24 พ.ค. 2022 เวลา 11:23 • สุขภาพ
🔰ส้นเท้าแตก​ -​ Dry​ Heel fissures / Cracked heel 🔰
เป็นภาวะที่เกิดรอยแตกบนหนังกำพร้าบริเวณส้นเท้า จากภาวะผิวขาดน้ำ​ (anhidrotic skin) และอาจเกิดร่วมกับภาวะเคราตินมากเกินไป (hyperkeratotic)​
ในบทความของ Young &​Townson ที่ตีพิมพ์ใน​ The Diabetic Foot Journal เมื่อปี2014 ได้แบ่งความหนักเบาของส้นเท้าแตกออกเป็น4ระดับ​
.
1️⃣ระดับที่1 ‘well hydrated heels​' ส้นเท้ามีความชุ่มชื้นดี​ ไม่มีการแตกแห้งของผิว​ สามารถใช้สารให้ความชุ่มชื้น​ หรือ​ ครีมยูเรีย​ 10% ทาวันละครั้งเพื่อป้องกันไม่ส้นเท้าแตกมากไปกว่านี้
2️⃣ระดับที่2 Drying skin but no callus​ ส้นเท้าแตกแห้งแต่ไม่มีหนังหนา​ ให้ทาสารให้ความชุ่มชื้นวันละครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นมากขึ้น​
3️⃣ระดับที่3 Drying skin combined with Callus. เท้าแตกแห้งและมีหนังหนา​ ให้ทาครีมกันส้นเท้าแตก​ (Heel Balm) ที่มีส่วนประกอบของยูเรีย​ 25% วันละครั้ง​
4️⃣ระดับ4 Callused skin with open splits รุนแรงที่สุด​ โดยมีส้นเท้าแตกเป็นแผลเปิด​ มีการติดเชื้อเกิดขึ้น​ ให้ทายูเรีย​ 25% วันละครั้ง​ รวมทั้งต้องใส่ถุงเท้าและรองเท้าหุ้มส้นเสมอ​ ห้ามลากแตะ​ หรือเดินเท้าเปล่า​ เมื่ออาการดีขึ้นให้เปลี่ยนไปใช้ยูเรีย​ 10%
⚠️⚠️ผู้ป่วยเบาหวานและโรคหลอดเลือดส่วนปลาย เมื่อเกิดส้นเท้าแตกควรไปพบแพทย์​ เพื่อให้คำแนะนำที่เหมาะสม​ ติดตามอาการ​ และควบคุมไม่ให้ส้นเท้าแตกมากขึ้น
โรคอื่นๆที่มีความเสี่ยงในการเกิดส้นเท้าแตกเช่น ผู้มีภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ (Hypothyroidism) โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ และโรคหนังแข็ง (Scleroderma)​ เป็นต้น
💦สารให้ความนุ่มลื่นแก่ผิว (emollients) เป็นสารที่มีส่วนประกอบจากไขมัน ช่วยทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น ปกคลุมผิวชั้นนอก​ ป้องกันการสูญเสียน้ำจากผิว โดยใช้แทนสบู่เพื่อทำความสะอาดผิว และใช้ทาผิวทิ้งไว้เพื่อเป็นมอยส์เจอไรเซอร์หลังการล้าง ตัวอย่างของสารกลุ่มนี้เช่น Petrolatum, lanolin, mineral oil, dimethicone​
สาร emollients มีคุณสมบัติทำให้พื้นผิวมีความลื่น.จึงควรทาในตอนกลางคืนก่อนการเข้านอนเพื่อลดความเสี่ยงต่อการลื่นล้ม และการใส่ถุงเท้าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความชุ่มชื้นของผิวได้ดียิ่งขึ้น
☔สารดูดซับความชุ่มชื้นให้ผิว (humectant) เช่น ยูเรีย กรดแลคติก และกลีเซอรีน ทำหน้าที่เป็นสารช่วยเสริมการรักษาความชุ่มชื้นผิวร่วมกับสาร emollients และช่วยดูดความชุ่มชื้นจากผิวชั้นหนังแท้เข้าสู่ชั้นหนังกำพร้า ช่วยลดการสูญเสียน้ำจากผิวชั้นในสู่ชั้นนอกของผิวชั้นหนังกำพร้า
โดยพบว่ายูเรียที่ความเข้มข้น 10% และ 25% (เมืองไทยมี​ 10% และ​ 20%) มีฤทธิ์ในการเร่งผลัดเซลล์ผิว ลดการลอกเป็นขุยของผิวชั้นหนังกำพร้าได้ โดยความเข้มข้นของยูเรียที่ใช้ควรเลือกให้เหมาะสมกับความรุนแรงของรอยโรค
👨‍🏫ปัญหาส้นเท้าแตกส่วนใหญ่เกิดในกลุ่มหญิงวัยกลางคนและหญิงสูงอายุ เนื่องจากเซลล์ผิวหนังของผู้หญิงทั้งสองกลุ่มเริ่มมีรูพรุนและมีความยืดหยุ่นของผิวน้อยลง ทำให้ไม่สามารถรักษาความชุ่มชื้นไว้ได้
การป้องกันหรือรักษาทำได้ไม่ยากด้วยการหลีกเลี่ยงการสวมใส่รองเท้าส้นเปิด
เลือกรองเท้าที่มีการบุพื้นภายในที่นุ่ม
สวมใส่ถุงเท้าหรือรองเท้าสำหรับใส่ในบ้าน
เมื่อต้องเดินบนพื้นเย็นๆเป็นประจำ
อย่าขัดส้นเท้าด้วยหินขัดเพราะจะยิ่งทำให้เซลล์ผิวหนังถูกทำลายเร็วขึ้น ผิวยิ่งแห้งแข็งและอาการส้นเท้าแตกอาจยิ่งเป็นมากขึ้น
ควรทาครีมให้ความชุ่มชื่นที่ส้นเท้าเป็นประจำ
.
POSTED 2022.05.24
โฆษณา