รู้จักความเป็นมาของ "หยั่นหว่อหยุ่น"
เจ้าของแบรนด์ซีอิ๊วและเครื่องปรุงรสตรา "เด็กสมบูรณ์" อายุกว่า 70 ปี
ที่ขายกันปีละเป็นพันล้าน กับก้าวยาวๆ ต่อไปสู่อนาคต
ด้วยวิสัยทัศน์และความกล้าในการแหกกรอบกฎทางธุรกิจของเด็กสมบูรณ์
ยุคปัจจุบัน
“เด็กสมบูรณ์” ซีอิ๊วแหกกรอบสองพันล้าน
บทความจากคอลัมน์ "The Good Old Brand" บนแอป 2read
ซีอิ๊วคือเครื่องปรุงรสจากเมืองจีนที่มีมานานกว่า 3,000 ปี เป็นมรดกบนจานไปตามทุกแห่งหนที่ชาวจีนอพยพไปถึง รวมทั้งครัวเรือนเมืองไทยด้วย
นายถ่ง แซ่ตั้ง เป็นหนึ่งในชาวจีนเหล่านั้น
ที่ล่องเรือมาฝากมรดกทางปัญญานี้ไว้ให้กับลูกหลาน
โดยไม่เพียงแค่รักษา แต่ยังพัฒนาต่อยอดไปอีกมากมาย
ภายใต้แบรนด์-โลโกตรา “เด็กสมบูรณ์” ของบริษัท
หยั่นหว่อหยุ่น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด ในปัจจุบัน
จากเริ่มต้นด้วยการนำสูตรเด็ดจากเมืองจีนมาใส่ไหหมัก
จนได้รสชาติกลมกล่อม แล้วนำซีอิ๊วไปวางขายกันแถวสีลม
จนขายดีด้วยวิธีแบบปากต่อปาก
ความเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาการจริงจังครั้งแรกกับซีอิ๊วของนายถ่ง
เกิดขึ้นในปี 2493 เมื่อ วิเชียร ตั้งสมบัติวิสิทธิ์
บุตรของเขาเข้ามาดูแลกิจการต่อ
วิเชียรเริ่มด้วยการจดทะเบียนการค้าอย่างเป็นทางการให้ซีอิ๊วของตน
และด้วยเรื่องเล่าซึ่งวิเชียรบอกกับช่างเขียนนิรนาม
ถึงประสบการณ์ที่ลูกค้านิยมนำซีอิ๊วของเขาไปเหยาะให้ลูกหลานกิน
เพื่อเพิ่มความเอร็ดอร่อย
ทำให้เด็กๆ กินข้าวได้มากจนเติบโตอย่างสมบูรณ์แข็งแรง
สุดท้ายช่างนิรนามก็บรรยายทั้งหมดออกมา
เป็นรูปเด็กหัวแหลมกำลังยิ้มแย้มกอดขวดซีอิ๊ว
หรือเด็กสมบูรณ์อย่างที่เห็นกันจนถึงวันนี้
แต่เมื่อกว่า 40 ปีก่อน ในยุคที่บ้านเมืองยังไม่รู้จักโมเดิร์นเทรด
หรือมีซูเปอร์มาร์เก็ตดกดื่น ซีอิ๊วและเต้าเจี้ยวเด็กสมบูรณ์ของหยั่นหว่อหยุ่น
ก็เหมือนกับสินค้าประเภทเดียวกันยี่ห้ออื่น
คือยังคงพบกันได้เฉพาะตามร้านขายของชำกับตลาดสดทั่วไป
ไร้การประชาสัมพันธ์หรือทำการตลาด
และยังขายกันในแบบที่คล้ายกับตอนเริ่มต้น
คือเป็นมรดกในครัวซึ่งบอกต่อ-ถ่ายทอดกันจากครัวเรือนสู่ครัวเรือน
ในฐานะส่วนประกอบหนึ่งในการปรุงอาหาร
กระทั่งในปี 2525 ด้วยเรียนมาน้อย แต่ใฝ่รู้อยู่ตลอด
โดยเฉพาะในสิ่งที่กำลังทำ
