรากระตือรือร้นทุกเช้า
ผลงาน เปรียบเสมือน ลูก ถ้าเราไม่ทำ เขาจะไม่ได้เกิด
เรียนรู้ และ พัฒนาชีวิตในทุกๆวัน เพื่อเตรียมความพร้อมสู่โลกความจริงด้วยตนเอง
ความคิดเห็นที่ 27
อายุ 60 กว่าแล้วยังแข็งแรง ตื่นเช้าออกกำลังกายเป็นกิจวัตร ติดตามข่าว ดูความเป็นไปในสังคมม
ท่องพันทิป ไปเที่ยว ทานข้าวกับเพื่อน ดูซีรี่ย์ ปฏิบัติธรรม สวดมนต์ ตามตารางประจำวัน
หมดเวลาเหงา ขอให้สุขภาพแข็งแรงไว้
ลูกมีชีวิตของตัวเอง เจ็บหนักไม่ไหวค่อยพึ่งพาลูก ไม่คิดเป็นภาระให้ลูกหลานนาน
มาคนเดียว ไปคนเดียว อยู่กับตัวเองให้ได้ อยู่กับคนอื่นก็ได้
ความคิดเห็นที่ 28
เราว่าความสุขบั้นปลายชีวิต สำหรับเราคือ ความเรียบง่าย สงบ
เที่ยวเท่าที่ไหว อยากทำอะไรที่ฝันไว้ แต่ไม่มีโอกาสได้ทำตอนทำงาน
ก็จะทำ ...
ที่สำคัญต้องรักษาร่างกายให้แข็งแรง มองโลกในแง่บวก
มีความสุขในเรื่องง่าย ๆ ไม่มีเงื่อนไขเยอะ
ความคิดเห็นที่ 30
ขออนุญาตบอกว่า เบื่อ กระทู้แบบนี้ ได้มั่ยคะ
คำถามประเภท ไม่แต่งงาน หรือแต่งงานแล้ว ไม่มีลูก แก่ไปจะอยู่กับใคร ใครจะดูแล
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนค่ะ
อย่าเอาตัวเองไปเป็นภาระผู้อื่น
อ้อ…บอกก่อนว่า แต่งงานแล้ว มีลูกแล้วด้วย
แต่ชีวิตไม่แน่นอนค่ะ จะรู้ได้ไงว่าคู่ที่คุณแต่งด้วยจะไม่ป่วยให้คุณเป็นฝ่ายดูแล หรือเกิดเหตุไม่คาดคิด จากไปก่อนคุณ 60
ลูกก็เหมือนกัน อย่าเอาคำว่า กตัญญู มาขังลูก ยุตสมัยมันเปลียนไปแล้ว ไม่รู้อีกหน่อยลูกจะไปทำงานส่วนไหนของโลก จะได้อยู่ดูแลมั่ย
ดูแลตัวเองให้แข็งแรง ถ้าไม่แข็งแรง ก็เตรียมเงิน เตรียมประกันไว้ เพื่อนหาเมื่อไหร่ก็ได้ มีน้ำใจกับผู้อื่น ก็ได้น้ำใจกลับมา อย่าตั้งความหวังว่าจะมีใครมารับไปเป็นภาระ เป็นโดดเดี่ยวผู้น่ารักในบ้านพักคนชรา หรือ elder care ก็ได้ ทำตัวให้
เป็นประโยชน์ ปลูกต้นไม้ ทำงานอดิเรก เป็นอาสาสมัคร มีอะไรให้ทำเยอะเลย ถ้าอาสาทำฟรีนะ ยังคิดว่าเกษียณ จะไปอาสาทำงานที่ห้องสมุดชุมชน แบ่งเวลาอ่านหนังสือเสียงให้ผู้พิการ เบื่อๆก็เปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวบ้าง ตราบใดที่มีเงินพอใช้ สุขภาพแข็งแรง อยู่ได้สบาย
ความคิดเห็นที่ 36
ความสุขของคนแก่จะไม่เหมือนความสุขของคนหนุ่มสาว ตอนเป็นหนุ่มเป็นสาวมักจะมีความสุขที่ได้รู้สึกตื่นเต้นแปลกใหม่ อะดรีนาลีนพุ่งปรี๊ด ได้ทำสิ่งใหม่ๆ ได้เจอคนใหม่ๆ ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ และได้ทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ แต่พอแก่ตัว แค่ได้ทำภาระกิจเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวันได้อย่างสมบูรณ์ ก็รู้สึกพอใจ ดีใจและหายกังวล
ความรู้สึกที่ไม่ต้องกังวล ก็คือความสบายใจ และความสบายใจนี้เองมันจะทำหน้าที่แทนความสุขไปโดยปริยาย ภาระกิจเล็กๆ น้อยๆ ที่ว่า ก็มีตั้งแต่ การมีอาหารบนโต๊ะครบ 2-3 มื้อเมื่อร่างกายต้องการ การได้นอนเต็มอิ่ม การเห็นข้าวของอยู่เป็นที่เป็นทาง เดินเหินสะดวก ไม่เจ็บไม่ปวด ไม่เกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง ไม่ลืมของไว้ ไม่หลงทาง ไม่เดินชนใคร ไม่เป็นปัญหาให้ใคร ลุกไปเข้าห้องน้ำ
