"ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ"
(อ่านกันนะ...จะได้ "ไม่ขาดผลประโยชน์" )
เคยฟังผ่านหู อ่านผ่านตา_ใช่ว่า...จะผ่านเลย
เมื่อจำเป็น เราก็ recall จาก memory มาใช้
เมื่อ...โดนรถกระบะชนท้าย...และ "เราเป็นฝ่ายถูก"
.
หลังซ่อมที่ศูนย์ HONDA เสร็จเรียบร้อย
(ในกรณีนี้คือ 7-25 พค.62 นับได้ 19 วัน)
ก็ขอใบรับรองการเข้าซ่อมมาด้วย
.
นำไปแจ้งขอ "ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ"
จากบริษัทประกันของคู่กรณี
(ในกรณีนี้คือ "กรุงเทพประกันภัย")
ค้นๆ...สาขา "กรุงเทพประกันภัย" ใกล้บ้าน...จาก Google
ว้าว...มีด้วย "สาขารังสิต" อยู่ตรง "แยกบางพูน"
.
19 วัน x 500 บาท/วัน = 9,500 บาท
(เยอะเชียว...ได้รับเอง ยังตกใจเองเลย 55+)
.
รวดเร็วทันใจมาก...ครึ่งชั่วโมงก็เสร็จ
แถมได้รับเป็นเงินสดทันใดเลย 👍
.
(ทีแรกนึกว่า...ต้องฝากสำเนาสมุดบัญชีธนาคารไว้
แล้วรอทางบริษัทกรุงเทพประกันภัยโอนเงินเข้า)
.
ทั้งนี้ แต่ละบริษัท อาจทำงานช้าเร็วต่างกันไป
**************************
กฎหมายนี้ เริ่มใช้มาตั้งแต่ 1 มกราคม 62
(เชื่อว่า...มีคนที่ยังไม่ทราบอีกมาก)
อ่านผ่านๆ ตา...กันไว้บ้างนะคะ...เผื่อจำเป็นต้องใช้
แต่...อย่าจำเป็นต้องใช้เลย...ดีที่สุดจ้า 😅
**************************
หมายเหตุ -
1. คปภ. คือ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
2. ที่จริงกฎหมายนี้มีมานาน แต่ การเรียกร้องยุ่งยาก
และมักจะตกลงกันไม่ค่อยได้ ต้องฟ้องร้องกันวุ่นวายมาก
.
คปภ. จึง กำหนดอัตราขั้นต่ำ ดังกล่าว
และประกาศใช้เมื่อ 1 มค. 62
3. "เราต้องเป็นฝ่ายถูก" จึงจะเรียกร้อง
"ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ" ได้
.
(กรณี...มีปัญหาเรื่องการไม่ยอมรับผิดของคู่กรณี (ทั้งที่เขาผิดจริง)
หรือ เพื่อป้องกันการพลิกคำให้การทีหลัง
ควรลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สถานีตำรวจด้วย)
//////////////////////////////////////
ที่จริง ช่วงปลายๆ ปี 2561
เมื่อ คปภ. แถลงข่าวเรื่องนี้
มีหลายสื่อพูดถึงเรื่องนี้ไว้มากมาย
นำมาฝาก...ตาม link ด้านล่าง
สำนักข่าวไทย
รายการ "หมอเงิน หมอความ"
.
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
