20 พ.ค. 2022 เวลา 11:41 • การตลาด
3 เหตุผล ทำไม “คังคุไบ” ถึงเป็นภาพยนตร์ที่มีคนพูดถึงมากที่สุดในเวลานี้
เป็นกระแสที่ถูกพูดถึงอยู่หลายวัน สำหรับภาพยนตร์อินเดียเรื่อง “Gangubai Kathiawadi" (คังคุไบ กฐิยาวาฑี) หรือในชื่อไทยว่า "หญิงแกร่งแห่งมุมไบ" หลังจากสตรีมทาง Netflix เพียง 1 สัปดาห์ Gangubai Kathiawadi ก็กลายเป็นภาพยนตร์ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษอันดับ 1 บน Netflix ทั่วโลกมีการรับชมมากกว่า 13 ล้านชั่วโมง และติดอยู่ใน Top 10 ในหมวดภาพยนตร์อีก 25 ประเทศทั่วโลก
1. อินเดียมีอุตสาหกรรมหนัง Local Content ที่แข็งแรง
1
สิ่งที่ทำให้อุตสาหกรรมภาพยนต์อินเดียเติบโตคือการมี Local Content ที่แข็งแรง เพราะในอดีตความเป็นหนังอินเดียจะต้องมีการร้อง เต้น เรียกได้ว่าแทบจะเป็นส่วนหนึ่งของหนังอินเดียที่ขาดไม่ได้ เมื่อเวลาผ่านไปฉากร้อง เต้น ได้กลายเป็นจุดขายหลักของหนังไปซะแล้ว
ซึ่งอุตสาหกรรมภาพยนต์ของอินเดียจะแบ่งตลาดออกตามภาษาของหนัง โดยหนังที่ใช้ภาษาฮินดีจะเป็นหนังที่เรียกว่า “บอลลีวูด” ซึ่งถือเป็นหนังกลุ่มใหญ่สุด มีฐานอยู่ที่เมืองมุมไบ
ทุกวันนี้อินเดียเป็นประเทศที่สร้างภาพยนตร์มากที่สุดในโลก เฉลี่ยแต่ละปีอยู่ที่ 1,500 - 2,000 เรื่อง มูลค่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์อินเดียในปี 2020 อยู่ที่ประมาณ 183 พันล้านรูปี ซึ่งตัวเลขนี้เป็นสถิติช่วงที่มีโรคระบาด และคาดว่าปีนี้จะเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 196
อุตสาหกรรมบอลลีวูดได้มีการทุ่มเงินสร้างฉากสุดอลังการ อย่าง Gangubai Kathiawadi เองก็เป็นการสร้างเมืองกามธิปุระขึ้นมา โดยอิงกับช่วงปี 1950-1960 หรือจะออกไปถ่ายทำที่ต่างประเทศมากกว่า เป็นการหันมาใช้แนวทางการสร้างรายได้แบบสหรัฐฯ ในปี 2551-2552 ไทยติดอันดับ 1 ประเทศที่บอลลีวูดยกกองมาถ่ายทำมากที่สุด
2. Netflix ธุรกิจ Video Streaming ที่เปลี่ยนโลก
Netflix เป็นผู้ให้บริการสตรีมมิ่งระดับโลกเจ้าแรกที่เข้ามาบุกตลาดเอเชีย โดยเริ่มจากตลาดใหญ่อย่างอินเดีย (2014) ญี่ปุ่น และจีน (2015) ก่อนที่จะขยายบริการในอีกหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทยเมื่อปี 2016 โดยวางกลยุทธ์ local content การผลิตเนื้อหาในท้องถิ่นและจัดจำหน่ายทั่วโลก นั่นคืออนาคตของ Netflix
ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากกับตลาดต่างประเทศ โดยดูจากการมีกำไรในไตรมาส 1 ปี 2022 อยู่ที่ 1.6 พันล้านดอลลาร์ มีสมาชิก 222 ล้านครัวเรือนทั่วโลก
มีความหลากหลายของคอนเทนต์จากทั่วโลก ครอบคลุมแต่ละประเภท เช่น ซีรีย์, ภาพยนตร์, สารคดี, รายการวาไรตี้, อนิเมชั่น มาเสิร์ฟให้กับผู้บริโภค มี Local Content ของแต่ละประเทศ โดยเป็นการร่วมมือกับผู้ผลิตคอนเทนต์ระดับโลก และระดับท้องถิ่น (Local Partner)
ทุกวันนี้จะเห็นว่าหนังที่ฉายในโรงภาพยนตร์ พอเวลาผ่านไปได้เข้าไปอยู่ในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง นั่นคือการขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ให้กับสตรีมมิ่ง ยกตัวอย่างบริษัทในเครือ GMM Grammy ที่ออกอากาศแล้วทั้งของ Bravo Studio, ช่อง One31, ช่อง GMM 25, GDH
หรือช่อง 3 ละครที่เป็นกระแสช่วงนั้นถ้ายังจำกันได้คือเรื่องบุพเพสันนิวาส ไปฉายบนแพลตฟอร์ม Netflix เป็นการนำคอนเทนต์มาส่งเสริมให้มีโอกาสได้ก้าวสู่สายตาผู้ชมในจำนวนที่มากขึ้น
หรือการนำภาษากลางมาเป็นสื่อให้ผู้ชมต่างชาติเข้าถึงคอนเทนต์ได้ จึงทำให้หนังมีโอกาสได้ดึงดูดผู้ชมหน้าใหม่อย่างต่อเนื่อง แม้จะออกจากโรงและพ้นจอแก้วไปแล้วก็ตาม นี่จึงเป็นเหตุผลข้อที่ 2 ว่าทำไมคังคุไบถึงเป็นกระแส
3. วิธีการเล่าเรื่องผ่านประเด็นสังคม
ภาพยนตร์เรื่องนี้อ้างอิงเรื่องราวมาจากหนังสือ Mafia Queens of Mumbai ซึ่งเขียนโดย ฮุสเซน ไซดี ( S. Hussain Zaidi.) ซึ่งหนังสือเรื่องนี้ก็อิงมาจากชีวิตจริงของคังคุไบ กฐิยาวาฑี หญิงชาวอินเดีย หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อว่า “นายหญิงกามธิปุระ (Madam of Kamathipura)” อีกที ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการฉายภาพผ่านตัวละครผู้หญิงขายบริการทางเพศ Sex Workers
เพราะอดีตสังคมอินเดียเป็นสังคมปิตาธิปไตย หรือสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ ในขณะที่สถานะผู้หญิงในสังคมถูกกดทับ จนมีคำกล่าวที่ว่า “เกิดเป็นวัวในสังคมอินเดียยังจะดีกว่าเกิดเป็นสตรี” เพราะอย่างน้อยวัว อินเดียถือว่าเป็นเทพเจ้าพาหนะของพระศิวะ ก็ยังได้รับการนับถือและยกย่องจากคนทั่วไป
ยิ่งการขายบริการทางเพศ Sex Workers ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไม่ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิ์ใดๆเลย ทำให้ปัจจุบันยังคงถูกพูดถึง และเป็นที่เรียกร้องว่าทุกคนควรได้รับสิทธิที่เท่าเทียมกันทางกฎหมาย
ทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคังคุไบ ถึงเป็นภาพยนต์ที่มีคนพูดถึงมากที่สุดในเวลานี้….
#BrandAgeOnline #คังคุไบ #Gangubai #Netflix #Bollywood
โฆษณา