เองได้ ถือของมีน้ำหนักเองได้ ไปธนาคารเองได้ มีเงินใช้เอง ตัดเล็บเองได้ มือไม่สั่น ยังล้างจานชามได้สะอาด ยังหยิบของจากที่สูงได้เอง ฯลฯ การได้ complete basic daily tasks เหล่านี้ก็ทำให้ร่างการหลั่งสารแห่งความสุขเพื่อเป็นการให้รางวัลกับร่างกายเช่นกัน และเมื่อต้องทำทุกวัน มันก็ทดแทนความสุขได้
ความคิดเห็นที่ 39
คนแก่ตัวคนเดียวเขาอยู่ของเขาได้มีเยอะแยะครับ ลุงแถวบ้านแกอายุ89ไม่มีเมียไม่ไมีลูก แกอยู่คนเดียวมาตั้งแต่หนุ่มจนเกษียณหลานๆก็ไม่ได้มาอยู่ด้วยแค่ไปๆมาๆ ไม่มีโรคไม่เคยป่วยเดินเหินได้เองทำอะไรได้เองหมด วันแกตายแกยังเดิน
เหินไปมาปกติ แต่แกว่าแน่นหน้าอกหนุ่มๆแถวบ้านเลยพาไปโรงพยาบาลแกก็เสียคืนนั้น บทจะไปก็ไปง่ายๆเลย ผมเจอคนอายุ80+อยู่คนเดียวเยอะอยู่ครับ พวกนี้แข็งแรงสุขภาพดี ผมถามเขาทั้งผู้หญิงผู้ชายเขาว่าไม่ได้ลำบากอะไร สบายซะอีกไม่มีคนรบกวน ไม่กลัวเรื่องอยู่คนเดียวถ้าเจ็บป่วยจะไม่มีใครไปหา
หมอหรอ เขาว่าไม่กลัว เขาบอกจะตายเมื่อไรก็ช่างมัน บางคน80-90ชอบพูดทำไมมันไม่ยอมตายซักทีแล้วก็หัวเราะ เขาว่าใครอยู่ก็จัดการเอา จะทิ้งให้เน่าก็ตามใจ พวกนี้เขามองโลกง่ายๆมากครับ ไม่มีความกังวลกับอะไรเลย อยู่ง่ายกินง่าย ผมคิดว่าเพราะสุขภาพจิตเขาดีเขาเลยไม่ป่วยอะไร แถมยังมีแรงทำทุกอย่างเองได้แม้จะอายุ80-90 อายุ80กว่าขับรถเองไปจ่ายตลาดสบายมีเยอะครับ
คนเราถ้าสุขภาพจิตดีตั้งแต่หนุ่มสาวแก่ตัวไปสุขภาพจิตก็จะดี ปลงตกหมด ใช้ชีวิตชิลๆไม่กังวลกับอะไร ฉะนั้นก่อนจะแก่ต้องฝึกวิธีคิด ฝึกไว้ตั้งแต่ยังไม่แก่ พอเข้าวัยกลางคนอะไรปลงได้ก็ปลง อย่าไปคิดมากกับอะไร เพราะสุดท้ายยังไงก็ตายเหมือนกันทุกคน
คนไทยเป็นโรคคิดมากกลัวสารพัด แก่ตัวมาหมดอาลัยตายอยากกับชีวิต แก่แล้วไม่มีพลังชีวิตจนต้องพึ่งคนอื่น เกิดเป็นคนมันต้องสู้อย่าหวังพึ่งแต่คนอื่น อย่ามีลูกเพื่อเป็นทาสตัวเอง อย่าจับลูกใส่ข้อหากตัญญูมาเป็นตัวประกันชีวิตตัวเอง ลูกควรได้ใช้ชีวิตของเขาอย่างมีความสุขที่สุด คนเราถ้าคิดบวกมองโลกในมุมมองที่
ดีจะอยู่ในสถานะไหนก็มีความสุข อย่ากลัวอนาคตเพราะไม่มีใครรู้อนาคต อย่าเกรงกลัวกับสิ่งใดๆ ใช้ชีวิตให้ดีคิดให้เป็น แก่ตัวมาแล้วจะได้ไม่ต้องพึ่งใครให้เสียศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เกิดเป็นมนุษย์ต้องสู้จนลมหายใจสุดท้ายจึงจะสมศักดิ์ศรีที่ได้เกิดมา
ความคิดเห็นที่ 45
ไม่มีลูกก็ต้องมีเงินค่ะ >wO ทำงานให้เต็มที่ เงินเก็บก็ต้องฟูด้วย เดี๋ยว 60 แล้วก็จะไม่รู้สึกพิเศษหรอก เล่นกับลูกคนอื่นแทนก็ยังได้
สิ่งที่พิเศษของความเป็นพ่อคนแม่คน ก็คือได้ลิ้มรสชาติชีวิตที่คนไม่มีลูกไม่มีวันมีได้ค่ะ มันจะหวานอมขมกลืนพิกล ใครที่พอใจก็แล้วไป แต่ถ้าไม่พอใจก็ถึงขั้นเดือดร้อนเลยทีเดียว
การมีลูกก็มีข้อดีข้อเสียเหมือนเรื่องอื่นๆ แน่นอนว่ามีสิ่งที่ทดแทนกันได้เหมือนเรื่องอื่นๆ ค่ะ ถึงเวลานั้นคุณจะเลือกได้เองว่าจะเอาอะไรมาทดแทนการมีลูก คือเรื่องที่ทำได้มีกองเป็นภูเขาเชียวล่ะ ส่วนใหญ่ก็งานอดิเรกคนแก่ค่ะ ใช้แรงไม่มาก