วิเชียรได้จัดตั้งหยั่นหว่อหยุ่นขึ้นในรูปของบริษัท
รวมทั้งเดินทางไปศึกษาสายพานการผลิตของโรงงานซีอิ๊วในญี่ปุ่น
ต่อมาในปี 2528 จากโรงงานบนเนื้อที่ไม่เกิน 200 ตารางวา
กับกรรมวิธีผลิตซีอิ๊วและเต้าเจี้ยวแบบดั้งเดิม
วิเชียรก็ย้ายโรงงานจากแถวสาทร
มาก่อสร้างแห่งใหม่ใหญ่กว่าเดิมที่สมุทรสาคร
และเปลี่ยนมาเป็นกรรมวิธีผลิตที่เป็นมาตรฐานโลก
ส่วนวิธีบริหารจัดการบริษัท-โรงงาน
รวมไปถึงการทำการตลาดในแบบมาตรฐานก็เช่นกัน
ล้วนเกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น
จากขายดีแบบปากต่อปากและครัวสู่ครัว
ซีอิ๊วสูตรนายถ่งแต่ยุคใหม่ก็เริ่มปรากฏตามสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ
และในปี 2529 เด็กสมบูรณ์ก็สามารถส่งออกไปขายนอกประเทศเป็นผลสำเร็จ
ตามด้วยการขึ้นเป็นแบรนด์ท็อป 3 ของสินค้าชนิดเดียวกันในท้องตลาด
ด้วยรากฐานทั้งการผลิตและจัดการที่วิเชียรได้ก่อร่างสร้างเอาไว้
เมื่อเขาจากไปในช่วงทศวรรษที่ 2540
และ สมหวัง ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ ลูกชายเข้ามาดูแลต่อ
จึงสามารถก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคง
และยั่งยืนต่อมาด้วยวิสัยทัศน์ของทายาทรุ่นที่ 3
จากตัวเลขผลประกอบการระหว่างปี 2561-2563
ที่ทำรายได้ไม่เคยต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท
กับกำไรที่เพิ่มจาก 117 ล้านไปจนถึง 165 ล้านในช่วง 3 ปีนั้น
หรือแม้แต่ช่วงวิกฤติโควิด-19 ระบาดก็ยังไม่มีตก
คือสิ่งยืนยันว่าหยั่นหว่อหยุ่นมีศักยภาพแบบนั้นจริง
ส่วนโลกสมัยใหม่ของแบรนด์อายุกว่า 70 ปี
ที่ต้องพึ่งการตลาดออนไลน์เป็นหลัก
เมื่อปีก่อน ไวซ์ไซต์ ผู้ให้บริการด้านวิเคราะห์ข้อมูลบนสื่อสังคมออนไลน์
จัดให้เด็กสมบูรณ์เป็นหนึ่งในสิบแบรนด์สินค้า
ที่ใช้แพลตฟอร์มต่างๆ บนโซเชียลมีเดีย
ทั้งเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ยูทูบ และทวิตเตอร์
ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในกลุ่มธุรกิจของตัว
และอาจด้วยความพยายามที่ไม่หยุดอยู่กับที่เป็นพื้นฐานแนวคิด
ด้วยโรงงาน 2 แห่งที่มีในปัจจุบัน
หยั่นหว่อหยุ่นจึงแตกผลิตภัณฑ์-แบรนด์ปรุงอาหาร
รวมทั้งเพื่อสุขภาพออกมาอีกมาก
จากซีอิ๊วและเต้าเจี้ยวกลายเป็นน้ำปลา ปลาร้า ผงปรุงรส ฯลฯ
