27 พ.ค. 2022 เวลา 05:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ราคาพาร์ ราคา IPO ราคาตามบัญชี ราคาตลาด ต่างกันยังไง ?
รู้ยัง ราคาหุ้น ไม่ได้มีแบบเดียวนะ !!
เมื่อพูดถึงราคาหุ้น เรามักคุ้นชินกับราคาหุ้นในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ทุกวัน
แต่จริง ๆ แล้วราคาหุ้นนั้นมีหลายแบบ แต่ละแบบก็มีความหมายที่ต่างกัน และเอาไปใช้ในมุมมองที่ไม่เหมือนกัน
วันนี้เลยอยากจะพาทุกคนมารู้จักกับราคาหุ้นในแบบต่าง ๆ กันครับ เวลาคนอื่นคุยเรื่องราคาหุ้นเราจะได้ไม่สับสน 😊
ราคาหุ้นเหล่านี้ ต่างกันอย่างไร?
เมื่อพูดถึงราคาหุ้น เรามักได้ยิน 4 ชื่อนี้กันบ่อย ๆ
  • 1.
    ราคาพาร์ (Par Value)
  • 2.
    ราคา IPO (IPO Price)
  • 3.
    ราคาตามบัญชี (Book Value)
  • 4.
    ราคาตลาด (Market Price)
เรารู้จักหุ้นดีแค่ไหน
แม้ว่าราคาหุ้นทั้ง 4 คำนี้จะมีคำว่า “ราคา” เหมือนกัน แต่หลายคนอาจยังสับสน และเอามาผสมเป็นเรื่องเดียวกัน ทั้งที่ในความจริงนั้นแตกต่างกันทั้งหมด
แล้วราคาหุ้นทั้ง 4 แบบนี้ต่างกันยังไง ? เราไปหาคำตอบกันครับ
ราคาพาร์ (Par Value)
📌 ราคาพาร์ หรือ มูลค่าที่ตราไว้ต่อหุ้น
คือราคาหุ้น ณ วันก่อตั้งบริษัท หรือก็คือต้นทุนของผู้ก่อตั้งบริษัท
บริษัทสามารถกำหนดราคาพาร์ได้ตามที่ต้องการ จะกำหนดเป็น 0.10 บาทต่อหุ้น 0.25 บาทต่อหุ้น หรือ 10 บาทต่อหุ้นก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะกำหนดไว้ที่ 1 บาทต่อหุ้น
📌 วิธีคำนวณราคาพาร์
ราคาพาร์ = ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว / จำนวนหุ้น
📌 ราคาพาร์มีค่าสูง หรือต่ำถึงจะดี
ราคาพาร์แทบจะบอกอะไรเราไม่ได้เลย มันเป็นเพียงตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับทุนในการจัดตั้งธุรกิจตอนเริ่มต้น
ราคาพาร์จึงบอกไม่ได้ว่า หุ้นตัวนั้นถูกหรือแพง และไม่เกี่ยวข้องกับความแข็งแกร่งของหุ้นตัวนั้นด้วย
📌 คำศัพท์ที่ควรรู้เพิ่มเติม
  • ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว คือมูลค่าหุ้นที่ขายออกไปแล้วทั้งหมด
  • ทุนจดทะเบียน คือมูลค่าหุ้นที่ขายออกไปแล้วทั้งหมด รวมกับมูลค่าหุ้นในส่วนที่ยังไม่ได้ขายออกไป
ราคา IPO (IPO Price)
📌 ราคา IPO
ราคา IPO คือ ราคาหุ้นที่บริษัทเสนอขายเป็นครั้งแรกให้กับนักลงทุนทั่วไป เพื่อระดมทุนไปใช้ขยายกิจการ หรือชำระหนี้ของบริษัท
📌 วิธีคำนวณราคา IPO
เนื่องจากหุ้น IPO เป็นหุ้นใหม่ที่เพิ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์ ยังมีข้อมูลน้อย จึงประเมินราคาได้ยาก ก ผู้ประเมินราคาจึงต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ เช่น ที่ปรึกษาทางการเงิน และนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เป็นต้น