เน้นใช้เวลากับความเอาใจใส่ อาจจะเป็นหมวดสัตว์เลี้ยง หรือที่ปลอดภัยกว่าก็คือต้นไม้ หมวดการรักษาสุขภาพเช่นการออกกำลังกาย ไอ้ที่คุ้มแน่ๆ คือการมีสังคมในกลุ่มคนวัยเดียวกันค่ะ กิจกรรมจะหลากหลายขึ้นอีกเยอะ บริการสาธารณะก็ดูน่าสนุกดี มันเยอะซะจนพูดไม่หมด
การมีลูกหลานเพื่อมาเลี้ยงตัวเองตอนแก่ เป็นแนวคิดจากโลกยุคโบราณค่ะ สืบทอดมานานจนดูคล้ายกฎ แต่ใช่ว่าจะถูกต้องทั้งหมดเหอะ มันก็เปลี่ยนไปตามโลกอะเนาะ คุณอาจะต้องสู้กับแนวคิดนี้อยู่บ้าง แต่สุดท้ายก็เลือกทางที่ตัวเองมีความสุขเถอะค่ะ ความสุขตามวัยนั้นมีหลากหลายเชียวล่ะ
ความคิดเห็นที่ 48
สำหรับเราความสุขของการมีชีวิตไม่ใช่การแต่งงาน มีครอบครัว มีลูก การแต่งงาน มีครอบครัว มีลูกเป็นเหมือนค่านิยมที่สังคมปลูกฝังมา
แต่เดี๋ยวก่อน เรื่องการแต่งงาน มีครอบครัว มีลูกไม่ใช่เรื่องที่เราสามารถควบคุมได้สักหน่อย ใครจะไปรู้ว่าคนไหนคือเนื้อคู่ ใครจะไปรู้ว่าจะมีแฟนตอนไหน ใครจะไปรู้ว่าแต่งงานกับใคร
เนื่องจากปัจจุบันที่โลกเดินทางมาถึง 2022 แล้วพบว่าการอยู่คนเดียวมันไม่ได้แย่อะไร แต่การมีคู่ที่ไม่มีความสุขนั้นกลับแย่ยิ่งกว่า
เราคิดว่าถ้าเราโสดจนไปถึงอายุ 60 ปี ตอนนั้นเราคงมีความสุขกับชีวิต กับกิจกรรมที่เราเลือกนั่นแหละ ตอนนี้เรามี passion หลงใหลในสิ่งนี้ ตอน 60 ปีมันก็เรื่องของ passion ในตอนนั้นว่าเราแฮปปี้กับอะไร งานอดิเรกที่เราชอบ หรือเราอาจจะยังทำงานในแบบที่เราทำได้
แค่กว่าจะไปถุงจุดนั้น เราจะเตรียมพร้อมเรื่องการเงินของตัวเองให้ใช้ชีวิตได้โดยไม่เดือดร้อนใครเท่านั้นแหละ
ความคิดเห็นที่ 51
เก็บเงินแล้วไปอยู่บ้านพักของคนชราแบบครบวงจรดีๆที่เชียงใหม่
เราเองตั้งแต่เรียนจบตรี​ ก็บอกแฟนที่คบกันมายาวนานว่า​ ถ้าแต่งงาน​ เราจะไม่มีลูกนะ​ เพราะเห็นข่าวเด็กโดนลักพาตัว​ โดนคนสนิท​ คนข้าง​บ้าน​ พาไปข่มขืน​บ้าง​ เด็กผู้ชาย​อยู่​โรงเรียน​ยังถูกครูตุ๋ย​ คือ​ไม่มีที่ไหนเลยที่ปลอดภัย​ มีแล้วเครียด​ ไม่มีนะ
จนถึง​ปัจจุบัน​ก็ไม่มีลูก​นะคะ​ ยังคิดแบบเดิม​ แล้ววางแผนเก็บเงินไว้ใช้ยามชรา​ ไปอยู่ที่บ้านพักแบบครบวงจร​ที่บอกแหละค่ะ​ มีทุกอย่างในนั้นเลย​ หมอ​พยาบาล​ ส่วนหย่อม​ สนามกีฬา​ในร่ม​ กลางแจ้ง​ ฯลฯ
ไม่เครียดเลยค่ะที่ไม่มีลูก
เรารักเด็กนะ​ หลานๆเรานี่เลิฟทุกคน​ เวลาจะเจอกันจะขนซื้อ​ขนม​ ของเล่น​ สานพัดไปให้​และสนิทกันดีมาก
ความคิดเห็นที่ 53
คนที่ไม่มีความสุขต่อให้มีคู่มีลูกชีวิตก็ไม่มีความสุขแถมพาลให้คนรอบตัวทุกข์ไปด้วย
คนที่เติมเต็มในตัวเอง มีความสุขด้วยตัวเองถึงจะอยู่คนเดียวหรือมีคู่ก็มีความสุขได้เหมือนกัน
เพื่อนหรือคนรอบตัวที่รู้จักกันตั้งแต่แฟนคนแรกจนเลิกกับแฟนคนสุดท้ายทุกวันนี้ก็ยังคุยกันอยู่
แฟนน่ะคงทนน้อยกว่าเพื่อนที่คบกันเพราะความชอบและตัวตนจริง ๆ ของเราด้วยซ้ำไป
และเพื่อน ๆ เราก็โสดกันหมดไม่คิดจะหาแฟน บางคนบ้านรวยก็เบื่อผู้หญิงเห็นแก่ตัวที่เข้าหาเพราะผลประโยชน์
บางคนยังมีภาระทางการเงินก็ไม่อยากไปจีบใครให้โดนตอกหน้าหงายกลับมา
บางคนก็ชอบชีวิตอิสระไม่ยึดติดกับใคร มีผญ ที่ทำงานมาจีบก็ไม่สน เป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันไป
