29 พ.ค. 2022 เวลา 02:00 • นิยาย เรื่องสั้น
บทที่ 3
อย่าว่าแต่เราเลย ขนาดแม่เป็นเมียของพ่อเรา แม่ยังไม่รู้เลย ไม่อยากไปจุ้นจ้าน พ่อเราธรรมดาซะที่ไหน ไปยุ่งมากโวยวายตั้งแต่บางรักไปยันบางซื่อ”แม่ได้ทีนินทาพ่อให้ลูกฟัง
“ แล้วแม่ไปหลงแต่งงานกับพ่อได้ไง” ลูกชายเธอเริ่มผ่อนคลายแล้วมาแนวอยากรู้
“คำเดียวเลย รักไง เราเคยบอกกันว่าจะรักกันดูแลกัน แต่เราไม่เคยบอกว่าตลอดไปนะ” เธอเล่าให้ลูกฟัง
“อ้าวทำไมอะแม่ แบบนี้แปลว่าจะไม่รักกันหรอ” ลูกเธอเริ่มมีคำถาม
“ก็เพราะคำว่า ตลอดไปไม่มีอยู่จริงนะลูก เราเคยเห็นอะไรที่มันคงอยู่ตลอดไปไหม ทุกอย่างเป็นสัจธรรม คำทุกคำคือคำที่เราประดิษฐ์ขึ้นมา สำหรับแม่และพ่อ เราดูแลกันห่วงใยกันในทุกวัน นั่นก็คือสิ่งที่ดีที่สุดในทุกวัน เพราะเราไม่มีทางรู้หรอกว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร อย่างที่เราเห็นเมื่อวานเรายังนั่งคุยยังเจอพ่อ เช้าวันนี้พ่อต้องมาอยู่ที่โรงพยาบาล และตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าพ่อจะเป็นยังไงบ้าง”
“ ใช่ครับแม่”
“จำไว้นะลูก อย่าปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างไร้ค่า เพราะเวลาเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและมีค่าที่ทุกคนมี แต่ทุกคนใช้ไม่เหมือนกัน เวลาไม่สามารถย้อนคืนมาได้ ทำทุกนาทีให้มีค่า ไม่ว่าลูกคิดหรืออยากทำอะไร อย่าพลัดวันประกันพรุ่ง เพราะพรุ่งนี้อาจมาไม่ถึงนะ”
“ครับแม่” ลูกนั่งฟัง พลางคิดในใจ ผิดอะไรหว่า เหมือนโดนอบรมกลายๆเลย แล้วทำหน้าแบบแอบอมยิ้มนิดๆ
“เบื่อฟังแม่บ่นอีกแล้วใช่ไหม แต่ต้องทนนะลูก เพราะแม่ก็จะไม่เลิกบ่น เพราะเกิดมาเป็นแม่ลูกกันแล้วต้องอดทน”
แล้วสองแม่ลูกก็หัวเราะกัน คลายเครียดกันไป
“ญาติคนไข้ใช่ไหมคะ” นางพยาบาลเดินออกมาถาม
“ใช่คะ ครับ” สองแม่ลูกตอบพร้อมๆกัน
“สามีดิฉันเป็นอย่างไรบ้างคะ” เธอรีบถามนางพยาบาล
“ คนไข้อาการยังทรงๆอยู่นะคะ คุณหมอที่ดูแลขอดูอาการก่อน น่าจะเป็นวันต่อวันอะคะ ตอนนี้ยังตอบอะไรไม่ได้ แต่คนไข้เริ่มมีอาการตอบสนอง”
“คะ คะ ขอบคุณมากนะค่ะ คุณพยาบาล”
“ไม่เป็นไรคะ ยินดีค่ะ ถ้ามีอะไรเดี๋ยวพยาบาลจะมาแจ้งอีกทีนะคะ”
”ขอบคุณมากคะ ขอบคุณครับ” ทั้งแม่ลูกขอบคุณคุณพยาบาลที่ออกมาแจ้งอาการ
