อาชีพคีแซงถูกมองว่าเป็นอาชีพของหญิงไม่ดี
และเป็นชนชั้นต่ำสุดในระบบวรรณะ
บรรดาคีแซงและอาชีพอื่นๆ ในชนชั้นซอนมิน ไม่จำเป็นต้องเสียภาษี
แต่หากถูกเกณฑ์ให้ไปช่วยรบตามคำสั่งของทางการ
พวกเขาก็ต้องทำตามโดยไม่มีทางเลือก
คีแซงและกลุ่มอาชีพอื่นในชนชั้นซอนมิน
จะไม่สามารถแต่งงานกับชนชั้นอื่นได้
แต่จะต้องแต่งงานกับชนชั้นซอนมินด้วยกันเองเท่านั้น
คีแซงในยุคโชซอน
รู้จัก “คีแซง” นางโลมเกาหลี ผ่านปรากฏการณ์ “คังคุไบ”
บทความจากคอลัมน์ "เกาหลี everything ทุกสิ่งมีเรื่องเล่า" บนแอป 2read
ภาพวาดของควังจีนี จากบันทึกทางประวัติศาสตร์
ช่วงนี้กระแสภาพยนตร์เรื่อง “คังคุไบ”
หรือชื่อเต็มคือ “คังคุไบ กฐิยาวาฑี” (Gangubai Kathiawadi)
ภาพยนตร์อินเดียที่อิงจากเรื่องราวชีวิตจริงของโสเภณีชื่อดังในอินเดีย
กำลังเป็นที่พูดถึงกันอย่างไม่ขาดสายจริงๆ
เปิดโซเชียลมีเดียขึ้นมา ไม่ว่าจะแพลตฟอร์มไหน
ก็มีแต่คนพูดถึงและแต่งโคฟเวอร์เป็นคังคุไบกันเยอะมาก
ตัวผู้เขียนเองเมื่อได้ดูหนังเรื่องนี้
ก็ทำให้นึกถึงเรื่องราวของ “คีแซง”
หญิงให้ความบันเทิงในยุคโชซอนของเกาหลีขึ้นมาทันที
วันนี้เลยอยากชวนคุณผู้อ่านมาทำความรู้จัก “คีแซง”
หญิงให้ความบันเทิงในเกาหลียุคโบราณกันให้มากขึ้นกว่าเดิม
🔴“คีแซง” คือ โสเภณี ?
ภาพวาดบอกเล่าวิถีชีวิตของคีแซง หญิงนางโลมในยุคโชซอน
“คีแซง” (기생) คือหญิงที่ให้ความบันเทิงในยุคโชซอน
มีมาตั้งแต่ยุคสมัยชิลลา
หลายๆ คนอาจเหมารวมว่าคีแซงคือหญิงขายบริการ
หรือเรียกง่ายๆ ว่าโสเภณี
แต่จริงๆ แล้วจะเหมารวมแบบนั้นก็ไม่ถูกเสียทีเดียว
เพราะคีแซงบางคนก็ไม่ได้ขายบริการ
แต่มีหน้าที่ให้ความบันเทิง รินเหล้า เต้นรำ เล่นดนตรี
สร้างความสนุกสนานให้กับบรรดาลูกค้าผู้ชายที่มารับบริการ
ใน “คีแซงชิบ” (기생집) หรือหอนางโลม
ถ้าเทียบกับทางฝั่งญี่ปุ่น คีแซงเกาหลีก็คือเกอิชานั่นเอง
🔴คีแซง คนชั้นล่างสุดของระบบวรรณะในโชซอน
ภาพวาดบอกเล่าวิถีชีวิตของคีแซง หญิงนางโลมในยุคโชซอน
ยุคโชซอน ผู้คนในสังคมจะแบ่งออกเป็นชนชั้น
คล้ายๆ ระบบวรรณะในอินเดีย มีทั้งหมด 4 ชนชั้นด้วยกัน
จริงๆ แล้ว ระบบการแบ่งคนเป็นชนชั้นนี้
เริ่มมาตั้งแต่ยุคโครยอแล้ว
แต่มาเป็นระบบแบบชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากๆ ในยุคโชซอน
โดยชนชั้นบนสุดคือกลุ่มที่เรียกว่า “ยังบัน”
ได้แก่กลุ่มเชื้อพระวงศ์ ชนชั้นสูง ขุนนาง
คนกลุ่มนี้จะแต่งงานกับพวกยังบันด้วยกันเท่านั้น
ไม่สามารถแต่งงานข้ามวรรณะได้
ชนชั้นต่อมาคือ “ซุงอิน” ได้แก่ข้าราชการและขุนนางระดับล่าง
ภรรยาหรือบุตรนอกสมรสของชนชั้นยังบัน ช่างฝีมือ และนักแปล
คนกลุ่มนี้สามารถเลื่อนขั้นขึ้นไปเป็นยังบันได้
แต่โอกาสจริงๆ ก็ถือว่าน้อยมาก
วรรณะต่อมาคือ “ชนชั้นซังมิน” ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ในสังคม
คนกลุ่มนี้ได้แก่กลุ่มชาวนา พ่อค้า ช่างฝีมือ