คนเหล่านี้น่าจะเป็นเพื่อนชีวิตยามแก่มากกว่าภรรยาหรือแฟนที่เลิกกันก็กลายเป็นคนอื่น มันไม่ได้คงทนอะไรขนาดนั้น
ถ้าเอาชีวิตไปยึดติดกับคนรักคงไม่รู้สึกมั่นคงไปตลอดชีวิต
ลองไปดูเหล่ากระทู้ฮิตของพันทิพย์ได้ แค่ตกงาน การงานการศึกษาไม่สูงพอ ไม่ขับรถหรือมีรถ ให้มาช่วยกันผ่อนบ้าน ผู้หญิงก็พร้อมจะทิ้งไปหาคนใหม่แล้ว แล้วผู้ชายที่วิ่งตามความรัก ขาดเป้าหมายในชีวิตของตัวเองในสายตาผู้หญิงกลับดูเป็น loser มากกว่าจะรู้สึกชื่นชม
ความคิดเห็นที่ 55
สภาวะสังคม เศรษฐกิจของประเทศเราในขณะนี้ ยังไม่เหมาะกับการสร้างครอบครัวครับ ทุกอย่างเป็นภาระ ต้องใช้เงินทั้งสิ้น ลำพังตัวเราเองคนเดียวยังเอาไม่รอดเลย
ผมก็เป็นคนนึงที่รู้สึกแบบ จขกท และเชื่อว่าคงมีคนอีกอย่างน้อย 1 ล้านคนในประเทศไทย หรือมากกว่านั้นที่อยู่ช่วงวัยไล่ๆกับ จขกท ที่กำลังคิดแบบเดียวกัน อยากให้ จขกท คิดว่ามีเพื่อนร่วมชะตากรรมแบบเดียวกับคุณอีกเป็นล้านคนในอนาคต
แนะนำว่าทำใจให้สบายครับ เพื่อนหาใหม่ตอนไหนก็ได้ ไม่เว้นแม้แต่ตอนแก่ครับ ไม่เหงาหรอก เชื่อว่าใน 1 ล้านคนที่ผมว่าจะต้องมีจำนวนหนึ่งที่กลายมาเป็นเพื่อนของคุณในยามแก่เพราะมีชะตาเดียวกับคุณครับ เราจะจับมือฝ่ามันไปด้วยกัน
ความคิดเห็นที่ 56
เราอยากเก็บเงินไว้ดูแลตัวเองให้ได้ก้อนนึง อยากใช้ชีวิตสงบๆกับหมาแมวที่เลี้ยง
ไม่อยากให้ใครห่วง อยากเก็บเงินแล้วก็เตรียมตัวทุกอย่างที่ดูแลตัวเองได้
เพราะตัวเราเองมีความสุขกับชีวิตโสดดี เราไม่อยากแต่งงาน ไม่คิดจะอยากกลับไปมีแฟนอีกแล้วด้วย
เราก็เตรียมตัวทำพวกประกันชีวิต ประกันสุขภาพไว้เผื่อป่วย (แต่คือเรายังไม่แก่นะ 55+ แค่อยากเตรียมตัว)
แล้วก็เก็บเงินในพวกกองทุนรวม มันจะมีพวกกองทุนสำหรับใช้ในวัยเกษียณด้วย
เรากลัวการที่ทุกๆคนในชีวิต ค่อยๆพากันจากโลกนี้ไปทีละคน ยิ่งคิดว่าซักวันพ่อแม่ก็ต้องจากไปเหมือนกัน
เราเศร้าแล้วก็ทำใจไม่ค่อยได้ด้วย ไม่รู้จะอยู่ยังไงดี
จนวันนึงเราเลื่อนไปเจอไลฟ์ของคุณยายคนนึง เค้าเล่นดนตรีแล้วก็ร้องเพลงให้หมาฟัง เค้ามาไลฟ์สดอยู่บ่อยๆ
หลังจากนั้น เราก็ไปดูไลฟ์เค้าบ่อยๆ ตอนอายุเท่าเค้า เราก็อยากเป็นแบบคุณยายเค้า ดูมีความสุขดี
ตอนนี้คุณยายเลยเป็นไอดอลของเราเลย
ความคิดเห็นที่ 65
อยู่คนเดียว หาอะไรทำก็ได้ค่ะ ปลูกต้นไม้ ดูหนัง ฟังเพลง ไปเที่ยว นั่งเล่นหน้าบ้าน ไปสวนสาธารณะ หาสมาคมคนแก่ ทำอาหาร ขายของหน้าบ้าน เล่นเกมส์ เป็นอาสาสมัคร สารพัดจะทำ สิ่งสำคัญคือเงินๆๆๆ ตอนยังไม่แก่จงเก็บเงินไว้ ไม่งั้นเราก็จะแก่แบบไม่คุณภาพ ต้องอยู่แบบจำกัดขำเขี่ย กลัวเงินหมดก่อนตาย
ส่วนบางคนที่มีลูก พอแก่ๆลูกก็ไปทำงานหมดแล้ว ดีไม่ดีทะเลาะกันย้ายออกไปนานแล้วค่ะ
ส่วนตัว มีลูกคนที่สองตอน 42 พออายุ 60 ลูกก็จะอายุ 18 เข้ามหาลัยพอดี แก่ขนาดนี้ยังต้องส่งลูกเรียนอีก 4ปีเป็นอย่างต่ำ อิสระในชีวิตอยู่ที่ใด เห็นกระทู้แบบนี้แล้วก็อิจฉาคนโสดค่ะ
ความคิดเห็นที่ 67
อะไรทำให้เจ้าของกระทู้มั่นใจ ว่า
ถ้ามีลูก ในวัย 60+ จะหาความสุขได้มากกว่า คนอื่นในวัย 60+ ที่ไม่มีลูกครับ??
