20 พ.ค. 2022 เวลา 09:51 • ข่าว
#วิกฤติเศรษฐกิจเอเชียใต้ลามถึงปากีสถาน
#รัฐบาลปากีสถานประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ
#สั่งแบนสินค้านำเข้าฟุ่มเฟือย รักษาเงินสำรองต่างประเทศ
1
ดูเหมือนว่า วิกฤติเศรษฐกิจของศรีลังกา กำลังขยายวงกลายเป็นโดมิโนลูกใหญ่ไปทั่วย่านเอเชียใต้ เมื่อล่าสุด รัฐบาลปากีสถานได้ออกมาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ เนื่องจากเงินสำรองต่างประเทศของชาติลดลงต่ำที่สุดในรอบ 18 เดือนนับตั้งแต่ปลายปี 2019 เป็นต้นมา
1
และเพื่อรักษาเครดิตในการชำระหนี้ต่างประเทศ และนำเข้าพลังงาน และเวชภัณฑ์ที่จำเป็นจริงๆ รัฐบาลปากีสถานตัดสินใจหักดิบ แบนการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยกว่า 50 รายการ เพราะต้องการเซฟเงินสำรองไว้ใช้จ่ายตามที่จำเป็นเท่านั้น
2
ซึ่งสินค้านำเข้าที่ถูกแบน อาทิ
- รถยนต์
- โทรศัพท์มือถือ
- เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ โคมระย้า
- ผลไม้ทั้งสด และแห้ง หรือแปรรูป (ยกเว้นสินค้าจากอาฟกานิสถาน)
- เครื่องถ้วย ลายคราม เครื่องครัว
- อาวุธปืนส่วนบุคคล และกระสุน
- รองเท้า เครื่องหนัง กระเป๋าเดินทาง
เนื้อปลา และปลาแช่แข็ง
2
- ขนมขบเคี้ยว ช็อกโกแลต ซอสปรุงรส ไอศกรีม
- เครื่องสำอาง แชมพู ครีมโกนหนวด
- อาหารแปรรูปจากต่างประเทศ
- เครื่องใช้ส่วนตัว กระดาษชำระ
- เครื่องดนตรี
ฯลฯ
1
ก่อนหน้าที่ปากีสถานจะออกกฏเหล็กควบคุมสินค้านำเข้า ศรีลังกาได้ประกาศหยุดการชำระหนี้ต่างประเทศมาก่อนแล้ว และต่อมาไม่นาน เนปาลก็ได้สั่งแบนการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยตามมาเช่นกัน เพราะหวั่นปัญหาเดียวกันคือ ปัญหาขาดแคลนเงินสำรองต่างประเทศ
ซึ่งปากีสถานเองก็เพิ่งผ่านปรากฏการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองมาหมาดๆ ในช่วงเดือนเมษายน เมื่อรัฐสภาได้ร่วมกันลงมติไม่ไว้วางใจ ขับนายกรัฐมนตรี อิมราน ข่าน พ้นจากตำแหน่ง และได้ตั้งรัฐบาลใหม่ ภายใต้การนำของ เชห์บาซ ชารีฟ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน
1
และเมื่อ เชห์บาซ ชารีฟ ปฏิญาณตนขึ้นรับตำแหน่ง สิ่งแรกที่เขาบอกกับประชาชนชาวปากีสถานคือ
1
"พี่น้องครับ โปรดรับรู้ด้วยว่าประเทศเรานั้น มีแต่หนี้
หนี้ท่วมหัว และหน้าที่ของพวกเราคือ ยังไงก็ต้องพายเรือลำนี้ไปให้ตลอดรอดฝั่งให้ได้" 😅
2
ซึ่งวิกฤติเศรษฐกิจที่ปากีสถานกำลังเผชิญก็หนักหนาสาหัสจริงๆ ไม่น้อยหน้าเพื่อนบ้านอย่างศรีลังกาหรือ เนปาลเลย ธนาคารกลางแห่งปากีสถานรายงานข้อมูลว่า เงินสำรองต่างประเทศลดลงไม่น้อยกว่า 178 ล้านดอลลาร์ในทุกๆ สัปดาห์ ต่อเนื่องมานานเกือบ 2 ปีแล้ว
จากเดิมที่เคยมีเงินสำรอง 1.6 หมื่นล้านเหรียญ ตอนนี้ลดลงเหลือ 1 หมื่นล้านเหรียญ และยังคงลดลงไปเรื่อยๆ หากรัฐบาลไม่เร่งแก้ปัญหา ปากีสถานอาจเหลือเงินสำรองชำระหนี้ได้แค่ 1.5 เดือนเท่านั้น
อีกทั้งปัญหาเงินเฟ้อถึง 13% ค่าเงินปากีสถานต่อดอลลาร์สหรัฐพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทะลุ 200 รูปี/ 1 ดอลลาร์ จากค่าเงินเดิมเมื่อปีที่แล้วที่ 153 รูปี/ดอลลาร์ ทำให้ภาระการชำระหนี้ต่างประเทศ และการนำเข้าสินค้าก็สูงขึ้นเป็นเงากรรมตามตัว
1
ถึงแม้การสั่งระงับการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือย อาจช่วยชะลอการไหลออกของเงินต่างประเทศได้บ้างในระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่รัฐบาลชุดใหม่กำลังเร่งทำเพื่อขับเคลื่อนรัฐนาวา ให้เดินหน้าไปได้ก่อน ก็คือการขอความช่วยเหลือจากกองทุนฟื้นฟูต่างประเทศอย่าง IMF และสถาบันการเงินต่างชาติ ซึ่งก็เป็นวิธีแก้ปัญหาไม่ต่างจากประเทศเพื่อนบ้านที่เจอวิกฤติด้านเศรษฐกิจสักเท่าไหร่
แต่หากศรีลังกาล้ม เนปาลร่อแร่ ปากีสถานก็ยังส่อแววโคม่า อาจส่งคลื่นโดมิโน เอฟเฟค ลามไปทั่วทั้งย่านเอเชียใต้ และอีกหลายประเทศในเอเชียก็เป็นได้
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
และ Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
โฆษณา