บุคคลเหล่านี้ต้องเสียภาษีและถูกเกณฑ์ไปเป็นแรงงานให้กับทางการ
คล้ายๆ กับกลุ่มไพร่ในยุคอยุธยาบ้านเรา
ส่วนชนชั้นสุดท้ายหรือฐานของพีระมิด ได้แก่ “ชนชั้นซอนมิน”
อันประกอบด้วย ทาส คนทรงเจ้า นักแสดง คนฆ่าสัตว์
และแน่นอน คีแซง หรือหญิงให้ความบันเทิง
ก็ถูกจัดอยู่ในกลุ่มนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
คีแซงหรือหญิงให้ความบันเทิงในยุคโชซอน
เป็นอาชีพที่ไม่ได้รับการให้เกียรติ
และผู้คนส่วนใหญ่มองว่าคนกลุ่มนี้เป็นอันตรายและน่ารังเกียจ
พอๆ กับในภาพยนตร์เรื่องคังคุไบ
อาชีพคีแซงถูกมองว่าเป็นอาชีพของหญิงไม่ดี
และเป็นชนชั้นต่ำสุดในระบบวรรณะ
บรรดาคีแซงและอาชีพอื่นๆ ในชนชั้นซอนมิน ไม่จำเป็นต้องเสียภาษี
แต่หากถูกเกณฑ์ให้ไปช่วยรบตามคำสั่งของทางการ
พวกเขาก็ต้องทำตามโดยไม่มีทางเลือก
นอกจากนี้คีแซงและกลุ่มอาชีพอื่นในชนชั้นซอนมิน
จะไม่สามารถแต่งงานกับชนชั้นอื่นได้
แต่จะต้องแต่งงานกับชนชั้นซอนมินด้วยกันเองเท่านั้น
🔴เส้นทางในสายอาชีพคีแซง
โรงเรียนฝึกคีแซงจะรับนักเรียนตั้งแต่อายุ 8 ปีขึ้นไป
แม้คีแซงจะถูกจัดให้อยู่ชั้นล่างสุดในระบบวรรณะ
แต่คีแซงในยุคโชซอนก็ใช่จะเป็นได้ง่ายๆ
หรือใครๆ ที่อยากเป็นก็เป็นได้
ในทางกลับกัน คีแซงที่ดีและได้รับการยอมรับ
มักจะต้องผ่านการอบรมและเรียนรู้ในศาสตร์ต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการเล่นดนตรี การร้อง การเต้นรำ
รวมไปถึงการมีทักษะด้านภาษา การแต่งโคลง กลอน
บทกวีต่างๆ ได้เป็นอย่างดีด้วย
คีแซงที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับ
ส่วนมากมักมาจากครอบครัวชนชั้นสูงที่ล้มละลาย
และผันตัวมาเป็นคีแซง
ในประวัติศาสตร์ยุคโชซอนเอง
ก็ปรากฏนามคีแซงที่เก่ง
มีชื่อเสียงในด้านทักษะความสามารถอยู่หลายคน
และแน่นอนว่า พวกเขาไม่ใช่โสเภณีที่ขายเรือนร่าง
แต่เป็นหญิงที่มากความสามารถในการร้องรำ
และมาพร้อมกับความงามที่งามกว่าหญิงในตระกูลชั้นสูงทั่วๆ ไป
ในเส้นทางอาชีพของคีแซง
ส่วนใหญ่แล้วมีอายุการทำงานที่ค่อนข้างสั้น
แม้ในทางกฎหมาย จะระบุว่าคีแซงสามารถทำงานได้จนถึงอายุ 50 ปี
แต่ในความเป็นจริง คีแซงส่วนมาก
จะเริ่มงานเมื่ออายุราวสิบต้นๆและได้รับความนิยมน้อยลง
เมื่ออายุราว 22-23 ปีเท่านั้น คีแซงที่ปลดระวางแล้ว
มักผันตัวเป็นไปช่างตัดเสื้อ พี่เลี้ยงคีแซงรุ่นต่อไป
บางคนก็ไปทำอาชีพอื่นในวรรณะซอนมิน เช่น ร่างทรง นักแสดง
หรือหากโชคดีหน่อย ก็อาจมีคนรับไปเลี้ยงดูอุปการะ
แต่ก็เกิดขึ้นได้ไม่บ่อยนัก เนื่องจากในสายตาของคนทั่วไป
คีแซงก็ยังคงเป็นหญิงบาป
และเป็นอาชีพที่คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นชนชั้นล่างอยู่นั่นเอง
🔴“ฮวังจีนี” (황진이) คีแซงชื่อดังในประวัติศาสตร์เกาหลี
ภาพจาก www.imdb.com
คีแซงที่มีชื่อเสียงและมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์เกาหลียุคโบราณ
