24 พ.ค. 2022 เวลา 12:27 • กีฬา
คีลียัน เอ็มบัปเป้ เป็นนักเตะคนเดียวในโลก ที่ปฏิเสธข้อเสนอจากเรอัล มาดริด ถึง 3 ครั้ง ซึ่งก็เป็นเรื่องที่แปลกพิลึกมาก ในแง่ว่าตัวเอ็มบัปเป้ก็เป็นแฟนของเรอัล มาดริดตั้งแต่เด็กแท้ๆ มันเกิดอะไรขึ้น วิเคราะห์บอลจริงจังจะเล่าให้ฟัง
3
---------------------
[ การปฏิเสธครั้งแรก : ซัมเมอร์ 2013 ]
เอ็มบัปเป้ เป็นนักเตะฝึกหัดจากแกล๊กฟงแต็ง หรือศูนย์ฝึกเยาวชนของสหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส (เหมือนกับ ศูนย์ลิลล์แชลล์ของอังกฤษ) โดยที่แกล๊กฟงแต็ง จะคัดเอาเยาวชนทั่วประเทศแค่หยิบมือเดียว มาพัฒนาต่อ เพื่อปั้นให้เป็นผู้เล่นแถวหน้าของวงการให้ได้
2
นักเตะดังๆ อย่างเธียร์รี่ อองรี, นิโกลาส์ อเนลก้า, หลุยส์ ซาฮา หรือ แบลส มาตุยดี้ ล้วนผ่านแกล๊กฟงแต็งมาแล้วทั้งนั้น สำหรับเอ็มบัปเป้ ก็มาในแนวทางเดียวกัน เขาเล่นได้อย่างโดดเด่นกับทีมท้องถิ่นชื่อ อาแอส บอนดี้ จนได้ถูกเรียกตัวมาเข้าแคมป์ที่แกล๊กฟงแต็งด้วย
1
ด้วยฝีเท้าที่เด่นกว่าเด็กรุ่นเดียวกันแบบคนละเรื่อง ทำให้ อาร์เซน่อล, เชลซี, ลิเวอร์พูล, แมนฯ ยูไนเต็ด, แมนฯ ซิตี้, ยูเวนตุส, บาเยิร์น, ดอร์ทมุนด์ และ เรอัล มาดริด รุมแย่งตัวเขามาอยู่อะคาเดมี่อย่างบ้าคลั่ง โดยเรอัล มาดริดนั้นดูจะเอาจริงที่สุด
1
ซีเนอดีน ซีดาน เชิญเอ็มบัปเป้ที่ขณะนั้นอายุ 14 ปี ไปทัวร์สนามซานติอาโก้ เบร์นาเบว และพาไปดูสนามซ้อม ว่ามาดริดมีความครบเครื่องขนาดไหน
1
อย่างไรก็ตาม เอ็มบัปเป้ คิดทบทวนอย่างหนัก ว่าจะย้ายไปไหนดี และตัดสินใจเลือก ... โมนาโก
เหตุผลของเอ็มบัปเป้ก็ชัดเจนมากว่า การกระโดดไปอยู่เรอัล มาดริดขนาดนี้มันเร็วเกินไป เขายังไม่เคยสัมผัสฟุตบอลอาชีพเลยสักนัด แล้วจะพรวดไปอยู่กับทีมใหญ่ที่สุดในโลก มันจะโอเคจริงๆ หรือ
1
มุมของเอ็มบัปเป้ก็มีเหตุผล ถ้าดูเคสของมาร์ติน โอเดการ์ด ที่ย้ายจากสตรอมก็อดเซ็ต ไปอยู่เรอัล มาดริดในวัย 15 จนสุดท้ายก็ต้องโดนดองเพราะกระดูกยังอ่อนเกินไป มันก็ส่งผลให้เขาหยุดพัฒนาไปอย่างน่าเสียดาย
2
โมนาโกเป็นทีมที่ใหญ่ประมาณหนึ่ง แต่ไม่ใหญ่เกินไป สโมสรแห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของนักเตะระดับโลกหลายคน อองรีก็เป็นหนึ่งในนั้น ดังนั้นการนับหนึ่งกับโมนาโกดูจะสมเหตุสมผลกว่า โอกาสได้ลงตัวจริงน่าจะง่ายกว่า ดังนั้นเอ็มบัปเป้จึงจำใจปฏิเสธโอกาสทองในการไปเรอัล มาดริดเป็นหนแรก
1
---------------------
[ การปฏิเสธครั้งที่ 2 : ซัมเมอร์ 2017 ]