ในวัย 60+ บางคน มีลูก
- ยังต้องทำงาน เพื่อช่วยเหลือรายจ่ายของลูกๆ
- ลูกๆนั่งรอให้พ่อแม่ตายๆไปเสียที จะได้แบ่งมรดกกันให้เสร็จๆ จบๆไป
- ลูกกี่คนๆ พอมีหลาน ก็โยนมาให้พ่อแม่เลี้ยง โดยค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดู พ่อแม่วัย 60+ ต้องจุนเจือเอง
ฯลฯ
ความสุขของมนุษย์ แตกต่างกันไปแต่ละบุคคลครับ
ผมมีลูก ผมไม่เคยคาดหวังให้ลูกมาดูแลผมยามชราครับ
ผมบอกลูกไว้แล้ว ว่า เมื่อผมถึงวัยชรา ผมจะย้ายไปอยู่สถานสงเคราะห์ คนชรา
ผมบอกลูกว่า
ผมอยากให้ลูกได้ใช้ชีวิตตามวัย อย่างเต็มที่ ไม่ใช่ว่า ก่อนไปทำงานต้องล้าง
หน้าแปรงฟันอาบน้ำแต่งตัวป้อนข้าวป้อนน้ำพ่อ พอเลิกงานมาเพื่อนๆชวนกันไปสังสรรค์ก็ไปไม่ได้เพราะต้องกลับมาดูแลพ่อ ผมบอกลูกไปชัดเจนว่า ผมไม่อยากเป็นตัวถ่วงในการใช้ชีวิตของลูก วันหนึ่งลูกมีครอบครัว ลูกก็ต้องมีเวลาใส่ใจดูแลคู่ครอง มีลูกก็ต้องดูแลลูก ไม่ใช่เอาเวลามาดูแลพ่อวัยชราครับ
ชีวิตที่ผ่านมา ผมใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตามอัตภาพของผมแล้ว เมื่อแก่ชรา ผมอยู่นิ่งๆเฉยๆ นึกถึงความสุขที่ผมเคยมีในวัยหนุ่มๆ ผมก็พอใจแล้วครับ.
ความคิดเห็นที่ 69
เราหกสิบสอง เกษียณมาสองปี ชอบวันที่ผัวและลูกไม่อยู่บ้านที่สุด อยากตื่นสายก็ได้ ใส่ชุดนอนดูซีรี่ส์ ดื่มโค้ก กินเลย์แทนข้าว หรือสั่งไก่บอนชอนมากินบ้าง ไม่ต้องทำอาหารที่ลูกผัวชอบกิน ว่างๆก็ไปว่ายน้ำ กินกาแฟกับเพื่อนฝูงตอนบ่าย นี่เพื่อนโรงเรียนเก่ากำลังจะจัดทัวร์หลังโควิด จะไปคนเดียวก็ไม่ได้ ผัวเคยเรียนห้องเดียวกัน อยากเม้ามอย เที่ยวกับเพื่อนๆมัยม ลูกชวนไปเที่ยวต่างประเทศ เรา
ก็ยังลังเล มีลูกไปด้วยกลับกังวล เป็นห่วงเขา กลัวเขาไม่ตรงเวลา คนอื่นจะว่า
คนโสดถ้าสุขภาพดี ไม่น่าห่วงนะ เพื่อนเราที่โสด ดูจะมีความสุข มีอิสระดี แต่มีญาติเรา โสด อายุแปดสิบกว่า เริ่มกังวลบ้าง กลัวตายอยู่คนเดียว จริงๆแล้วในโลกสมัยใหม่ ทุกคนมีสิทธิตายคนเดียวในบ้านทั้งนั้น
หมายเหตุ: ขอแก้จขกทหน่อย หกสิบยังไม่เรียกว่าแก่มากๆนะ แก่เฉยๆ
ความคิดเห็นที่ 70
คนที่มีลูกไม่ได้คิดว่าจะพึ่งลูกหรือให้ลูกมาอยู่ด้วยหรอกครับ แต่พื้นฐานของคนคือ สัตว์สังคมครับ และสังคมแรกของคนก็คือ ครอบครัว เมื่อไม่มีลูกก็เท่ากับสังคมส่วนหนึ่งมันหายไป บางคนบอกว่า เราก็มีเพื่อน ใช่ครับ แต่นั้นมันคือสังคมที่สองที่สาม ซึ่งถ้าเพื่อนเราเขามีสังคมที่หนึ่ง ความสำคัญของสังคมที่สองสามของเพื่อนจะน้อยลงครับ คนเราถูกหล่อเสี้ยงด้วยความฝันและความหวังครับ และ