มีด้วยกันหลายคน แต่ในครั้งนี้จะขอหยิบยกเอาเรื่องราวของ “ฮวังจีนี”
คีแซงที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่งในยุคโชซอนมาเล่าให้ฟัง
“ฮวังจีนี” เกิดในสมัยของพระเจ้าชุงจง
มีชีวิตอยู่ในช่วงปีค.ศ. 1506 – 1560
จีนีเป็นลูกสาวที่เกิดจากบิดาซึ่งเป็นนักการเมือง และมารดาเป็นนักเขียน
ด้วยชนชั้นวรรณะที่ต่างกัน
เมื่อทั้งสองมีลูก ลูกจึงกลายเป็นบุตรนอกสมรส
ไม่สามารถถูกนับให้อยู่ในวรรณะสูงเทียบเท่าบิดาได้
จีนีเติบโตมาโดยถูกตราหน้าว่าเป็นบุคคลต้องห้าม
เพราะเป็นลูกที่เกิดจากพ่อแม่ที่อยู่คนละชนชั้น
ในวัยเริ่มสาว เธอได้มีความรักกับชายผู้มีวรรณะต่างกับเธอ
ทั้งสองจึงไม่สามารถลงเอยกันได้
ชายหนุ่มผู้นั้นตรอมใจและเสียชีวิตลง
จากบันทึกทางประวัติศาสตร์ได้กล่าวไว้ว่า
ในวันหนึ่งที่เธอกำลังอ่านบทกลอนอยู่ที่ระเบียงบ้าน
มีขบวนแห่ศพเดินผ่านบ้านของเธอ
ด้วยเสียงขับกลอนอันไพเราะ
ทำให้ขบวนศพนั้นหยุดลงตรงหน้าบ้าน
จีนีเดินไปที่ขบวนศพนั้น
พร้อมนำกระโปรงชั้นนอกของชุดฮันบกคลุมไว้บนร่างของศพนั้น
ว่ากันว่า ศพนั้นคือร่างของชายหนุ่มอันเป็นที่รักของเธอ
ด้วยความเสียใจในครั้งนี้
จีนีจึงตัดสินใจออกจากกรอบขนบธรรมเนียมที่บีบคั้น
และหลีกหนีกฎเกณฑ์ที่กดขี่เธอ
ด้วยการเป็นคีแซงในวัย 15 ปี
“ฮวังจีนี” จัดว่าเป็นคีแซงที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ยุคโชซอน
เธอใช้ชื่อในวงการคีแซงว่า “มยองวอล” (명월)
ซึ่งมีความหมายว่าดวงจันทร์อันสว่างสดใส
ความงามของจีนีและความสามารถในการขับกลอนและร่ายรำ
ทำให้ชื่อเสียงของเธอแผ่กระจายไปทั่วคาบสมุทรเกาหลี
ในบันทึกทางประวัติศาสตร์ยังกล่าวไว้อีกว่า
จีนีหรือมยองวอล มักจะซ่อนปริศนายากๆ ไว้ในบทกลอนที่เธออ่าน
หรือการแสดงที่เธอร่ายรำ
เพื่อค้นหาชายหนุ่มที่มีสติปัญญาและเฉลียวฉลาดมากพอ
ที่จะถอดปริศนาเหล่านั้นของเธอได้
ซีรีส์เรื่อง Kwangjinyi ออกฉายในปี 2006
ภาพยนตร์เรื่อง Kwangjinyi ( 2007 ) นำแสดงโดยซงเฮเคียว ภาพจาก www.imdb.com
เรื่องราวของจีนี ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ชื่อว่า
“Hwang Jin Yi” (황진이) ในปี 2007
นำแสดงโดย ซงเฮเคียว ซึ่งมารับบทเป็นฮวังจีนี ตัวละครหลักของเรื่อง
นอกจากนี้ยังถูกนำไปสร้างเป็นซีรีส์ในชื่อเดียวกัน
ทำให้ชื่อของคีแซงฮวังจีนี เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
และถูกกล่าวถึงเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ข้อมูลอ้างอิง
ธัญญ์พิศา จันทร์ธนะกุล. 2019. เกาหลีเล่มเดียวรู้เรื่อง. พิมพ์ครั้งที่ 1.กรุงเทพฯ : อมรินทร์ พริ้นติ้งค์แอนด์พลับบลิชชิ่งจำกัด.
ภาพประกอบ
เรื่องโดย ธัญญ์พิศา กิ๊ฟ
เติมอาหารสมองและพลังใจด้วยคอนเทนต์สาระจาก 2read
กดถูกใจ กดติดตามเพจ กดไลค์โพสต์นี้ให้เราด้วยนะคะ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