เอ็มบัปเป้อยู่ทีมเยาวชนของโมนาโก 2 ซีซั่น จากนั้นในฤดูกาล 2015-16 เขาได้ลงสนามกับทีมชุดใหญ่ในลีกเอิงเป็นครั้งแรก ในวันที่ 2 ธันวาคม 2015 เกมที่โมนาโก เจอกับก็อง
โดยเอ็มบัปเป้ ณ เวลานั้น มีอายุเพียง 16 ปี กับ 347 วันเท่านั้น ทำสถิตินักเตะอายุน้อยที่สุดตลอดกาลของสโมสร
1
ปีแรกกับทีมชุดใหญ่โมนาโก เขายังคลำๆ ทางอยู่ แต่พอในฤดูกาลที่สอง (2016-17) ไม่มีใครหยุดเอ็มบัปเป้ได้อีกต่อไป
1
เอ็มบัปเป้ มีความเร็วในระดับที่เหลือเชื่อมาก เขากระชากบอลที คุณไม่มีสิทธิ์จะไล่ทัน แถมยิงประตูได้ทั้งซ้ายและขวา
1
ยิ่งเอ็มบัปเป้ได้เล่นร่วมกับรุ่นพี่เก่งๆ เช่น แบร์นาโด้ ซิลวา, ราดาเมล ฟัลเกา, โตมาส์ เลมาร์, เจา มูตินโญ่ และ ฟาบินโญ่ ยิ่งทำให้โมนาโกผลงานดีมากๆ สุดท้ายปีนั้น โมนาโกได้แชมป์ลีกเอิง และเข้ารอบรองยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ส่วนเอ็มบัปเป้ ติดทีมยอดเยี่ยมพร้อมกันทั้งสองรายการ
1
ตอนนี้หุ้นชื่อเอ็มบัปเป้ มีมูลค่าพุ่งสูงลิ่ว เขาไม่ได้เก่งแต่ฝีเท้า แต่มีความเยือกเย็นเกินกว่าเด็กทั่วไป สาเหตุหลักคือตอนอยู่โมนาโก เขาได้ใกล้ชิดกับรุ่นพี่ ราดาเมล ฟัลเกา ที่อายุมากกว่า 12 ปี ซึ่งการเรียนรู้จากตำนาน ทำให้เอ็มบัปเป้รู้วิธีวางตัวที่เหมาะสม ไม่บ้าดีเดือดแบบวัยรุ่นที่อายุไล่เลี่ยกัน
3
เมื่อจบซีซั่น 2016-17 เรอัล มาดริด เดินหน้าล่าเอ็มบัปเป้อีกครั้ง และคราวนี้ พวกเขารู้ข่าวสารใหม่ด้วยว่า เอ็มบัปเป้จริงๆ แล้ว เป็นแฟนเรอัล มาดริดตั้งแต่เด็ก! ฝาผนังห้องนอนเอ็มบัปเป้ มีแต่คริสเตียโน่ โรนัลโด้ใส่ชุดเรอัล มาดริดเต็มไปหมด
2
นี่เป็นนักเตะที่เข้ากับคาแรคเตอร์ของเรอัล มาดริดทุกอย่าง เก่งแต่เด็ก พรสวรรค์ล้นเหลือ พูดได้หลายภาษา แถมเป็นแฟนของทีมอยู่แล้ว
3
และแน่นอนว่า คุณสมบัติเอ็มบัปเป้พร้อมที่จะเป็นว่าที่บัลลงดอร์ในอนาคตข้างหน้า เจอคนอย่างนี้ คุณไม่อยากได้ก็แปลกแล้ว
2
แต่แน่นอน ไม่ใช่เรอัล มาดริดทีมเดียวที่อยากได้ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ก็เป็นอีกสโมสรที่เล็งไว้ เพราะศัตรูเบอร์ 1 ของเปแอสเชช่วงนั้นคือโมนาโก ถ้าอยากจะลดพลังของคู่แข่ง ก็กระชากคีย์แมนมาอยู่ด้วยกันซะ แค่นี้ก็ทำให้โมนาโกดร็อปพลังลงไปได้เยอะแล้ว
10
และเหตุผลที่สำคัญกว่านั้น คือเอ็มบัปเป้ ก็มีคาแรคเตอร์ที่เหมาะกับเปแอสเชทุกอย่าง เขาเกิดที่ย่านบอนดี้ ที่อยู่ชานเมืองปารีส ห่างตัวเมืองแค่ 10 กิโลเมตร พอจะพูดได้อยู่ว่าเป็นนักเตะท้องถิ่น
2
