27 พ.ค. 2022 เวลา 07:13 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
A Man Called Hero (2022) จากขี่พายุดาบเทวดาสู่เรียกข้าว่าฮีโร่
ตอนปี 1999 ที่หนัง ขี่พายุดาบเทวดา หรือ A Man Called Hero ออกฉาย ต้องถือว่าเป็นหนังที่สร้างความน่าผิดหวังพอประมาณ แม้จะทำเงินสร้างกำไรได้ ส่วนหนึ่งผู้ชมคาดหวังว่าจะได้เห็นอะไรมากกว่า The Strom Riders หรือฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้าที่ออกฉายก่อนหน้า 1 ปี และยังสร้างจากการ์ตูนดังของหม่าหยงเฉินเช่นเดียวกัน
ที่จริงหนังวางแผนสร้างหลายภาคแต่ภาคแรกไม่เปรี้ยงทั้งที่ดาราก็ดี เนื้อเรื่องก็ดัง ทำให้ล้มเลิกแผนสร้างภาคต่อ แต่ต่อมามีการเอามาสร้างเป็นซีรีส์มีเหอเจียจิ้งแสดงนำ ผ่านไป 30 กว่าไม่น่าเชื่อว่าไม่มีการปัดฝุ่นมาทำใหม่เลย จนกระทั่ง IQIYI ทำออกมาเป็นหนังสตรีมมิ่งออกอากาศเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
A Man Called Hero เป็นการ์ตูนสร้างชื่อให้กับหม่าหยงเฉินที่เขาเขียนเรื่องนี้ก่อนฟงอวิ๋นนานมาก ตัวเอกคือหัวอิงสงเป็นคนชะตาอับโชคอยู่กับใครก็มักโชคร้าย พ่อแม่ก็ถูกสังหาร จนต้องไปที่อเมริกาพร้อมเซิงหนูผู้เป็นคนรับใช้ และกุยผู่ยอดฝีมือผู้ไร้แขนและซ่อนหน้าตนเองใต้หน้ากาก หัวอิงสงได้ช่วยเหลือแรงงานจีน กลายเป็นวีรบุรุษ แต่งงานมีลูก สุดท้ายเมียก็ตาย มีศัตรูคู่อาฆาตเป็นยอดฝีมือญี่ปุ่นและเหล่านินจา
แต่โดยส่วนตัวของผมแล้วค่อนข้างที่จะชอบหนัง A Man Called Hero(1999) พอประมาณ แม้ว่าตัวหนังจะค่อนข้างอ่อนก็ตาม ด้วยว่าชอบการ์ตูนเรื่องนี้ที่สำนักพิมพ์บูรพัฒน์พิมพ์ออกมาในภาคปฐมบทจำนวน 4 เล่ม (เมื่อคืนเอาออกมาปัดฝุ่นอ่านใหม่ แล้วก็เลยหยิบหนังขึ้นมาดูซ้ำ) เสียดายที่สำนักพิมพ์ทำออกมาแค่นี้ไม่พิมพ์ต่อให้จบ ชอบฝีมือการใช้ภาพที่ดูดิบๆ ขณะเดียวกันเนื้อเรื่องค่อนข้างเข้มข้น ไม่เลอะเทอะเหมือนฟงอวิ๋น
จุดอ่อนของหนังปี 1999 คือ A Man Called Hero การเดินเรื่องที่ค่อนข้างสับสนไม่มีจุดโฟกัสที่แน่นอน เพราะตัวหนังเดินเรื่องคู่กันระหว่างเรื่องของหัวอิงสงในอดีตที่หนีคดีฆ่าฝรั่งตายมาอยู่ไชน่าทาวน์ นิวยอร์ค สลับกับการเล่าถึงหัวอิงสงในอีก 16 ปีต่อมาเมื่อลูกชายเดินทางข้ามทะเลมาตามหาเขา
การเล่าสองเรื่องแบบพยายามจะทำทั้งสองเรื่องให้บาลานซ์กัน แต่ผลที่ได้คือเรื่องทั้งคู่มันไม่เอื้อกัน ซ้ำร้ายยังเป็นตัวฉุดอารมณ์ของหนังให้ขึ้นไม่สุด เหมือนกับว่าเราดูเรื่องของหัวอิงสงอยู่ดีๆ ตัดกลับไปเริ่มใหม่กับตัวละครใหม่ ซึ่งในทางการเล่าเรื่องแล้วถ้าบทไม่ดีพอ ผู้กำกับคุมไม่อยู่แล้ว มันจะเกิดอาการแบบที่ A Man Called Heroเป็น ราวกับว่าผู้กำกับจะทำหนัง 2 เรื่อง แต่ดันหยิบฟิล์มสลับม้วนกัน