โดยในเว็บไซต์ของบริษัทรวบรวมได้ถึง 20 กลุ่ม
แยกย่อยเป็นสินค้าอีกหลายร้อยชนิด
ส่วนรูปเด็กสมบูรณ์กอดขวดของช่างนิรนามที่คุ้นตาก็ยังคงอยู่บนฉลาก
แต่ได้รับการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย
มีการนำเด็กคนเดิมมาเป็นแมสค็อตประจำแบรนด์
จากรูปเขียนแนวเหมือนจริงแบบดั้งเดิม
ถูกตัดทอน-เพิ่มชีวิตชีวาในแบบตัวการ์ตูน
และตั้งชื่อให้เป็นภาษาอังกฤษว่า “ฮีลตีบอย” (Healthy Boy)
โดยถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับวิวัฒนาการอีกขั้นของเด็กสมบูรณ์และหยั่นหว่อหยุ่น
เพราะถึงจะเป็นที่รู้จักมานมนาน
ในฐานะผู้ผลิตเครื่องปรุงรสอาหารคาว
ทายาทรุ่นปัจจุบันกลับคิดถึงผลิตภัณฑ์สำหรับของหวาน
แต่ก็ใช่จะเป็นไปไม่ได้
ผลิตภัณฑ์เก่าแก่ของหยั่นหว่อหยุ่น
ที่มีมาตั้งแต่เริ่มค้าขายอย่างซีอิ๊วดำ
ก็คือจุดเริ่มต้นของความหวานในแบบที่เป็นไปได้
ในปี 2559 สมหวังเริ่มทดลองด้วยการนำซีอิ๊วสูตร 1 ของตัว
มาราดบนไอศกรีมจนเกิดความอร่อยแปลกใหม่
เขาจึงพัฒนาต่อไป ด้วยการนำผลิตภัณฑ์ปรุงรสต่างๆ ของหยั่นหว่อหยุ่น
มาผสมผสานกับไอศกรีมจนเป็นไอศกรีมรสซีอิ๊วดำ รสบ๊วย และรสเต้าเจี้ยว
โดยมีโลโกฮีลตีบอยยิ้มสดใสอยู่บนถ้วยไอศกรีม
และเมื่อต้นปีที่ผ่านมาก็เพิ่งร่วมกับแมคโดนัลด์
ออกเมนูฟิวชันอย่างไอศกรีมหมูหยองพริกเผา
โดยนำไอศกรีมชื่อดังของแมคโดนัลด์
มาผสานกับน้ำพริกเผาตราเด็กสมบูรณ์
“วัตถุประสงค์หลักคือต้องการจุดประกายให้ผู้คนได้คิดนอกกรอบ
และเปลี่ยนทัศนคติในเรื่องเครื่องปรุงรส
ที่ไม่ถูกจำกัดอยู่เฉพาะแค่เมนูอาหารคาว
แต่สามารถนำมาปรับใช้กับของหวานได้อย่างลงตัว
แถมยังสร้างความแปลกใหม่และเพิ่มมูลค่าได้"
สมหวังกล่าวถึงการร่วมมือกับแมคโดนัลด์
ซึ่งยังเป็นแค่เมนูลองตลาด
มีช่วงเวลาจำกัดในการขาย
เช่นเดียวกับไอศกรีมตราเด็กสมบูรณ์ที่ยังไม่ได้มีขายทั่วไป
เพราะจนถึงวันนี้ หนทางใหม่ล้ำของเด็กสมบูรณ์ยังต้องใช้เวลา
แต่ผลที่ได้กลับมาทันที
คือบทเรียนใหม่ทางธุรกิจ
ที่ต้องกล้าคิดและลงมือทำเท่านั้นจึงจะได้เรียนรู้
เรื่องและภาพ : สืบสกุล แสงสุวรรณ
เติมอาหารสมองและพลังใจด้วยคอนเทนต์สาระจาก 2read
กดถูกใจ กดติดตามเพจ กดไลค์โพสต์นี้ให้เราด้วยนะคะ
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