นอกจากนั้นยังมี Mixed-Race คุณพ่อเป็นแคเมอรูน คุณแม่เป็นแอลจีเรีย และเติบโตในระบบการศึกษาของฝรั่งเศส คือเอ็มบัปเป้สามารถเป็นขวัญใจทั้ง คนผิวขาว คนผิวดำ และคนอาหรับ ที่อยู่ในฝรั่งเศสได้อย่างสบายๆ
5
โมนาโก ตั้งราคาขายไว้ที่ 180 ล้านยูโร ซึ่งทั้งเรอัล มาดริด และเปแอสเช พร้อมจ่ายทั้งคู่ เหลืออยู่ที่ว่าตัวนักเตะจะเลือกสโมสรไหนแค่นั้น
ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานเรอัล มาดริด บินไปคุยกับวิลฟรีด คุณพ่อของเอ็มบัปเป้ และยืนยันว่าจะจ่ายค่าจ้าง สัปดาห์ละ 135,000 ยูโร ซึ่งสำหรับเด็กอายุ 18 ทั่วทั้งโลก ไม่มีใครได้เงินมหาศาลขนาดนี้
3
ตอนแรกโมเมนตั้มเหมือนเอ็มบัปเป้จะย้ายมามาดริดแน่ๆ แล้ว แต่สุดท้ายเปแอสเช เกทับด้วยค่าเหนื่อย 270,000 ยูโรต่อวีก เป็นตัวเลขที่บ้าคลั่งแบบสุดๆ และตัวเลขขนาดนี้ ทำให้เรอัล มาดริดจนแต้ม
2
เงินน่ะมี แต่พวกเขาไม่สามารถขยับค่าเหนื่อยขนาดนั้นได้ เพราะถ้ายอม จะทำให้เด็กอายุ 18 มีค่าเหนื่อยมากกว่า เซร์คิโอ รามอส, ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส และ คาริม เบนเซม่า ซึ่งจะทำให้โครงสร้างเงินเดือนของทีมล่มสลาย และจะเกิดปัญหาภายในแน่ๆ
2
ณ เวลานั้น เรอัล มาดริด ก็มีองค์ประกอบทีมที่โอเคอยู่แล้ว BBC เบนเซม่า - เบล - คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็ยังอยู่ ดังนั้นจึงต้องยอมตัดใจจากเอ็มบัปเป้ เป็นครั้งที่ 2
1
เมื่อเรอัล มาดริดไม่สู้ เอ็มบัปเป้ จึงเซ็นสัญญากับเปแอสเชในที่สุด เขาให้เหตุผลในวันเซ็นสัญญาว่า "ผมอยากเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็กต์ใหม่ๆ ของสโมสร สำหรับเยาวชนที่เติบโตเขตปารีส นี่เป็นเหมือนความฝันที่เป็นจริง มันจะเป็นประสบการณ์พิเศษที่ผมจะได้เล่นที่พาร์ก เดอ แพรงซ์"
2
นอกจากนั้นเอ็มบัปเป้ยังบอกกับ วาดิม วาซิลเยฟ รองประธานสโมสรโมนาโกว่า "ผมเป็นปารีเซียง ดังนั้นผมคิดว่ามันเร็วเกินไปที่จะออกจากประเทศตอนนี้ ผมอยากจะเป็นสุดยอดผู้เล่นที่ฝรั่งเศสเสียก่อน"
2
เหตุผลตามสคริปต์เป็นแบบนั้น แต่เหตุผลจริงๆ หลายคนเชื่อว่า เป็นเรื่องเงินนั่นแหละ
1
แต่ถามว่าหนทางของเขากับเรอัล มาดริด ปิดตายเลยหรือไม่ คำตอบคือ ยังไม่ปิด เพราะในอนาคตหากเอ็มบัปเป้เก่งขึ้นกว่านี้ จนได้รับการยอมรับในระดับโลก เรอัล มาดริดก็ค่อยกลับมาใหม่ได้ และตอนนั้น ตัวเลข 270,000 ยูโรต่อวีก ก็คงจ่ายได้โดยไม่มีปัญหา
2
---------------------
[ การปฏิเสธครั้งที่ 3 : พฤษภาคม 2022 ]