ลูกคือส่วนหนึ่งของนิยามนั้น เมื่อไรที่เราขาดความฝันและความหวัง โรคซึมเศร้าจะเข้ามา เพราะเราไม่รู้จะอยู่ไปเพื่ออะไร บางคนที่ไม่มีลูกหรือสังคมพอถึงจุดนี้ ก็จะอยู่เพื่อรอ เแก่ เจ็บและตาย เคยเห็นคนแก่บางคนไหมครับ เดี๋ยวซ่อมบ้าน เดี๋ยวซื้อที่ ทำโน้นนี้ไว้ให้ลูกทั้งที่ลูกไม่เคยกลับมาหาแกเลย แต่แกทำตามความฝันและความหวังครับ ฝันและหวังว่าลูกจะไม่ลำบากตอนแกไม่อยู่
ความคิดเห็นที่ 72
มีลูก 2 คน ก็ไม่เคยคิดจะพึ่งลูก
แต่ถ้าลูกจะให้พึ่ง ก็เป็นบุญ
ได้ทำเลที่จะอยู่ตอนบั้นปลายชีวิตแล้ว
ใกล้โรงพยาบาล ใกล้วัด ใกล้ 7 ใกล้ตลาด ใกล้ห้าง
เดินไปได้ทุกที่ ไม่เกิน 100 เมตร
ยกเว้นวัด ไม่ต้องเดิน เพราะบริจาคร่างให้โรงบาลแล้ว
มีระเบียงบ้านให้เดินออกกำลังกาย
มีสวนเล็กๆ บนระเบียง เพาะปลูกเรื่อยเปื่อย
อย่างน้อย ตื่นขึ้นมา ก็ยังมีความหวัง ว่าจะได้เห็นเมล็ดพันธุ์ มันงอกขึ้นมา
พยายามเดินให้เยอะ เพื่อสุขภาพที่ดี
จะได้ไม่เป็นภาระใครๆ
ผูกมิตรกับข้างบ้านไว้
ยังคิดไม่ออกว่า
ถ้าวาสนาดี ได้นั่งกินนอนกินติดเตียง
จะทำยังไง?
เผื่อใจไว้แล้ว ว่าต้องไปอย่างโดดเดี่ยว
แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว
ความคิดเห็นที่ 76
อันนี้ที่เราทำอยู่นะ...บอกตรงๆเส้นทางมันราบเรียบแอบเหงาแต่ทำได้จนแก่
• ได้ปลูกพืชผัก ดอกไม้ ที่ชอบดูชอบกิน
• ออกกำลังกายตามสวนสาธารณะ
• อ่านหนังสือ ดูอนิเมะที่ชอบ
• ฟังธรรมปฏิบัติบ้าง
• ไปตลาดหาของอร่อยกิน
• นัดเจอเพื่อนกินข้าว ไปเที่ยวตจว.บ้าง
• สมัครเรียนเข้ากลุ่มโคกหนองนา
• เข้ากลุ่มอาสาตามโอกาส
• หาโอกาสไปเยี่ยมญาติและคนรู้จัก
• ทำงานไปเรื่อยๆจนกว่าจนกว่าจะไม่ไหวหรือนายจ้างให้เลิก
อันที่เราอยากทำ...เพราะมันสนุกมากได้เจอเพื่อนใหม่สังคมใหม่ตลอดเวลา
• เรียนเต้นต่อจนเป็นระดับโปร
• รับงานอีเวนต์หรืองานสอนเพื่อฝึกฝีมือและรายได้เสริม
• เข้ากลุ่มและมีงานแสดงตามตปท.
แต่เราตัดสินใจไม่ไปต่อเพราะต้องใช้ชีวิตกลางคืนเยอะ...บั่นทอนสุขภาพเกินไป
• ย้ายไปใช้ชีวิตบั้นปลายทำงานต่างประเทศ...ออกแนวตื่นเต้นผจญภัยไม่รู้ชะตากรรม
ตอนนี้เพื่อนย้ายไปกันเยอะเลยชวนถี่ๆ...แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไปเพราะเท่าที่เคยไปใช้ชีวิตทำงานหลายๆครั้ง...พบว่า
- กินอยู่ลำบากกว่าเมืองไทย ถ้าอยากกินรสชาดที่ชอบต้องทำกินเอง อาหารไทยแพงและไม่อร่อย
- การใช้ชีวิตแบบอยากกินของอร่อย อยากช้อปและไปไหนที่อยากไปมันใช้เงินเยอะกว่ามาก
- และมันก็เหงามากๆ (อยู่เมืองไทยไปร้านตามสั่งยังถามเขาได้ว่าขายดีไหม, เมืองนอกคงคุยแบบนี้ไม่ได้)
- ไว้ใจใครไม่ค่อยได้ทั้งคนชาติเดียวกัน,ต่างชาติพลเมืองชั้น2เหมือนกันและฝรั่งคนท้องถิ่น...มีเรื่องมีราว,เจ็บป่วยไม่ค่อยสะดวกเหมือนเมืองไทย...
