29 พ.ค. 2022 เวลา 08:02 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Top gun Maverick
ต่อให้เครื่องเสียงที่บ้านดีแค่ไหนแต่หนังเรื่องนี้คือหนังที่ควรไปดูในโรงอย่างยิ่ง
คิดเล่นๆว่าถ้าโทนี่ สกอตต์ยังอยู่และกำกับหนังเรื่องนี้ แล้วเกิดมีนายทหารสักคนหนึ่งมาดูแล้วบอกว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่ระยะเวลา 30 กว่าปีพีท มิเชลนักบินขับไล่มือหนึ่งของราชนาวีอเมริกาจะไม่ได้รับการโปรโมทเลื่อนยศใดๆ ทั้งสิ้น โทนี่คงตอบไปว่าผมไม่ได้ทำหนังให้ทหารดูแต่ผมทำหนังให้คนดูทั่วไปและผมจะสร้างให้ตัวละครผมมันเท่
เพราะในตอนที่แกทำทับกันภาคแรกก็มีนักบินมาท้วงแก่เรื่องตราสัญลักษณ์บน jacket ที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงแกก็บอกไปว่าไม่ได้ทำให้นักบินดูแต่ทำให้ตาสีตาสาที่อยู่กลางทุ่งดูต่างหาก
อย่างที่รู้ว่าโทนี่ สกอตต์ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดสะพานเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และTop Gun Maverick กำกับโดยโจเซฟ โคซินสกี้ แต่ต้องบอกว่างานที่ออกมามันคืองานทำเหมือนโทนี สกอตต์หนังเล่าเรื่องหลวมๆมีตัวละครที่ดูเท่ความสัมพันธ์ของกลุ่มเพื่อนและฉากแอคชั่น พร้อมกับเพลงประกอบที่ติดหู ซึ่งมันก็เป็นสูตรสำเร็จของผู้อำนวยการสร้างอย่างดอน ซิมพ์สันและเจอร์รี่ บรักไฮม์เมอร์
เช่นเดียวกับโทนี สกอต์ตดอน ชิมพ์สันก็ตายไปนานแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกขนลุกที่เห็นชื่อเขาบนเครดิตหนังเรื่องนี้
หนังเต็มไปด้วยทุกสิ่งอย่างที่โทนี่สก็อตเคยสร้างเอาไว้เมื่อ 36 ปีที่แล้ว มันคืองานที่ทำมาเพื่อคารวะโทนี สกอตต์อย่างแท้จริง ฉากเปิดเรื่องบนเรือบรรทุกเครื่องบินเหมือนกัน
พอเพลง Top Gun Anthem  ดังขึ้น สร้างความรู้สึกฮึกเหิมแล้วต่อด้วย Danger Zone อันเป็นเพลงที่ จอร์จิโอ มอโดโร เขียนขึ้นสำหรับหนังภาคแรกและโด่งดังทะลุฟ้า มันดึงกระชากผู้ชมกลับไปสู่ท็อปกันฉบับดั้งเดิมแล้วต่อด้วยของใหม่ทันที
ฉากที่เป็นภาพจำของหนังภาคแรกกลับมาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการซิ่งมอเตอร์ไซค์ kawasaki  ninja ควบคู่ไปกับเครื่องบินไอพ่นที่กำลังบินทะยานไปข้างหน้า ฉากในบาร์ที่เหล่านักบินสนุกกันอย่างสุดเหวี่ยงพร้อมกับเพลงเบสเกรอ บอล ออฟ ไฟเออร์
ภาพที่มาร์เวอริคผลิตขี่มอเตอร์ไซค์นินจาส่งสาวถึงหน้าบ้าน รวมไปถึงฉากเล่นฟุตบอลชายหาดมันล้วนแล้วแต่คือภาพจำของหนังเรื่องนี้จากยุค 80 เพียงแต่ว่าเปลี่ยนจากวอลเลย์บอลชายหาดเป็นฟุตบอลชายหาด
ตอนหนังภาคแรกออกฉายมันได้รับเสียงวิจารณ์ว่า hollywood สามารถเอาขยะมาขายได้ สำหรับภาคนี้มันก็แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ top กัน 1986 เป็นอยู่มันไม่ใช่ขยะแต่มันคือวัฒนธรรมร่วมสมัยที่ส่งอิทธิพลให้หนังอเมริกันหลังจากนั้นเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ และดีเอ็นเอของท็อปกันแทรกซึมไปในทุกอณูของหนัง action
การเล่าเรื่องทำได้ดีกว่าฉบับ 1986 เพราะโทนี สกอตต์ให้ความสำคัญกับสไตล์มากกว่า แต่เขาก็คิดถูกที่เน้นสไตล์เพราะมันเป็นสิ่งที่ทำให้คนจดจำหนังได้มากกว่าเนื้อเรื่อง และสไตล์ที่เขาสร้างไว้ก็คงอยู่ถึงทุกวันนี้ แล้วก็นึกให้สงสารผู้กำกับโจเซฟ ที่ต่อไปในอนาคตไม่ว่าใครจะพูดถึงหนังเรื่องนี้ จะต้องพูดถึงโทนี่ สกอตต์ควบคู่กันไปด้วย
Top gun Maverick เป็นหนังที่ต้องดูในโรงเท่านั้นครับถึงจะได้อรรถรสเต็มอิ่มจริงๆ
7/10
โฆษณา