เมื่อย้ายไปเปแอสเชปั๊บ เอ็มบัปเป้ยังไม่หยุดพัฒนา เขาคว้ารางวัลโกลเด้นบอย หรือสุดยอดดาวรุ่งแห่งยุค ตามด้วยช่วยฝรั่งเศสคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 อย่างยิ่งใหญ่
3
ถึงตรงนี้ ทุกคนก็ยอมรับแล้วว่า เอ็มบัปเป้เป็นกองหน้าที่เก่งระดับท็อปไฟว์ของโลก ซึ่งอีกไม่นาน เมื่อนักเตะอย่างเมสซี่, โรนัลโด้, เลวานดอฟสกี้ รีไทร์ไป เด็กๆ ในยุคเดียวกัน จะไม่มีใครเก่งกาจเหนือไปกว่าเขาอีก การได้บัลลงดอร์ของเอ็มบัปเป้อยู่แค่เอื้อม ประเด็นคือเมื่อไหร่เท่านั้น
สำหรับเรอัล มาดริด เมื่อเอ็มบัปเป้มีชื่อเสียงขนาดนี้ การให้ค่าเหนื่อย 2-3 แสนยูโรต่อสัปดาห์ ก็กลายเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลแล้ว
1
ช่วงซัมเมอร์ปี 2021 ณ เวลานั้น เอ็มบัปเป้เหลือสัญญากับเปแอสเช 1 ปี ถ้าเขาไม่ต่อ ก็จะย้ายไปเล่นทีมไหนก็ได้อย่างอิสระทันทีตามกฎบอสแมน โดยเอ็มบัปเป้บอกว่า "ผมเป็นคนทะเยอทะยาน ผมตั้งเป้าหมายไว้สูงสุดเสมอ แล้วมาดูกันว่า ผมจะไปได้ไกลที่สุดแค่ไหน"
3
คำกล่าวของเอ็มบัปเป้ ทำให้คนตีความว่า เขาเบื่อแล้ว ที่ต้องเล่นในลีกเอิงฝรั่งเศส คืออยากหาความท้าทายใหม่ๆ กับลีกประเทศอื่น และแน่นอน คนก็โยงไปที่เรอัล มาดริด โดยอัตโนมัติ
2
ในซัมเมอร์ปี 2022 มาดริด จะมี Salary Cap เพิ่มอย่างมหาศาล เพราะแกเร็ธ เบล หมดสัญญาแล้ว นอกจากนั้น ในซีซั่น 2022-23 สนามเบร์นาเบวที่รีโนเวทอยู่ จะสร้างเสร็จพอดี ดังนั้นถ้าซูเปอร์สตาร์ตัวชูโรงเบอร์หนึ่งของโลก ย้ายมาเล่นในสนามแห่งนี้ คงเป็นอะไรที่เพอร์เฟ็กต์มาก
2
เปแอสเชพยายามรั้งเอ็มบัปเป้ทุกอย่าง เริ่มจากการคว้าลีโอเนล เมสซี่ มาเสริมทัพ โดยนัสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ ประธานสโมสรเปแอสเชกล่าวว่า "จะมีสโมสรไหนในโลกที่มีความทะเยอทะยานมากไปกว่าเรา เอ็มบัปเป้มีทุกอย่างที่เขาต้องการอยู่กับสโมสรแห่งนี้แล้ว เขาคือสัญลักษณ์ของปารีส สัญลักษณ์ของประเทศ ดังนั้นเราจะไม่ปล่อยให้เขาย้ายทีมแบบไม่มีค่าตัวอย่างแน่นอน"
3
ถึงตรงนี้ จึงเป็นการประลองกำลังภายในกัน ระหว่างเรอัล มาดริด กับ เปแอสเช ว่าใครจะมีข้อเสนอที่ดึงดูดใจตัวนักเตะมากกว่า
เรอัล มาดริดมีฐานแฟนใหญ่กว่า ได้เล่นในลีกที่แข็งแกร่งกว่า สามารถต่อยอดทำตลาดได้ง่ายกว่า แต่เปแอสเช มีกำลังเงิน unlimited และมีความรักจากแฟนๆ มหาศาลมอบให้เขา ไม่ต้องไปเสี่ยงกับแฟนบอลมาดริดที่เดาใจยาก
3