ความคิดเห็นที่ 82
เราชอบคนที่มาตอบคำถามมากกว่าพวกมาติเตียน จขกท ว่าทำไม ไม่คิดอย่างนั้น ทำไมไม่คิดอย่างนี้ เค้ามาถามก็ตอบไปหมดเรื่อง จะมากะเกณฑ์ให้คนอื่นคิดแบบเดียวกะคุณมันใช่เรื่องเหรอ
เราเองยังไม่ 60 แต่ดูจากพ่อเรา เค้าอยู่คนเดียว 80 กว่าแล้ว มีความสุขดี ทุกวันเราจะเดินไปหาที่บ้าน นั่งคุยแป๊ป ๆ ก็จะเห็นว่าเค้าตื่นเช้า รดน้ำต้นไม้ กินกาแฟพร้อมกับนั่งดูข่าวไปด้วย พอสาย ๆ หน่อย 9.00 น.ก็กินอาหารเช้าที่เรายกไปให้ แล้วก็อ่านหนังสือพิมพ์ สายอีกหน่อยก็เดินสวน ตัดหญ้า ถอนวัชพืช ใส่ปุ๋ยมั่ง ค่อย ๆ ทำไปวันละนิด พอเที่ยงก็กินข้าว บ่ายดูละครแป๊ปนึง แล้วก็พักสายตา
บ่ายสามกว่ากินกาแฟพร้อมขนมอีกหน่อย พอเย็นก็ดูข่าว ออกกำลังกายเล็ก ๆ น้อย ๆ แกว่งแขนบ้าง เดินบ้าง แล้วก็กินข้าวเย็น อ่าวหมดไปวันนึงละ ท่านยังขับรถไปไหนมาไหนได้ นาน ๆ ก็ไปเยี่ยมเพื่อน เยี่ยมญาติที แต่เวลาเราชวนให้ไปกินข้าวข้างนอกจะไม่ค่อยไป บอกขี้เกียจออกจากบ้าน อยู่บ้านมีความสุขมีทุกอย่าง แต่ท่านจะชอบไปตลาดนัดตอนเย็น ซื้อผลไม้บ้างไรบ้าง ตามเรื่อง
สรุปแล้วเราว่าอยู่ที่คนแหละ จะชอบทำอะไรก็แล้วแต่บุคลิกของตนมากกว่า
ความคิดเห็นที่ 84
เรามีลูกค่ะ
เพื่อนสนิทในกลุ่มไม่มีลูก
ชีวิตของเค้าจะพยามยามหาอะไรทำกัน เช่น บางคนเป็นติ่ง บางคนไปบ้าออกกำลังกาย
ส่วนเราวนอยู่กับงานและลูก
แต่สำหรับตัวเอง ถึงไม่มีลูก ก็คิดว่าอยู่อย่างมีความสุขได้ เพราะแม่ฝึกให้อยู่คนเดียวแต่เด็ก มีหนังสือเป็นเพื่อน เที่ยว เดินทางคนเดียว ทุกวันนี้ ก็ยังสามารถทำอะไรเองคนเดียวได้สบายๆและไม่น้อยใจชีวิตอะไร
เราว่าอยู่ที่คน ถ้าตอนนี้คุณ depend กับครอบครัวและคนรอบข้าง แน่นอน ตอนแก่คุณไม่มีลูกคุณคงเหงา และเศร้า
แต่สำหรับคนที่ได้ฝึกตัวเองอยู่คนเดียว ช่วยเหลือตัวเองมาตลอด เค้าอยู่กันได้สบายๆ
ความคิดเห็นที่ 85
เกษียณตัวเองจากงานซะที จะได้มีเวลาพักผ่อน เข้าวัดปฏิบัติธรรม
และจะหาเวลาว่างไปทำงานการกุศล จิตอาสา หน่วยงานที่ทำเพื่อสังคม
ตอนนั้นคงจะเต็มอิ่มกับชีวิต กอบโกย หาความสุขพอแล้ว
ก่อนตายก็อยากจะทำอะไรให้สังคม หรือถ้าไม่อยากอยู่เฉย ๆ
ออกรถซาเล้ง ตระเวนเก็บขยะ ตามถนนหนทาง ชายหาด พื้นที่รอบบ้านก็ได้
น่าจะมีอะไรให้ทำเยอะครับ
ความคิดเห็นที่ 92
เรออยู่ลอนดอนนะ คนแก่ๆที่นี่ส่วนใหญ่จะอยู่คนเดียว มีลูกหลานมาเยี่ยมบ้างเป็นครั้งคราว หลายคนก็คิดแบบเจ้าของกระทู้ครับในสมัยยังหนุ่มสาวแต่งงานมี
ครอบครัวมีลูก แต่วัฒนธรรมฝรั่งเขาไม่คิดหวังว่าลูกหลานจะมาดูแล หรือมีลูกหลายเอาไว้ใช้ประโยชน์แบบคนไทย เขาเลี้ยงให้มีชีวิตที่ดีแล้วก็ปล่อยให้ไปใช้ชีวิตของใครของมัน ส่วนคู่รักส่วนใหญ่จะไม่ได้อยู่กันจนแก่เฒ่าไปพร้อมกัน ตายจากกันก่อนเวลาอันควรบ้าง เลิกกันเป็นส่วนใหญ่ คนที่นี่ชอบไปดื่ม ผับ บาร์ แก่ๆ
