ถ่ายภาพเซลฟี่ติดคนอื่นผิดกฎหมายจริงมั้ย...?
สองสามวันที่ผ่านมานี้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันกระหึ่มว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 นี้เป็นต้นไป การถ่ายรูป “เซลฟี่” ติดภาพของคนอื่นไปด้วยจะทำไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย....บลาๆๆๆ
ประเด็นเรื่องนี้เป็นผลมาจากการมีผลบังคับใช้ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือที่เรียกกันว่ากฎหมาย PDPA (Personal Data Protection Act)
นักกฎหมายและนักวิชาการหลายท่านออกรายการทีวี.บอกว่ากฎหมายฉบับนี้มีผลตามที่กล่าวอ้างจริง ๆ ร้ายแรงถึงขนาดว่าจะติดตั้งกล้องวงจรปิดหน้าบ้านของตนเองก็ทำไม่ได้เพราะถ้ามีคนเดินผ่านกล้องและถูกบันทึกภาพไว้โดยไม่ได้รับความยินยอม ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
ความจริงก็คือว่า...มันเป็นเรื่องกระต่ายตื่นตูม เลอะเทอะ ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด...
พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA นั้น บัญญัติขึ้นด้วยวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือนำออกเผยแพร่โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ ไม่ว่าในทางใด เพราะอาจทำให้เขาเสียหาย ซึ่งเป็นความผิดทั้งในทางแพ่งและอาญา
แต่ไม่ได้หมายความว่าการมีไว้ซึ่งข้อมูลในลักษณะดังกล่าวจะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ไม่มีบทบัญญัติข้อใดในกฎหมาย PDPA บัญญัติว่าการมีข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถระบุตัวตนของบุคคลอื่นอยู่ในความครอบครองเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
ข้อมูลส่วนบุคคลไม่ใช่ยาเสพติดหรืออาวุธปืน หรือวัตถุระเบิด หรือเป็นสิ่งที่อาจก่อให้เกิดภยันตรายประการอื่นนะครับ การมีไว้ในครอบครองจึงเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าคุณจะมีรูปของแฟนหรือกิ๊กกี่คนไว้ในความครอบครอง มันก็ไม่ผิดกฎหมายเพราะไม่มีกฎหมายห้าม
กฎหมายห้ามแต่เฉพาะการนำออกเผยแพร่โดยไม่ได้รับความยินยอมเท่านั้น และยังมีข้อยกเว้นในเรื่องที่เกี่ยวกับความปลอดภัยหรือเพื่อความมั่นคงอีกต่างหาก
การถ่ายภาพเซลฟี่ตัวเองในที่ชุมชน ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีภาพบุคคลอื่นติดไปด้วยไม่มากก็น้อยไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย ตราบใดที่คุณไม่นำภาพนั้นไปใช้ในทางที่มิชอบด้วยกฎหมาย
ในทำนองเดียวกัน การติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่หน้าบ้านหรือในรถยนต์ซึ่งจะมีภาพของบุคคลอื่นติดอยู่ในในคลิปนับร้อยนับพันคนในแต่ละวัน คุณก็ไม่จำเป็นต้องไปขออนุญาตใครทั้งนั้น ตราบใดที่คุณไม่นำคลิปเหล่านั้นไปใช้ในทางที่มิชอบด้วยกฎหมาย
กล่าวโดยสรุปก็คือ ทุกคนสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้ตามปกติ อยากจะเซลฟี่ที่ไหน อยากติดกล้องวงจรปิดที่ไหนก็ติดไปได้เลย ไม่ต้องไปขออนุญาตใครทั้งสิ้น ตราบใดที่คุณไม่เอาข้อมูลเหล่านั้นไปใช้ในทางที่มิชอบด้วยกฎหมาย
สมมุติว่าคุณบันทึกภาพค้นร้ายกำลังก่อเหตุลักทรัพย์หรือชิงทรัพย์ผู้อื่นอยู่ และคุณนำภาพนั้นไปให้ตำรวจใช้เป็นพยานหลักฐานติดตามจับกุมตัวคนร้าย ถามว่าคนร้ายจะดำเนินคดีกับคุณในข้อหาเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับความยินยอมได้หรือไม่....?
คำตอบคือทำได้ครับ เพราะเป็นเรื่องของการคุ้มครองความปลอดภัยสาธารณะ
แต่ถ้าคุณแอบบันทึกภาพของคู่รักกำลังพลอดรักกันในที่รโหฐานแล้วเอาไปเผยแพร่ทางเฟสบุ๊คหรืออินสตาแกรมเพื่อเรียกยอดไลค์ยอดแชร์ คุณถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายอ่วมแน่นอน
ท้ายที่สุดนี้ขอเน้นย้ำเรื่อง “เจตนา” ครับ ถ้าคุณมีเจตนาสุจริตการกระทำของคุณไม่ผิดกฎหมายแน่นอนแต่ถ้าเจตนาทุจริตก็เตรียมตัวเป็นจำเลยไว้แต่เนิ่นๆเท่านั้นเองขอรับกระผม
ปรึกษาปัญหากฎหมาย...โทร. 0860400091
- 192
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