ในเดือนตุลาคม 2021 เอ็มบัปเป้ เหมือนจะเลือกเรอัล มาดริด เขาบอกว่า "ผมแจ้งสโมสรไปแล้วว่าผมอยากย้าย จริงๆ อยากให้เปแอสเชขายผมในตลาดเดือนมกราคม จะได้เงินก้อนกลับมาบ้าง เพราะถ้ารอถึงซัมเมอร์ผมจะย้ายออกไปแบบไม่มีค่าตัวเลย"
เรอัล มาดริด ระดมข้อเสนอเข้ามาในตลาดเดือนมกราคม เพื่อให้แปเอสเชขายซะให้จบๆ ได้เงินไปหลักร้อยล้าน ก็ยังดีกว่าเสียฟรีในช่วงซัมเมอร์ แต่เปแอสเชไม่ขาย พวกเขายอมเสี่ยงดีกว่า อาจจะต่อสัญญาเอ็มบัปเป้ได้ ใครจะรู้
ซึ่งการกระทำของเอ็มบัปเป้ก็ชวนให้คิดว่ามาดริดได้เปรียบจริงๆ เช่นเพื่อนสนิทของเขาลงรูปในบ้านเอ็มบัปเป้กำลังแพ็กของจัดกล่อง เหมือนจะย้ายไปไหน
จากนั้นเขากับ อัชราม ฮาคิมี่ เพื่อนร่วมทีมเปแอสเช ไปกินเนื้อย่างที่กรุงมาดริด หลายคนก็ตีความว่า เฮ้ย ไปแอบคุยกับสโมสร แล้วเอาร้านเนื้อมาบังหน้าหรือเปล่า
2
นอกจากนั้นยังมีข่าวว่า เขาตกลงปากเปล่า กับ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานของเรอัล มาดริดไปแล้ว ว่าจะย้ายไปร่วมทีมแน่ๆ นั่นคือเหตุผลที่ทีมราชันชุดขาว ไม่รุกหนักในดีลเออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เพราะมั่นใจว่าได้เอ็มบัปเป้แล้ว
2
วันที่ 15 พฤษภาคม 2022 เอ็มบัปเป้ไปรับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมลีกเอิง เขาให้สัมภาษณ์ว่า "ทุกคนจะได้รู้กันเร็วๆนี้ มันจวนจะจบแล้ว ผมตัดสินใจไปแล้ว"
1
โมเมนตั้ม เทไปที่สเปนอย่างชัดเจนมาก แฟนๆ เรอัล มาดริด ต่างส่งเสียง Chant เรียกชื่อเอ็มบัปเป้ในสนาม นี่จะเป็นดีลที่จะพาสโมสรประสบความสำเร็จในอีก 1 ทศวรรษข้างหน้า
1
ก่อนที่เอ็มบัปเป้จะประกาศว่าจะไปไหน เกมก็เกิดพลิกผัน เมื่อฝั่งเปแอสเช ยื่นข้อเสนอมหาศาลที่สุด โดยกิลเยม บาลาเก้ นักข่าวคนดัง รายงานว่าเปแอสเชจ่ายเงินกินเปล่า (Signing-on fee) สูงสุดที่โลกนี้เคยมีมา เป็นจำนวน 150 ล้านยูโร (หรือ 5,455 ล้านบาท)
5
ยังไม่นับค่าเหนื่อยที่ไม่เปิดเผย แต่ก็เชื่อว่า อยู่ในตัวเลขระดับ 1 ล้านยูโรต่อวีก คือใส่เงินกันยับแบบไม่มีปรานีกันเลย
5
นอกจากนั้น เอล ชิริงกิโต้ ทีวี สำนักข่าวในสเปนรายงานว่า เปแอสเช จะให้อำนาจกับเอ็มบัปเป้ สามารถมีบทบาทได้ว่าอยากได้นักเตะคนไหนมาเสริมทัพ และสามารถออกความเห็นเรื่องการปลดหรือแต่งตั้งผู้จัดการทีมได้ แต่เอ็มบัปเป้ออกมาบอกภายหลังว่า เขาเป็นแค่นักฟุตบอลและจะไม่ทำหน้าที่เกินตัวไปกว่านี้
6
อย่างไรก็ตาม เรื่องตัวเงินนั้น เป็นความจริงแน่นอน เปแอสเชต้องยอมจ่ายขนาดนี้ เพื่อรั้งตัวนักเตะเบอร์ 1 เอาไว้
1