ก็ยังไป พอเมา มีอารมณ์ เจอคนใหม่ ก็นอกใจ จบลงด้วยการหย่าร้าง เด็กๆที่นี่บอกเลย น้อยคนที่จะมีพ่อแม่จริงๆคู่เดียว ส่วนใหญ่อยู่กับแม่กับพ่อใหม่ พ่อจริงๆมาเยี่ยมบ้างวันเกิดวันพิเศษ เราเห็นมามีแต่แบบนี้ทั้งนั้น แต่คนแก่ที่นี่ดีหน่อยที่รัฐบาลมีสวัสดิการดีๆให้พวกเขาจึงหมดปัญหาเรื่องค่าครองชีพไป แค่ใช้เวลาไปกับการทำสวนปลูกต้นไม้ ดูทีวี ฟังเพลง แล้วก็ตายอย่างสงบในบ้านหรืออพาร์ตเมนต์เล็กๆ
ความคิดเห็นที่ 93
ผมก็คงทำอย่างที่ทำอยู่ทุกวันนี้
เดิน ปั่นจักรยาน เที่ยวใกล้ๆบ้าน เพราะ ชอบที่นี่ ทะเลภูเขาเคยไปแต่เฉยๆ
กินแต่ของที่ชอบ ซึ่งมันราคาถูก อร่อย มีประโยชน์ ของมันเอง
ตอนนี้ลูกสาม อายุสิบกว่าปี เลี้ยงเองสอนเอง ให้มีปัญญา อนาคตแต่ละคนใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแน่นอน
เพื่อนบางคน ชอบเที่ยวต่างประเทศ
บางคนชอบกินเหล้า บางคนชอบการพนัน บางคนชอบมีเมียน้อยลงอ่าง
ก็ทำไปตามอัตภาพ
ส่วนผม กิจกรรมที่ทำอยู่ ใช้เงินไม่มาก
ก็ต้องอาศัยลูกหลานช่วยกันใช้ทรัพย์สมบัติที่พอมีอยู่บ้าง
ความคิดเห็นที่ 95
วัย40+ ความสุขของผม คือขับรถ4x4ท่องไพรตั้งแคมป์ , หมา , และจักรยาน
วัย60+ คงบู้มากไม่ได้ละ อาจจะเหลือแค่หมา กับจักรยาน
อาจจะต้องอยู่ติดที่มากขึ้น
ดีที่มีที่เก็บไว้แปลง บั้นปลายชีวิตก็อาจจะไปปลูกบ้าน
ปลูกต้นไม้เยอะๆ มีที่ให้หมาวิ่งเล่น อ่านหนังสือ เขียนหนังสืออะไรไปเรื่อย
ไม่มีใครอยู่ด้วย จะไปยากอะไร ถ้ามีตังค์ ก็จ้างเลขาสวยๆ พ่อบ้าน แม่บ้าน คนงาน จะเอาซักกี่คนก็ได้ ถ้ามีตังค์
หรือไม่ก็อาจจะไม่เอาบ้านเลย ขายทุกอย่าง เอามาทำแคมเปอร์
ให้เป็นบ้านพักตากอากาศเคลื่อนที่ อยู่ตรงนั้นเดือนนึง ตรงนี้ปีนึง แบบนี้ก็ใช้ชีวิตคุ้มดีนะ แต่จะไหวไหม ต้องดูสุขภาพอีกที
ความคิดเห็นที่ 96
หาความสุขจากที่ไหน ก็จากสิ่งที่ตัวเองชอบ แต่ตอนทำงานไม่มีเวลาทำ เช่น ดูละคร อ่านนิยาย ปลูกต้นไม้ ทำอาหารตามสูตรต่างๆ
อยากไปห้าง ซุปเปอร์มาเก็ต ตอนไหนก็ได้ไม่ต้องไปเบียดกับใครในวันหยุด
เราเกษียณตั้งแต่ 50 เศษ ผ่านมา 10 ปี ก็ยังมีความสุข
กับทุกวัน ยิ่งโลกปัจจุบันหาความรู้จากอินเตอร์เน็ตได้ไม่สิ้นสุด ทำให้วันๆมีเรื่องน่าสนใจให้เรียนรู้ให้ทำมากมาย ถึงมีลูกเขาก็มีชีวิตทำงาน
มี เพื่อนฝูงของเขา คนมีลูกหรือไม่มี ควรรักษาสุขภาพกายและใจให้ดี เพื่อจะได้ดูแลตนเองเบื้องต้นได้ จะเป็นการดีที่สุด อนาคตคนโสด
เยอะกว่ารุ่นเราแน่ๆก็คบหารวมกลุ่มกันไว้ ถ้าชอบมีเพื่อน หรือบางคนชอบอยู่แบบสงบๆไม่ชอบยุ่งกับใคร ก็ทำตามใจตัวเองเลย
อย่าได้แคร์ แก่แล้วไม่มีใครมาสนใจแล้วค่ะ
ส่วนการมีลูก มีครอบครัวไม่ใช่หลักประกัน ว่าอนาคตไม่ต้องอยู่คนเดียว คู่ชีวิต อาจจะหย่าร้าง ตายจาก รอบตัวเรามีแบบนี้เยอะมาก
ส่วนลูกก็ต้องมีชีวิตของเขาเป็นธรรมดา มาเยี่ยมเยียนดูแลทุกข์สุขบ้างก็ดีแล้ว
โฆษณา