ส่วน A Man Called Hero ฉบับปี 2022 เนื้อเรื่องรวมๆ คล้ายกับของเก่า เปลี่ยนแปลงจากการ์ตูนพอควร แต่เลือกที่จะเล่าเรื่องของหัวอิงสงเป็นหลัก ขณะเดียวกันหนังมีความเป็นแฟนตาซีแบบซุปเปอร์ฮีโร่มากกว่ากำลังภายในหรือแฟนตาซีแบบจีนๆ กลุ่มนินจา 5 ธาตุออกมาเหมือนพวกมนุษย์กลายพันธุ์ในเอ็กซ์เมน มีพลังทั้งปล่อยไฟ ปล่อยของกันอุตลุด
แต่โดยส่วนตัวแล้วผมชอบนะ คือให้มันเป็นแฟนตาซีซุปเปอร์ฮีโร่แบบตั้งใจให้เป็นกันไปเลย แล้วก็ดูแบบปล่อยใจให้หนังพาไป ่ที่น่าเสียดายคือในการ์ตูนหัวอิงสงหนีไปอเมริกา แต่เรื่องนี้หนีมาไทย (ซึ่งดูยังไงก็ไม่เหมือนไทย)
ผมว่าหนังดึงความรู้สึกของคนจีนร่วมสมัยมาได้ดี กำหนดศัตรูตัวร้ายจริงๆ คือพวกฝรั่งอเมริกามากกว่าพวกนินจา แต่พวกฝรั่ง(อเมริกา)คือศัตรูร้ายของคนจีนทั้งดูถูก กดขี่ เอาเปรียบ ยิ่งมีฉากที่ฝรั่งทำร้ายดูถูกคนจีน แล้วถูกเจี้ยนสง(ลูกของหัวอิงสง)เหยียบหน้า ผมรู้สึกเลยว่าเป็นสารที่หนังส่งต่อความรู้สึกไปถึงอเมริกา
ยิ่งช่วงนี้ประกาศสงครามเย็นสงครามการค้ากันเต็มรูปแบบเช่นนี้ กลายเป็นว่ามันได้อารมณ์รักชาติตามธีมของการ์ตูนที่เป็นเรื่องราวของวีรบุรุษของคนจีนมากกว่า
ดารานำที่มาเล่นเป็นหัวอิงสงชื่อว่าหูปิง ดาราที่มักมีงานทางทีวีและสตรีมมิ่งของจีน ปัจจุบันออายุ 51 ปี หลายๆมุมเขาออกมาเหมือนเจิ้งอี้เจียนพระเอกจากหนังปี 1999 เหมือนกัน
โดยรวมแล้วงานโปรดักชั่นดีกว่าหนังจีนสตรีมมิ่งทั่วไป แต่ยังสู้หนังปี 1999 ไม่ได้ (ยกเว้น CG ที่ดีกว่าเดิม) ส่วนอารมณ์ดราม่าระหว่างหัวอิงสงกับภรรยาของเดิมทำได้ดีกว่า โดยเฉพาะชีวิตรัดทดของหัวอิงสงและภรรยา อย่างในฉากที่ทั้งคู่มาพบกันอีกครั้งที่อเมริกานี่เล่นเอาผมรู้สึกชอบมากๆ ซึ่งตอนอ่านการ์ตูนจะไม่รู้สึกแบบนี้
ในการ์ตูนไม่ค่อยมีเรื่องดึงอารมณ์ดราม่านัก ส่วนใหญ่จะหนักไปทางบู๊ถึงเลือด เพียงแต่หนังของเดิมไม่สม่ำเสมอในการเล่าเรื่อง แบ่งเรื่องย่อยมากเกินไป
ส่วนของใหม่พอมาโฟกัสที่หัวอิงสงคนเดียว ทำให้ไม่ซับซ้อน ตามเรื่องได้ง่าย แล้วยิ่งคิดว่ามันเป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่ ยิ่งรับได้และสนุกได้ อยากเห็นหัวอิงสงมาในหนังโรงทุนสูง ผู้กำกับดีๆ อย่างลู่หยาง(A Writer's Odyssey , Brotherhood of Blades)อีกสักที
 
สำหรับหนังสตรีมเวอร์ชั่นนี้ หนังไม่ได้ดีไปกว่าของเดิมแต่ผมดูได้สนุกครับ 6/10
โฆษณา