นั่นแปลว่าถ้าเอ็มบัปเป้ตอบตกลง ก็เหมือนเปแอสเชต้องจ่ายค่าตัว 2 รอบ (180 ล้าน + 150 ล้าน = 330 ล้าน) เป็นการลงทุนที่มหาโหดอย่างมากจริงๆ สำหรับนักเตะหนึ่งคน
3
และผลลัพธ์ในตอนจบ เอ็มบัปเป้ ตัดสินใจเลือกเปแอสเช โดยเขาแจ้งฟลอเรนติโน่ เปเรซ ว่าจะอยู่ฝรั่งเศสต่ออีก 3 ปี
หนังสือพิมพ์มาร์ก้า รายงานว่า เปเรซเมื่อทราบข่าวก็ตอบกลับไป ด้วยข้อความว่า "ฉันเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เปแอสเชทำลายความฝันของนายที่อยากมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เด็ก แต่ฉันขออวยพรให้นายประสบความสำเร็จในอนาคต"
3
แต่สื่อของสเปน ไม่สุภาพแบบเปเรซ พวกเขาโมโหอย่างกราดเกรี้ยว ที่เอ็มบัปเป้ไม่เลือกเรอัล มาดริด มาร์ก้า พาดหัวหน้าหนึ่งว่า "คุณต้องเป็นคนที่มีเกียรติยศมากพอนะ ถึงจะเล่นให้เรอัล มาดริดได้"
5
ขณะที่โชเซ่ ฟีลิกซ์ ดิอาซ นักข่าวจาก เอล ชิริงกิโต้ ที่เป็นอินไซเดอร์ของเรอัล มาดริด ด่าแบบไม่ยั้งว่า "10 วันที่แล้ว คุณให้คำสัญญากับเรอัล มาดริด ว่าจะย้ายมา สโมสรส่งเสื้อแข่งให้คุณเป็นของขวัญวันเกิดแล้วด้วย เอ็มบัปเป้คุณไม่มีสปิริต ที่ไม่รักษาคำพูดของตัวเอง คุณไม่ใช่ลูกผู้ชาย โอเค คุณอาจเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม แต่ไม่ใช่คนที่ยอดเยี่ยม"
2
ไม่ว่าเรอัล มาดริดจะคร่ำครวญอย่างไร แต่เอ็มบัปเป้ก็เลือกเปแอสเช พร้อมเซ็นสัญญา 3 ปีแล้ว ซึ่งนี่เป็นดีลที่พลิกผันอย่างเซอร์ไพรส์มากๆ เพราะใครๆ ก็คิดว่าเอ็มบัปเป้น่าจะย้ายมามาดริดแน่ๆ
แต่ที่ต่างประเทศก็มีคนวิเคราะห์ว่า เอ็มบัปเป้อาจจะจงใจปล่อยให้สัญญาหมด เพื่อรับข้อเสนอที่ได้เงินมากที่สุดจากฝั่งใดฝั่งหนึ่ง เมื่อได้ข้อเสนอที่แพงมหาศาลจากเปแอสเช เขาก็เลือกเปแอสเชแค่นั้น
3
สุดท้าย แผนการของเรอัล มาดริด เลยล่ม ตอนแรกมีข่าวว่าจะควบสองคน เอาทั้งเอ็มบัปเป้ และ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ แต่พอไปโฟกัสที่เอ็มบัปเป้มากเกินไป เลยปล่อยฮาแลนด์หลุดมือให้แมนฯ ซิตี้ กลายเป็นว่าตอนนี้เรอัล มาดริด ไม่ได้ Wonderkid ของวงการ ทั้งเอ็มบัปเป้ และ ฮาแลนด์
2
เท่ากับว่า คีลียัน เอ็มบัปเป้ เป็นนักเตะที่เรอัล มาดริด ติดตามมาตลอดเกือบ 10 ปี เคยแสดงเจตจำนงอยากได้ตัวถึง 3 ครั้ง แต่ก็พลาดทุกครั้ง
ส่วนในรอบที่ 3 นี้ ก็ไม่มีใครรู้เหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมเอ็มบัปเป้เลือกเปแอสเช
- อยากจะพาเปแอสเชได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หรือเปล่า?
