23 พ.ค. 2022 เวลา 01:56 • ความคิดเห็น
ตอนนี้เราเองก็เริ่มสนใจเรื่องความสุข คิดถึงความรู้สึกสุขขึ้นมาแล้วเหมือนกัน
ถ้าอย่างนั้น ขออนุญาตเล่านิทานให้ฟังนะ ว่าตอนนั้นที่เจอกับความรู้สึกสุข สุขจนล้น จนสะอึก สุขจนจุกในอก สุขจนต้องร้องไห้ ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา
ตอนนั้นเราเองก็ไม่รู้หรอกว่า ความรู้สึกแบบนั้นเรียกว่าอะไร
ได้แต่บอกตัวเองว่า "เวลากินข้าว อย่าร้องไห้ ไม่ดี คนโบราณเขาถือ"
แต่ในวันต่อมาก็เจอความรู้สึกนี้อีก "อะไรกันนี่ กินข้าวทีไร ร้องไห้ทุกที" เฮ้อ !
ก็ได้แต่บอกตัวเองว่า "เวลากินข้าว อย่าร้องไห้"
เป็นอยู่หลายวัน จนวันหนึ่งก็เลยมานั่งทบทวนก่อนกินข้าวว่า ทำไมเราร้องไห้
ร้องไห้ทำไม เวลาอื่นเยอะแยะ ทำไมไม่ร้อง ทำไมต้องร้องตอนกินข้าว เป็นบ้าอะไร ซึมเศร้าหรือเปล่า
ฉันเสียใจเรื่องอะไร ทุกข์ใจเรื่องอะไรอยู่หรือเปล่า
คำตอบก็ไม่มีนี่ ณ ตอนนั้นนะคะ
กว่าจะรู้ว่า สิ่งที่เจอนั้นคือความปิติสุข ที่เกิดจากการสำนึกรู้คุณ ในบุญคุณของข้าวปลาอาหาร
เกิดสมาธิตื่นรู้ตอนข้าวเข้าปาก ปิติสุขจนน้ำตาไหล
ความรู้สึกสำนึกขอบคุณ ทำให้หัวใจพองโต
จิตวิญญาณรับรู้ อิ่มเต็ม
แบบนี้เรียกว่า ความสุข ได้ไหมคะ
ในทางปฏิบัตินั้นครูบาอาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่า ให้เคี้ยวอาหารช้า ๆ พิจารณาไปด้วยในทุกคำที่ฟันบด ขบ กระทบ กลืน
1
ท่านไม่ได้บอกคำตอบว่า เมื่อเราทำแบบนั้นแล้วจะได้อะไร จะเจอกับสิ่งใด ท่านแค่ให้คำแนะนำ ชี้ทาง ส่วนใครจะทำตาม และได้ผลเช่นไร ท่านก็มิอาจตัดสินได้
เพราะบางคน อาจเคี้ยวช้า ๆ ก็จริง แต่ใจไม่ได้หยุดพิจารณากับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า คำตอบที่เขาได้ อาจเป็นเรื่องอื่น
*สิ่งที่อยู่ตรงหน้า สำคัญที่สุด*
ความสุขเกิดจากความรู้สึกสำนึกรู้คุณสิ่งที่เรามีในปัจจุบัน เห็นคุณค่าในทุกสรรพสิ่งที่ผ่านมา
ความสุขง่าย ๆ แค่นี้แหละ แค่ได้เคี้ยวอาหาร ก็สุขจนน้ำตาไหล
แค่คิดถึงความรู้สึกนั้น ก็สุขจนล้นปรี่
คุณอย่าเพิ่งเชื่อคำตอบนี้นะคะ แต่คุณลองทำตามดูสักระยะด้วยใจนอบน้อม ความสุขที่คุณตามหา จะมากองอยู่ตรงหน้า ทุกที่ที่คุณอยู่ ทุกที่ที่คุณวางตา มันจะมีแต่คำว่า
"ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ"
ความสุขง่าย ๆ
ขอให้ทุกคนมีความสุข
โฆษณา