“พ่อเรานะดื้อมาก วันๆไม่ค่อยจะไปไหน ทำงานกลับบ้าน ออกจากบ้านไปทำงาน ชีวิตแทบเป็นรูปแบบ แต่ก็เข้าใจพ่อเขานะ คนเราพอคบกัน แล้วมาใช้ชีวิตร่วมกัน ก็คือเราต้องยอมรับในตัวตนของเขา แต่ตั้งแต่มีเราพ่อก็ยังเปลี่ยนไปดีขึ้น ยังรู้จักหาเวลาไปเที่ยวด้วยกัน เป็นเมื่อก่อนนะ แม่ไม่อยากบ่น ไม่อะไรเลย วันๆเอาแต่ดูทีวี จนสงสัยเป็นเจ้าของสถานีหรือไง”แม่บ่นยาว
“ใช่ครับแม่ ตอนเด็กๆผมจำได้ ตอนผมปิดเทอม พ่อบอกจะพาไปเที่ยว ไว้เคลียร์งานเรียบร้อย”ลูกเริ่มบ้าง
“อ้าวหรอลูก แล้วยังไง อย่าบอกนะว่า พ่อเราพาไปเที่ยวในจอทีวี แบบเครื่องเดียวไปทั่วโลก” แม่เริ่มเหน็บนินทาสามีเธอ
“แม่เดาถูกเลย” ลูกตอบทันที
“ว่าแล้ว ซื้อหวยไม่เคยถูก แต่ถ้าเรื่องพ่อเราแม่เดาถูกเสมอ555”
“ผมจำได้ วันนั้นตอนกลางคืน พ่อนั่งดูทีวี แล้วผมเดินออกมาหาพ่อ แล้วผมบอกพ่อ”
“ลูกบอกว่าอะไรหรอ” แม่ถามต่อ
“ ผมบอกว่าพ่อโกหก พ่อสัญญากับผมว่าหยุดปิดเทอม พ่อจะพาผมไปเที่ยว แต่พ่อก็ไม่ทำตามสัญญา ผมไม่รักพ่อแล้ว พ่อโกหกผม แล้วผมก็ร้องไห้แล้วเข้าห้องนอนอะแม่” เขาเล่าถึงตอนนี้ตาเริ่มแดง
“อ้าวหรอ” แม่ไม่แปลกใจ เพราะรู้นิสัยสามีเธอดี
“ เอาน่าลูก พ่อเขาคงไม่อยากไปไหนเพราะเขาออกไปทำงาน เขาก็เหนื่อย เพราะเขาต้องหาเลี้ยงชีพเพื่อดูแลครอบครัวเรา”
“ว่าแต่เรื่องนี้นานยัง”แม่ย้อนกลับมาถาม
“นานแล้วครับแม่ ตั้งแต่ผมเรียนประถม”
“แต่ว่า….”แม่เริ่มเปรย
“แต่ว่าอะไรครับแม่”ลูกเริ่มตั้งคำถามกลับพร้อมใบหน้าที่มีคำถาม
“แต่ช่วงหลังๆพ่อเขาก็มีพาพวกเราไปเที่ยวมากขึ้น เราสังเกตไหม ทุกๆปีพ่อจะพาพวกเราไปเที่ยว บางปีไปหลายที่เลย”
“ใช่ๆครับแม่ ช่วงหลังๆพ่อพาพวกเราไปเที่ยวทุกปี”ลูกคิดแบบเดียวกันกับแม่ของเขา
“แปลว่าดีขึ้น555”แม่หัวเราะแนวเออสามีเธอก็เปลี่ยนความคิดเป็น คงแนวต้องให้ลูกสอน
ปุ…เสียงถุงของสามีเธอที่เอาติดตัวมา หล่นลงไปที่พื้น ของในถุงหล่นออกมา เธอกับลูกช่วยกันเก็บ
พลันสายตาเหลือบไปเห็น สมุดจดเล่มเล็กที่หล่นออกมา เธอหยิบขึ้นมา แล้วมาเปิดดู เธอไม่เคยเห็นสมุดจดเล่มนี้ เพราะเธอถือว่าเธอจะไม่ไปยุ่งหรือค้นอะไรที่เป็นส่วนตัวของสามีเธอ
“สมุดอะไรครับแม่”
“ของพ่อเราอะ แต่แม่ก็ไม่เคยเห็นนะ”
(ติดตามตอนต่อไป) เพราะความสุขอยู่รอบตัวเราเสมอ…#บ๊อบบี้บอกไว้นะฮาฟ #เพื่อนกันวันละโพส
โฆษณา