📌 ราคา IPO มีค่าสูง หรือต่ำถึงจะดี
ราคา IPO ไม่ได้บอกความถูกแพงของหุ้นตัวนั้นแบบตรง ๆ สิ่งสำคัญที่ต้องไปดูต่อคือ ความสามารถในการทำกำไรของบริษัท
1
ถ้าราคา IPO สูงมาก แต่บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรที่ต่ำกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน ราคา IPO นี้จะดูแพงขึ้นมาทันที
📌 ทำไมราคา IPO ถึงแพงกว่าราคาพาร์
เพราะ ราคา IPO เป็นราคาหุ้นตอนนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งบริษัทอาจดำเนินงานมาเป็นเวลานานแล้วหลายสิบปี ทำให้มูลค่าของบริษัทสูงกว่าในวันแรกที่จัดตั้งด้วยราคาพาร์นั่นเอง
ราคาตามบัญชี (Book Value)
📌 ราคาตามบัญชี หรือ ราคาหุ้นเมื่อดูจากมูลค่าทางบัญชี ในงบการเงินล่าสุด
มูลค่าทางบัญชีที่ว่า ก็คือมูลค่าของผู้ถือหุ้นในงบการเงินล่าสุด ซึ่งมาจากสินทรัพย์หักออกด้วยหนี้สินของบริษัท ส่วนที่เหลือก็คือส่วนของผู้ถือหุ้น
📌 วิธีคำนวณราคาตามบัญชี
ราคาตามบัญชี = ส่วนของผู้ถือหุ้น / จำนวนหุ้นชำระแล้ว
ส่วนของผู้ถือหุ้น = สินทรัพย์ - หนี้สิน
📌 ราคาตามบัญชีมีค่าสูง หรือต่ำถึงจะดี
ราคาตามบัญชียิ่งสูงยิ่งดี นั่นหมายความว่า บริษัทมีสินทรัพย์มากกว่าหนี้สินจำนวนมาก
โดยมากราคาตามบัญชีมักมีค่าเป็นบวก ถ้าบริษัทไหนมีราคาตามบัญชีเป็นลบ ต้องระวังเอาไว้เลย เพราะแปลว่าบริษัทนั้นกำลังอยู่ในภาวะไม่ปกติ ทำให้มีหนี้สินมากกว่าสินทรัพย์
ราคาตลาด (Market Price)
📌 ราคาตลาด หรือ ราคาหุ้นที่เคลื่อนไหวอยู่ทุกวัน เป็นราคาที่ซื้อ-ขายจริงในตลาด
ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นเกิดจากความต้องการซื้อและความต้องการขายของนักลงทุนในตลาด ซึ่งมาจากความพึงพอใจของผู้ซื้อและผู้ขาย
📌 วิธีคำนวณราคาตลาด
ราคาตลาด = มูลค่าตามราคาตลาด / จำนวนหุ้นชำระแล้ว
📌 ราคาตลาดสูง หรือต่ำถึงจะดี
ในเรื่องนี้มีความคล้ายกับราคา IPO คือ เราต้องเทียบกับความสามารถในการทำกำไรของบริษัท
ราคาตลาดที่สูงมากไม่ได้หมายความว่าราคาหุ้นจะแพงเสมอไป ถ้าบริษัทมีความสามารถทำกำไรที่สูงและโดดเด่นกว่าคู่แข่ง
ขณะเดียวกัน ถ้าบริษัทมีความสามารถในการทำกำไรที่ต่ำ แม้ราคาหุ้นจะไม่กี่บาท ก็ถือว่ามีราคาแพงเมื่อเทียบกับหุ้นตัวอื่น
"เพราะการเงินเป็นเรื่องของทุกคน"
พวกเรากลุ่มคนที่รักเรื่องราวของการเงินการลงทุนเป็นชีวิตจิตใจ จึงก่อตั้งเพจ Dime! (ไดม์!) ขึ้น
Dime! แปลว่าเหรียญ 10 เซนต์ (ประมาณ 3 บาท) สื่อถึงความตั้งใจของเราที่จะทำให้การเงินการลงทุนเป็นเรื่องที่คุณเข้าถึงได้ เข้าใจง่าย และนำไปประยุกต์ใช้ต่อได้จริง เหมือนกับเงิน 1 ไดม์ ที่ใคร ๆ ก็สามารถเข้าถึงได้
หากทุกคนมีความรู้ทางการเงินที่แข็งแรง
สังคมของเราก็จะดีขึ้นตามไปด้วย
โฆษณา