- อยากอยู่ในที่เพลย์เซฟ ยิงประตูคู่แข่งกระจุยทุกนัด รักษามาตรฐานให้สม่ำเสมอ เพื่อติดทีมชาติฝรั่งเศสไปเล่นฟุตบอลโลก และฟุตบอลยูโร
 
- อยากเป็นตำนานของปารีส ยิงกระจุยจนมีรูปปั้นตั้งหน้าสนามเมื่อแขวนสตั๊ดไปแล้ว
2
- หรือจริงๆ เป็นเพียงแค่เรื่องเงินเท่านั้น
สำหรับประเด็นส่งท้าย ทางลาลีกาเองก็ฝันสลาย แทนที่จะได้เอ็มบัปเป้มาเป็นตัวชูโรงคนใหม่ในปีหน้าก็กลับวืดไปอย่างน่าเสียดาย โดยลาลีกานั้น แสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจน ที่เปแอสเชเอาเงินมาทุบแบบนี้ โดยฆาเบียร์ เตบาส ประธานลาลีกาโวยว่า ปีที่แล้วเปแอสเชขาดทุน 700 ล้านยูโร แล้วเอาเงินจากไหนเป็นร้อยล้านมาต่อสัญญาเอ็มบัปเป้
2
เตบาสกล่าวว่า ถ้าเปแอสเชขาดทุน แต่ก็หาเงินจากทุนต่างประเทศมาโปะๆ หลอกยูฟ่า เพื่อไม่ให้บัญชีติดตัวแดงแบบนี้ แล้วจะมีกฎไฟแนนเชียล แฟร์เพลย์ทำไม เป็นคนรวยแล้วบริหารขาดทุน จะแต่งบัญชียังไงก็ได้อย่างนั้นหรือ
3
แต่โต้เถียงไปก็เท่านั้น เพราะสุดท้ายเปแอสเช คงไม่พลาดโดนไฟแนนเชียล แฟร์เพลย์หรอก พวกเขารู้ดีว่าจะจัดการเรื่องตัวเงินอย่างไร คือถ้าจะโดนก็โดนนานแล้ว
1
เรื่องราวของเอ็มบัปเป้ก็จบลงตรงนี้ กับดีลมหากาพย์ที่จบลงชั่วคราว 3 ปี จากนั้นปี 2025 ตอนเอ็มบัปเป้อายุ 26 หมดสัญญาอีกรอบ เราค่อยมาดูกันอีกที ว่าเขาจะคิดย้ายทีมหรือไม่
2
น่าสนใจว่าเมื่อถึงวันนั้น เรอัล มาดริด จะยังกลับมายื่นข้อเสนอให้อีกหรือเปล่า พวกเขาจะกล้าตามง้อนักเตะคนเดิมที่ปฏิเสธคุณซ้ำๆ ถึง 3 รอบ จริงๆ หรือ
ในนิยายสามก๊ก มีเหตุการณ์คลาสสิค คือเล่าปี่ต้องการได้ตัวขงเบ้งมาเป็นกุนซือ จึงไปเยือนกระท่อมของขงเบ้งเพื่อทำการทาบทาม ปรากฏว่า 2 ครั้งแรก ขงเบ้งไม่ยอมออกมาเจอ แต่เล่าปี่ก็ยังไม่ยอมแพ้ มาหาขงเบ้งเป็นหนที่ 3 และคราวนี้ขงเบ้งเห็นความตั้งใจ จึงตอบตกลงยอมเป็นกุนซือให้
2
อย่างไรก็ตาม ในนิยายสามก๊กก็ไม่ได้บอกนะ ว่าถ้าเล่าปี่ไปเยือน 3 รอบ แล้วขงเบ้งไม่ยอมตกลงสักที เล่าปี่ต้องทำยังไงต่อ
แล้วจริงๆ เล่าปี่มียศศักดิ์เป็นเชื้อพระวงศ์ เช่นเดียวกับเรอัล มาดริด ก็เป็นหนึ่งในทีมใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งคู่ล้วนมีศักดิ์ศรีของตัวเองเช่นกัน และคงไม่ยอมให้ใครมาปั่นหัวเล่นสนุกแน่ๆ
เอาเป็นว่า ถ้าทุ่มสุดตัวแล้วยังไม่ยอมมา ก็คงต้องบอกลากันเพียงแค่นี้ ตื๊อใครสักคน 3 รอบแล้วเขาไม่เล่นด้วย มันก็มากเกินพอแล้วล่ะนะ
 
#KylianCestParis
6
โฆษณา